• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563

    10 พฤศจิกายน 2563 | Gold News

ทองลงแรงกว่า 4% - หุ้นพุ่งแรง ขานรับคืบหน้าวัคซีน Covid-19

· ราคาทองคำปรับตัวลงไปกว่า 4% จากข่าวความสำเร็จแรกในการทดลองวัคซีน Covid-19 ขั้นสุดท้ายของบริษัท Pfizer Inc ที่พบประสิทธิภาพทางการแพทย์สูงกว่า 90% พร้อมคาดอาจได้รับอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินจากสหรัฐฯ ช่วงปลายเดือนนี้

ข่าวดังกล่าวหนุน “หุ้นพุ่งแรง” นักลงทุนกลับเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง ลดการถือ Safe-Haven “กดดันทอง”

ราคาทองคำตลาดโลกปิด -4.8% ที่ 1,857.61 เหรียญ หลังจากระหว่างวันทำ High บริเวณ 1,965 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดรอบ 2 เดือน และทำ Low ที่ 1,850 เหรียญ (ผันผวนปรับลงกว่า 115 เหรียญ)

· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเทขายทองคำออก 10.51 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,249.79 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา

· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -5% ที่ 1,854.40 เหรียญ

· ราคาซิลเวอร์ปิด - 7.3% ที่ระดับ 23.73 เหรียญ หลังระหว่างวันทำ High ที่ 25.98 เหรียญ และช่วงค่ำทำ Low 23.55 เหรียญ

· ราคาแพลทินัมปิด -2.9% ที่ 863.02 เหรียญ

· ราคาพลาเดียมปิด -0.7% ที่ 2,474.51 เหรียญ

· นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า แม้ว่าตลาดจะมีความกังวลว่าผลลัพธ์จากวัคซีนอาจจะไม่แข็งแกร่งพอ แต่ข่าวคืบหน้าล่าสุดก็ทำให้ตลาดกลับมามีสภาวะเป็น Risk-On อีกครั้ง จึงสร้างความผันผวนให้แก่ทองคำ

อย่างไรก็ดี ภาพรวมเศรษฐกิจยังจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นเพิาม ขณะที่วัคซีนดังกล่าวหากแล้วเสร็จจะมีเพียง 50 ล้านโดส และเราก็ยังไม่เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางของไวรัสเวลานี้ ท่ามกลางการเรียกร้องให้เกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

· นักวิเคราะห์จาก Commerzbank มองว่าถ้าคุณคิดว่าคุณมีชีวิตที่ดีที่สุดในโลก คุณก็ไม่จำเป็นต้องมีทอง

ขณะที่การประเมินวัคซีนก็ยังไม่เต็ม 100% และเมื่อพิจารณาจากที่ผ่านมา จะเห็นว่า เมื่อไรก็ตามที่ทองลงต่ำกว่า 1,900 เหรียญ ก็จะกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อเข้าสู่ตลาด ดังนั้นสภาวะแบบนี้จึงน่าจะกลับมาอีกครั้ง

· นักวิเคราะห์บางรายมองความเป็นไปได้ที่ตลาดทองคำจะเปลี่ยนตามข่าวใหม่ๆ ที่ไม่มีใครคิดว่าหลังจากข่าวเลือกตั้งสหรัฐฯจบลง “ข่าววัคซีน Covid-19” ก็กลับมาเป็นประเด็นต่อตลาด


· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก FXStreet แนะจับตาระดับสำคัญในทองคำ หลัง Pfizer เผยคืบหน้าวัคซีนเห็นผลกว่า 90% หลัง บรรดากลุ่มผู้ร่วมทดสอบวัคซีน 43,500 รายแข็งแรงขึ้นในกระบวนการทดลองเฟสที่ 3

ระดับสำคัญที่ต้องจับตาคือ 1,880 เหรียญ, 1,870 เหรียญ และเพราะหากหลุดลงมาก็จะสะท้อนถึงภาวะขาลง

แต่หากราคาสามารถ Break ระดับ 1,930 เหรียญ และไปที่ 1,965 - 1,672 เหรียญ จณ

สัญญาณ RSI สะท้อนในแดน Overbought ก่อนทราบข่าวบริษัท Pfizer ขณะที่ในทางเทคนิคเวลานี้ทองคำจะมีระดับแนวรับที่ 1,848 เหรียญ ซึ่งเป็น Pivot Point ของแนวรับแรกในช่วง 1 เดือน


· Pfizer ร่วมกับ BioNTech เผย วัคซีน COVID-19 ของพวกเขามีประสิทธิภาพกว่า “90%”

· การทดลองวัคซีน Covid-19 ของ Novavax ได้รับสถานะ “Fast-Track” จากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA)

· Goldman Sachs คาด เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ตามคาด จากความหวังวัคซีน-ไบเดนชนะ

· ยอดติดเชื้อ Covid-19 รวมทั่วโลกทะลุ 51 ล้านราย ล่าสุด 51.23 ล้านราย ขณะที่เสียชีวิตรวม 1.268 ล้านราย

· ยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 34% ในสัปดาห์ที่แล้ว ทำสูงสุดใหม่ประวัติการณ์ ด้านยอดรวมสะสม 10.42 ล้านราย และเสียชีวิตรวมกว่า 244,000 ราย


· ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก คาดอัตราติดเชื้อไวรัสโคโรนาจะเพิ่มขึ้นในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว


· ประธานองค์การการค้าโลก (WHO) เผยมีแนวโน้มอย่างมากที่จะได้ปฏิบัติงานร่วมกับทีมบริหารของไบเดน


· ไบเดนชื่นชมคืบหน้าวัคซีน ช่วยหนุนความเชื่อมั่นให้แก่ทำเนียบขาว

นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ กล่าวชื่นชมความคืบหน้าเรื่องวัคซีน Covid-19 ของบริษัท Pfizer พร้อมกันนี้ยังคงเรียกร้องให้ชาวสหรัฐฯสวมใส่หน้ากากอนามัยเนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดการระบาดเป็นวงกว้างต่อไปอีกหลายๆเลือนจากนี้ แม้ว่าทีมบริหารของนายทรัมป์จะพยายามทำลายความเชื่อมั่นในตัวของเขาก็ตาม


· เฟด ชี้ สหรัฐฯเผชิญความเป็นไปได้เรื่องการผิดนัดชำระหนี้ ท่ามกลางสินทรัพย์ต่างๆที่ปรับตัวลงช่วง Covid-19

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวเตือนว่า สหรัฐฯอาจยังคงเผชิญกับภาวการณ์ผิดนัดชำระหนี้ ประกอบกับการปรับตัวลดลงของราคาสินทรัพย์ต่างๆ อันเนื่องจากได้รับผลกระทบของไวรัสโคโรนาและภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่ยังคงสร้างผลกระทบเชิงลบทางเศรษฐกิจ

โดยจะเห็นได้ว่าในหลายๆภาคครัวเรือนมีการชะลอตัวลง ท่ามกลาง การผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ที่จะเพิ่มสูงขึ้น ที่อาจนำไปสู่ภาวะสูญเสียมากขึ้นได้สำหรับกลุ่มผู้ปล่อยเงินกู้ ทางด้านภาคธุรกิจก็มีการกู้ยืมเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางผลประกอบการที่อ่อนแอ โดยผลประกอบการลดลงท่ามกลางกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดความสดใสและจำกัดความสามารถของภาคธุริกจและการบริการ

นอกจากนี้ ยังคงมีความผันผวนอย่างมากที่เสี่ยงจะกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้ลดลง หรือหากภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนั้นยังคงมีความอ่อนแอ

แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้จะปรับตัวขึ้นขานรับข่าววัคซีน Covid-19 ที่เป็นไปได้ที่อาจช่วยส่งผลกระทบเชิงบวกต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนทั่วโลกก็ตาม

· ปูตินไม่แสดงความยินดีต่อไบเดน – ผู้เชี่ยวชาญคาดอาจสะท้อนถึงผลกระทบความสัมพันธ์สหรัฐฯ-รัสเซีย

โดยเวลานี้แนวโน้มความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเปลี่ยนแปลงไป

บรรดานักวิเคราะห์กล่าวกับ CNBC โดยระบุว่า ดูจะมีความตึงเครียดมากขึ้นระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ เมื่อนายไบเดนขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ จึงมีโอกาสเห็นความเป็นไปได้ที่จะเห็นสหรัฐฯทำการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่

หากสหรัฐฯจะทำการผ่อนคลายการคว่ำบาตรให้แก่รัสเซีย ก็ต้องมีแนวโน้มมาจากการเห็นความคืบหน้ามากขึ้นในความพยายามแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งบริเวณไครเมีย, และในทางตะวันออกของแคว้น Donbass ในยูเครน


· อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสรหัฐฯ และเป็นผู้อำนวยการสภา Transatlantic Security Initiative ประจำแอตแลนติก กล่าวว่า ข่าวลือเรื่องนาโต้จะประชุมเร็วขึ้นกับทีมบริหารนายไบเดน ดูจะเป็นการส่งสัญญาณในการเริ่มความสัมพันธ์ของคาบสมุทรแอตแลนติกใหม่ ที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจากทีมบริหารของนายทรัมป์

ดังนั้น จึงคาดว่าความพยายามในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและอียู จะเป็นไปในทิศทางที่ดีมากยิ่งขึ้


· อียูเพิ่มภาษีสินค้าสหรัฐฯมูลค่า 4 พันล้านเหรียญ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ขาด “ความคืบหน้า” ในการแก้ไขปัญหาจากทางสหรัฐฯเป็นระยะเวลายาวนานนับตั้งแต่ที่เกิดข้อพิพาทเรื่องสายการบิน Boeing

โดยในช่วงแรกนั้น WTO ตัดสินให้สหรัฐฯสามารถทำการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้ายุโรปได้มูลค่า 7.5 พันล้านเหรียญ แต่หลังจากพิจารณาคำร้องก็พบว่าสหรัฐฯไม่ได้ดำเนินการตามกฎของ WTO จึงพิจารณาให้อียูสามารถดำเนินการเก็บภาษีเพิ่มจากสหรัฐฯได้


· “แมคคอนเนล” ผู้นำวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวว่านายทรัมป์มีสิทธิ์ตรวจสอบกระบวนการเลือกตั้งตามกฎหมาย “หากพบความผิดปกติ” ในการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในเวลานี้ยังคงไม่เห็นหลักฐานใดๆสนับสนุนการฉ้อโกง


· “ทรัมป์” ไล่ “มาร์ก เอสเปอร์” เลขาธิการกระทรวงความมั่นคงออกหลังเลือกตั้ง หลังจากที่ดำเนินนโยบายที่ต่างจากเขา ท่ามกลางการดำรงตำแหน่งในช่วงเวลาไม่กี่เดือนสุดท้ายก่อนที่จะต้องส่งมอบให้กับทีมริหารของนายไบเดนที่จะเข้าสู่พิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.

การไล่ออกดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากนายเอสเปอร์ขัดคำสั่งเขาในการใช้กำลังทหารปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาจากเหตุที่นายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวผิวสี เสียชีวิตจากการกระทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.50 - 30.65 บาท/ดอลลาร์ ตลาดยังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในเดือนหน้า ว่าจะมีการเพิ่ม QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือ ไม่ ในขณะที่ปัจจัยการเมืองภายในประเทศของไทยเอง ยังมีผลที่จำกัดต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินบาท

- รมว.คลัง เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งคณะกรรมการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อติดตามโครงการลงทุนขนาดใหญ่ให้มีการเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย เหตุงบประมาณปี 2564 มีความล่าช้ามาแล้วครึ่งเดือน พร้อมตั้งเป้าส่วนราชการต้องเบิกจ่ายงบประมาณในปี 64 ให้ได้ตามเป้าหมายที่ 95% ส่วนรัฐวิสาหกิจต้องให้ได้ 100%

- ประธานสมาคมธนาคารไทย ชี้ทิศทางเศรษฐกิจไทยอาจต้องเจอกับความท้าทายมากกว่าหลายประเทศจากผลกระทบของโควิด เหตุไทยพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวในระดับสูง หนี้ครัวเรือนสูง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แนะการทำธุรกิจท่ามกลางความท้าทายต้องมีความยืดหยุ่น กล้าทำในสิ่งใหม่ ยึดหลักการลองผิดลองถูกจะช่วยให้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มโอกาสการหา Theright solution ภายใต้ต้นทุนการผิดพลาดต่ำ

- บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ในกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) และ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเฉพาะกลุ่มดีเซลอีก 40 สตางค์/ลิตร ส่วนกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ยังคงเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 63 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น ในวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ น้ำมันดีเซล B7 อยู่ที่ลิตรละ 22.29 บาท, B10 ลิตรละ 19.29 บาท และ B20 ลิตรละ 19.04 บาท, เบนซิน ออกเทน 95 ของ PTT Station ลิตรละ 28.76 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 21.35 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 21.08 บาท, E20 ลิตรละ 19.84 บาท, E85 ลิตรละ 17.69 บาท

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com