· ข่าววัคซีนกระตุ้นหนุนหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มโรงแรมขึ้นหนุนหุ้นญี่ปุ่น หลังมาตรการ stay-at-home ใช้ได้ผล
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนทั่วโลกต่างได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการทดลองวัคซีนไวรัสโคโรนาที่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าความล่าช้าที่คาดไว้ในการเปิดตัวหลาย ๆ ครั้งจะช่วยลดผลกำไรในช่วงต้นก็ตาม
โดยปัจจัยเชิงบวกในตลาดหุ้นเอเชียเกิดขึ้นหลังจากบริษัท Pfizer กล่าวว่า วัคซีนที่บริษัทได้พัฒนาร่วมกับบริษัท BioNTech จากเยอรมันนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโคโรนาได้ สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน
ขณะที่นักวิเคราะห์ ระบุว่า การลดลงของดัชนีของจีนต่อหุ้นเทคโนโลยีซึ่งได้รับแรงกดดันเนื่องจากนักลงทุนมองว่าผู้บริโภคพึ่งพาเทคโนโลยีน้อยลง
ด้านหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นสู่ระดับที่ดีที่สุดในรอบเกือบสามทศวรรษ เนื่องจากหุ้นของสายการบิน ผู้ให้บริการรถไฟและห้างสรรพสินค้าพุ่งสูงขึ้น หลังจากข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา
นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจกับมูลค่าหุ้นที่ดีขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ตลาดได้รับอานิสงส์จากมาตรการ Stay-at-home ในช่วง Covid-19 ที่ส่งเสริมให้หุ้นในกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต และเกมส์ปรับตัวดีขึ้น
โดยดัชนี Nikkei ปิด +0.2% ที่ระดับ 24905.59 จุด หลังจากขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับัต้งแต่เดือนมิ.ย. ปี 1991 ด้านดัชนี Topix +1.12% ที่ระดับ 1,700.80 จุด
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.1%
· หุ้นจีนปิดลบ หลังเงินเฟ้อเดือนต.ค.ชะลอตัวลง
ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลงในวันนี้
เนื่องจากข้อมูลจำนวนมากส่งสัญญาณเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง
โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลง หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 1.7% ในเดือนก.ย. และเป็นการชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากราคาอาหารร่วงลงอย่างหนัก
ทั้งนี้ ดัชนี blue-chip CSI300 ปิด -0.6% ที่ระดับ 4,953.88 จุด หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีในช่วงก่อนหน้านี้ ด้านดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.4%
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.4% ด้านหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและการพักผ่อนพุ่ง 1.2% ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีร่วงลง 1%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ
หุ้นไทยทะยานบวกตามหุ้นโลก ขานรับคืบหน้าวัคซีนต้าน COVID
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศที่ตอบรับปัจจัยบวกทั้งผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และความคืบหน้าสำคัญของการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 จึงคาดแนวโน้ม SET INDEX หากสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,300 จุดได้อีกครั้ง จะมีโมเมนตั้มหนุนไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,320 และ 1,350 จุด ล่าสุด “ไฟเซอร์ อิงค์” เตรียมยื่นจดทะเบียนวัคซีนกับ FDA สหรัฐในสัปดาห์หน้า พร้อมผลิตทันปีนี้ 50 ล้านโดส และ 1,300 ล้านโดสปีหน้า
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายกรมบัญชีกลางว่า ให้มุ่งเน้นในการเบิกจ่ายงบประมาณรวดเร็วยิ่งขึ้น และให้มีความรอบคอบเนื่องจากเป็นงบประมาณ ของแผ่นดิน รวมถึงการตอบสนองสอดรับ ต่อนโยบายของรัฐบาล เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอาทิ โครงการชิม ช้อป ใช้ โครงการเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง และโครงการช้อปดีมีคืน เป็นต้น
- รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจ ท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ท่องเที่ยวไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางได้มากขึ้นกระทรวงการต่างประเทศผ่อนปรนการพิจารณาออกวีซ่าประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวมากขึ้น
- ธปท.ส่องไตรมาส 4 ยอดยึดรถโผล่เพิ่ม เหตุลูกหนี้ภาระหนี้รัดตัว กดดันแบงก์คุมเข้มสินเชื่อต่อ "เกียรตินาคินภัทร" รับพบยอดยึดรถเพิ่มแต่ยังอยู่ระดับบริหารจัดการ เร่งคุยดีลเลอร์ ซื้อรถคืน หลังลูกหนี้ผ่อนไม่ไหว
· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
- “บีทีเอส” ลงสนามชิงรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก พร้อมสิทธิเดินรถทั้งเส้นบางขุขนนท์-มีนบุรี มั่นใจข้อเสนอ หนุนโครงข่ายรถไฟฟ้าสมบูรณ์ขึ้น “บีอีเอ็ม” ฉายเดี่ยวยื่นซองรายแรกพร้อมชงข้อเสนอพิเศษ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์–มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วานนี้ (9 พ.ย.) มีผู้ยื่นซอง 2 ราย คือ 1.กลุ่มกิจการร่วมค้า BSR 2.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีอีเอ็ม จากมีผู้ซื้อซองทั้งหมด 10 ราย