· ดอลลาร์อ่อนค่าท่ามกลาง "ความไม่แน่นอนวัคซีน" - ค่าเงินกีวีแข็งหลังประชุม RBNZ
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า โดยที่มุมมองเชิงบวกของความเป็นไปได้ในเรื่องวัคซีน Covid-19 ถูกบดบังจาก "ความกังวลเกี่ยวกับวิธีการขนส่งวัคซีน" และการระบาดของไวรัสโคโรนาที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างหนักในยุโรป
ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถว 92.741 จุด
ค่าเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์แข็งค่าจากที่ปรับอ่อนค่าในช่วงต้นตลาด ทำแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่ลดคาดการณ์เกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางของประเทศ (RBNZ) จะใช้ดอกเบี้ยเชิงลบ โดยในวันนี้ RBNZ มีการคงดอกเบี้ยที่ 0.25% และมีการแนะนำเครื่อง่มือดำเนินนโยบายตัวใหม่เพื่อสนับสนุนการปล่อยกู้เพิ่มขึ้น เพื่อลดการกู้ยืมของภาคธนาคารต่างๆ ตามคาดการณ์
ค่าเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์ปรับแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่มี.ค. 2019 บริเวณ 0.6904
ค่าเงินเยนทรงตัวบริเวณ 105.28 เยน/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวใกล้ระดับอ่อนค่ามากสุดรอบ 3 สัปดาห์
ค่าเงินหยวนอ่อนค่าไปที่ 6.6001 หยวน/ดอลลาร์
ค่าเงินวอนของเกาหลีและสิงคโปร์ดอลลาร์ก็ปรับแข็งค่าขึ้นเช่นกัน
ค่าเงินยูโรเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแถว 1.1822 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินปอนด์เคลื่อนไหวบริเวณ 1.3258 ดอลลาร์/ปอนด์ ใกล้ระดับสูงสุดรอบ 2 เดือน ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกระหว่าง "อังกฤษ-อียู" ที่อาจตกลงกันได้สำหรับข้อตกลงการค้า หลังประสบปัญหาไม่ลงรอยกันมาเป็นเวลานาน
ความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์บางส่วน มาจากการตอบรับกับวัคซีน Covid-19 จากการอัพเดตข้อมูลทดลองจากบริษัท Pfizer Inc และ BioNTech เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี การตอบรับเชิงบวกของวัคซีนก็ดูจะเป็นไปเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากอุปสรรคด้านโลจิสติกส์ในหลายๆประการสำหรับการขนส่งตัวยา ประกอบไปด้วย การขนส่งวัคซีนที่จำเป็นต้องอยู่ในอุณหภูมิที่หนาวจัด
หลายๆรัฐในสหรัฐฯมีการกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่ยอดการรักษาในโรงพยาบาลปรับตัวสูงขึ้น ที่เป็นการตอกย้ำว่า ยังมีความยากลำบากในการจำกัดการระบาดของไวรัสโคโรนาในช่วง "หน้าหนาว" โดยเฉพาะทาง Northern Hemisphere
· ผลสำรวจ Reuters/Ipsos poll เผย ชาวอเมริกาเกือบ 80% เชื่อว่า "ไบเดน" ชนะเลือกตั้ง ครองทำเนียบขาว - เมิน "ทรัมป์" ไม่ยอมรับผลคะแนนเลือกตั้ง
· ทีมตรวจสอบของนายไบเดน จะประกอบไปด้วยพนักงานจากบริษัทต่างๆ อาทิ บริษัท Amazon, Airbnb และ Uber
· CORONAVIRUS UPDATES:
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกในช่วงบ่ายวันนี้พบว่าใกล้ทะลุ 52 ล้านรายมากขึ้น ขณะที่ยอดเสียชีวิตโดยรวมทั่วโลกใกล้แตะ 1.3 ล้านราย
ด้านสหรัฐฯยังพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดอยู่แถว 10.568 ล้านราย ด้านการเสียชีวิตสะสมภายในประเทศใกล้ทะยานเหนือ 246,000 ราย
· วัคซีนจาก Pfizer และ BioNTech เผชิญกับความท้าทายด้านโลจิสติกส์ทั่วโลก
เนื่องด้วยตัวยาจำเป็นต้องถูกเก็บในคลังที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า -70 องศาเซลเซียส (-94 องศาฟาเรนไฮต์) ท่ามกลางการหาตู้เก็บวัคซีนขนาดใหญ่ในการเก็บวัคซีนจำนวนมากในหลายๆพื้นที่ ที่อาจกลายมาเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับการขนย้ายวัคซีน Covid-19
· อียูจะทำสัญญาซื้อวัคซีนต้านโควิด 300 ล้านโดสจาก Pfizer-BioNTech
นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า อียูจะอนุมัติสัญญาเพื่อจัดซื้อวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาปริมาณมากถึง 300 ล้านโดสจากบริษัท Pfizer ของสหรัฐฯที่พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี
ยอดเสียชีวิตโควิดในยุโรปทะลุ 300,000 ราย ท่ามกลางการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวและการระบาดที่เพิ่มมาขึ้น ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ มีความวิตกกังวลว่าการระบาดครั้งนี้ จะเพิ่มขึ้นทั่วภูมิภาคในช่วง "ฤดูหนาว" แม้จะมีความหวังเรื่องวัคซีนก็ตาม
สัดส่วนประชากรในยุโรปคิดเป็น 10% ของประชากรทั่วโลก และยุโรปมีจำนวนผู้เสียชีวิตเกือบ 1 ใน 4 จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกที่รวมอยุ่ที่ 1.2 ล้านราย ขณะที่โรงพยาบาลเริ่มดูเหมือนจะไม่เพียงพอต่อการให้การดูแล
อย่างไรก็ดี ภาพรวมในยุโรปพบ ยอดติดเชื้อรวมกันทั้งหมด 12.8 ล้านราย และมียอดเสียชีวิตทั่วภูมิภาครวมกัน 300,114 ราย
สัปดาห์ที่แล้วพบผู้ติดเชื้อใหม่เเพิ่มขึ้น 280,000 ราย หรือคิดเป็น 10% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า และยังถือเป็นจำนวนยอดติดเชื้อที่สูงเกินครึ่งของรายงานการติดเชื้อจากทั่วทุกมุมโลก
· เกาหลีใต้เรียกร้อง "ไบเดน" จัดประชุมสุดยอดผู้นำเพื่อเจรจาเรื่องผลประโยชน์กับเกาหลีเหนือ
นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เปิดเผยถึงการจะโทรศัพท์หานายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้
เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเกาหลีใต้ กล่าวย้ำถึงความจำเป็นในความพยายามแก้ปัญหาทางการทูตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ในคาบสมุทรเกาหลีเหนือ อันเนื่องจากการเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของทางเกาหลีเหนือ
ดังนั้น การกลับมาเจรจากันอีกครั้งระหว่าง "สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ" จึงถือเป็นเรื่องสำคัญมากในลำดับต้นๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในการประชุมสุดยอดผู้นำ
· สิงคโปร์-ฮ่องกง เริ่มเปิดเที่ยวบิน 22 พ.ย. นี้ ภายใต้เงื่อนไขข้อแนะนำใหม่สำหรับผู้โดยสารที่จะได้รับอนุมัติในการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศ โดยปราศจากความจำเป็นในการกักกันตัวเองเมื่อเดินทางถึงปลายทาง
· น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อ ท่ามกลางสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับลง - ตลาดหวังวัคซีน Covid-19
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 1% หลังจากที่รายงานจากภาคอุตสาหกรรม เผย ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงเกินกว่าที่คาด 5.1 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับ 482 ล้านบาร์เรล
ขณะที่ความหวังในเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน Covid-19 ก็ยังคงช่วยหนุนความเชื่อมั่นในตลาดได้อยู่
น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 48 เซนต์ หรือ +1.1% ที่ 44.09 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นได้ประมาณ 48 เซนต์ หรือ +1.2% ที่ 41.84 เหรียญ/บาร์เรล
อย่างไรก็ดี ภาพรวมราคาน้ำมันยังปรับขึ้นต่อ หลังจากที่น้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิดปรับขึ้นได้เกือบ 3% เมื่อคืนที่ผ่านมา