• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563

    11 พฤศจิกายน 2563 | Economic News
 

·         ดอลลาร์อ่อนค่าท่ามกลาง "ความไม่แน่นอนวัคซีน" - ค่าเงินกีวีแข็งหลังประชุม RBNZ

 

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า โดยที่มุมมองเชิงบวกของความเป็นไปได้ในเรื่องวัคซีน Covid-19 ถูกบดบังจาก "ความกังวลเกี่ยวกับวิธีการขนส่งวัคซีน" และการระบาดของไวรัสโคโรนาที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างหนักในยุโรป

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถว 92.741 จุด

ค่าเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์แข็งค่าจากที่ปรับอ่อนค่าในช่วงต้นตลาด ทำแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่ลดคาดการณ์เกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางของประเทศ (RBNZ) จะใช้ดอกเบี้ยเชิงลบ โดยในวันนี้ RBNZ มีการคงดอกเบี้ยที่ 0.25% และมีการแนะนำเครื่อง่มือดำเนินนโยบายตัวใหม่เพื่อสนับสนุนการปล่อยกู้เพิ่มขึ้น เพื่อลดการกู้ยืมของภาคธนาคารต่างๆ ตามคาดการณ์

ค่าเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์ปรับแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่มี.ค. 2019 บริเวณ 0.6904

ค่าเงินเยนทรงตัวบริเวณ 105.28 เยน/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวใกล้ระดับอ่อนค่ามากสุดรอบ 3 สัปดาห์

ค่าเงินหยวนอ่อนค่าไปที่ 6.6001 หยวน/ดอลลาร์

ค่าเงินวอนของเกาหลีและสิงคโปร์ดอลลาร์ก็ปรับแข็งค่าขึ้นเช่นกั

ค่าเงินยูโรเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแถว 1.1822 ดอลลาร์/ยูโร

ค่าเงินปอนด์เคลื่อนไหวบริเวณ 1.3258 ดอลลาร์/ปอนด์ ใกล้ระดับสูงสุดรอบ 2 เดือน ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกระหว่าง "อังกฤษ-อียู" ที่อาจตกลงกันได้สำหรับข้อตกลงการค้า หลังประสบปัญหาไม่ลงรอยกันมาเป็นเวลานาน

ความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์บางส่วน มาจากการตอบรับกับวัคซีน Covid-19 จากการอัพเดตข้อมูลทดลองจากบริษัท Pfizer Inc และ BioNTech เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี การตอบรับเชิงบวกของวัคซีนก็ดูจะเป็นไปเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากอุปสรรคด้านโลจิสติกส์ในหลายๆประการสำหรับการขนส่งตัวยา ประกอบไปด้วย การขนส่งวัคซีนที่จำเป็นต้องอยู่ในอุณหภูมิที่หนาวจัด

หลายๆรัฐในสหรัฐฯมีการกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่ยอดการรักษาในโรงพยาบาลปรับตัวสูงขึ้น ที่เป็นการตอกย้ำว่า  ยังมีความยากลำบากในการจำกัดการระบาดของไวรัสโคโรนาในช่วง "หน้าหนาว"  โดยเฉพาะทาง Northern Hemisphere

 

·         ผลสำรวจ Reuters/Ipsos poll เผย ชาวอเมริกาเกือบ 80% เชื่อว่า "ไบเดน" ชนะเลือกตั้ง ครองทำเนียบขาว - เมิน "ทรัมป์" ไม่ยอมรับผลคะแนนเลือกตั้ง

 

·         ทีมตรวจสอบของนายไบเดน จะประกอบไปด้วยพนักงานจากบริษัทต่างๆ อาทิ บริษัท Amazon, Airbnb และ Uber

 

·         CORONAVIRUS UPDATES:


สำหรับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกในช่วงบ่ายวันนี้พบว่าใกล้ทะลุ 52 ล้านรายมากขึ้น ขณะที่ยอดเสียชีวิตโดยรวมทั่วโลกใกล้แตะ 1.3 ล้านราย

ด้านสหรัฐฯยังพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดอยู่แถว 10.568 ล้านราย ด้านการเสียชีวิตสะสมภายในประเทศใกล้ทะยานเหนือ 246,000 ราย

 

·         วัคซีนจาก Pfizer และ BioNTech เผชิญกับความท้าทายด้านโลจิสติกส์ทั่วโลก

เนื่องด้วยตัวยาจำเป็นต้องถูกเก็บในคลังที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า -70 องศาเซลเซียส (-94 องศาฟาเรนไฮต์) ท่ามกลางการหาตู้เก็บวัคซีนขนาดใหญ่ในการเก็บวัคซีนจำนวนมากในหลายๆพื้นที่ ที่อาจกลายมาเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับการขนย้ายวัคซีน Covid-19

 

·         อียูจะทำสัญญาซื้อวัคซีนต้านโควิด 300 ล้านโดสจาก Pfizer-BioNTech

นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า อียูจะอนุมัติสัญญาเพื่อจัดซื้อวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาปริมาณมากถึง 300 ล้านโดสจากบริษัท Pfizer ของสหรัฐฯที่พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี

ยอดเสียชีวิตโควิดในยุโรปทะลุ 300,000 ราย ท่ามกลางการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวและการระบาดที่เพิ่มมาขึ้น  ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ มีความวิตกกังวลว่าการระบาดครั้งนี้  จะเพิ่มขึ้นทั่วภูมิภาคในช่วง "ฤดูหนาว"  แม้จะมีความหวังเรื่องวัคซีนก็ตาม

สัดส่วนประชากรในยุโรปคิดเป็น 10% ของประชากรทั่วโลก และยุโรปมีจำนวนผู้เสียชีวิตเกือบ 1 ใน 4 จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกที่รวมอยุ่ที่ 1.2 ล้านราย ขณะที่โรงพยาบาลเริ่มดูเหมือนจะไม่เพียงพอต่อการให้การดูแล

อย่างไรก็ดี ภาพรวมในยุโรปพบ  ยอดติดเชื้อรวมกันทั้งหมด 12.8 ล้านราย และมียอดเสียชีวิตทั่วภูมิภาครวมกัน 300,114 ราย

สัปดาห์ที่แล้วพบผู้ติดเชื้อใหม่เเพิ่มขึ้น 280,000 ราย หรือคิดเป็น 10% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า  และยังถือเป็นจำนวนยอดติดเชื้อที่สูงเกินครึ่งของรายงานการติดเชื้อจากทั่วทุกมุมโลก

 

·         เกาหลีใต้เรียกร้อง "ไบเดน" จัดประชุมสุดยอดผู้นำเพื่อเจรจาเรื่องผลประโยชน์กับเกาหลีเหนือ

นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เปิดเผยถึงการจะโทรศัพท์หานายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้

เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเกาหลีใต้ กล่าวย้ำถึงความจำเป็นในความพยายามแก้ปัญหาทางการทูตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ในคาบสมุทรเกาหลีเหนือ อันเนื่องจากการเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของทางเกาหลีเหนือ

ดังนั้น การกลับมาเจรจากันอีกครั้งระหว่าง "สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ" จึงถือเป็นเรื่องสำคัญมากในลำดับต้นๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในการประชุมสุดยอดผู้นำ

 

·         สิงคโปร์-ฮ่องกง เริ่มเปิดเที่ยวบิน 22 พ.ย. นี้ ภายใต้เงื่อนไขข้อแนะนำใหม่สำหรับผู้โดยสารที่จะได้รับอนุมัติในการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศ โดยปราศจากความจำเป็นในการกักกันตัวเองเมื่อเดินทางถึงปลายทาง

 

·         น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อ ท่ามกลางสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับลง - ตลาดหวังวัคซีน Covid-19

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 1% หลังจากที่รายงานจากภาคอุตสาหกรรม เผย ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงเกินกว่าที่คาด 5.1 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับ 482 ล้านบาร์เรล

ขณะที่ความหวังในเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน Covid-19 ก็ยังคงช่วยหนุนความเชื่อมั่นในตลาดได้อยู่

น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 48 เซนต์ หรือ +1.1% ที่ 44.09 เหรียญ/บาร์เรล

น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นได้ประมาณ 48 เซนต์ หรือ +1.2% ที่ 41.84 เหรียญ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี ภาพรวมราคาน้ำมันยังปรับขึ้นต่อ หลังจากที่น้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิดปรับขึ้นได้เกือบ 3% เมื่อคืนที่ผ่านมา

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com