· "วัคซีน" หนุนตลาดหุ้นเอเชียทำสูงสุดประวัติการณ์
ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยยังคงเข้าซื้อหุ้นขานรับกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่น แม้ว่ากลุ่มนักลงทุนที่ยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของเชื่อไวรัสโคโรนา
จีดีพีเศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับขึ้นทำสุงสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าญี่ปุ่นจะก้าวออกจากภาวะถดถอยได้
ข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนออกมาดีขึ้นกเินคาด หนุนมุมมองตลาดเชิงบวก
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดญี่ปุ่น ปิดปรับขึ้นกว่า 1.1% ทำสูงสุดตั้งแต่ปี 1987 โดยตลาดยังทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี Nikkei ปรับขึ้น 2% ทำสูงสุดรอบ 29 ปี
ดัชนี Kospi ทำสุงสุดนับตัั้งแต่ต้นปี 2018
ดัชนี ASX200 ทำสูงสุดรอบ 8 เดือน ก่อนที่จะเผชิญภาวะ Halt
ดัชนี E-mini S&P500 ปรับขึ้น 0.9%
ดัชนี E-mini Nadaq 100 ปรับขึ้นประมาณ 1%
ดัชนี Stoxx50 ฟิวเจอร์สปรับขึ้น 0.9%
ดัชนี FTSE Futures ปรับขึ้น 0.6% ในช่วงปลายตลาดเอเชีย
นักกลยุทธ์จาก Morgan Stanley กล่าวว่า ยอดติเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้นในเวลานี้ กำลังสร้างความเสี่ยง แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ รวมทั้งการได้รับแรงหนุนจากนโยบายการสนับสนุนทางการเงิน และเศรษฐกิจอาจกลับสู่ภาวะปกติ และการที่ตลาดหุ้นและสินเชื่อเข้ากดดันเงินสดและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล รวมทั้งแรงเทขายในดอลลาร์
· หุ้นจีนปิดสูงขึ้น จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และข้อตกลงการค้า
ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจออกมาดีขึ้นชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจ ขณะที่การลงนามข้อตกลงการค้าเสรีช่วยหนุนความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน
ดัชนี blue-chip CSI300 ปิด +1.0% ที่ระดับ 4,904.17 จุด ด้านดัชนี Shanghai Composite +1.1% ที่ระดับ 3,346.97 จุด
ทางฝั่งภาคการผลิตของจีนประจำเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้และยอดค้าปลีกยังคงฟื้นตัว แม้ว่าจะช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม
ข้อมูลของ NBS ระบุว่า การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการใช้จ่ายที่กว้างขึ้น โดยการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 12.7% จากปีก่อนหน้าซึ่งเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี2018 ที่ผ่านมา 2018 และเพิ่มขึ้นจาก 12% ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนยังยินดีกับการจัดตั้งกลุ่มการค้าที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนซึ่งไม่รวมสหรัฐฯ
· หุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางตลาดที่ให้ความสนใจไปยังการเลือกตั้งสหรัฐฯและไวรัสโคโรนา
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางตลาดทั่วโลกที่ยังคงให้ความสนใจไปยังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯและการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
โดยผลการเลือกตั้งสหรัฐฯยังคงเป็นประเด็นสำคัญสำหรับนักลงทุน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณชนเมื่อวานนี้ ที่ดูเหมือนจะเริ่มยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้ง แต่ก็เขาก็ยังแสดงจุดยืนไม่ยอมรับต่อผลการเลือกตั้ง
ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนายังคงเป็นปัญหาสำคัญสำหรับตลาด โดยตอนนี้มียอดผู้เสียติดเชื้อในสหรัฐฯสะสมรวมมากกว่า 11 ล้านราย และยังแสดงให้เห็นว่ามีผู้ป่วยมากกว่า 68,500 รายในสหรัฐฯเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.7% ด้านหุ้นภาคธนาคารเพิ่มขึ้น 2.3% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3/63 พร้อม ประมาณการอัตราการขยายตัวของปี 63 และ 64
- ไทยลงนามข้อตกลงอาร์เซ็ป 15 ประเทศ หนุนการค้า-ลงทุน หลังเจรจายาวนาน 8 ปี 'สรรพากร' เผยต้นปีหน้าจ่อดึงกลุ่มอาชีพอิสระ-อินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์-ยูทูบเบอร์เข้าระบบภาษี
- "คลัง" ถกสรุป "คนละครึ่ง" เฟส 2 สัปดาห์นี้ยันมีงบประมาณเพียงพอไม่ตัดสิทธิผู้รับสิทธิเฟสแรกร่วมโครงการ เข้มร้านค้าทำผิดเจอดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ "ซูเปอร์โพล" เผย ปชช.ร้อยละ 89.3ระบุคนละครึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
- "แบงก์" เดินหน้าปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพยุงธุรกิจเลิกจ้าง "กสิกรไทย" ยืดโครงการ "สินเชื่อ 0% - เถ้าแก่ใจดีเจ้าหนี้มีใจ" จนกว่าลูกค้าพ้นวิกฤติ "กรุงไทย" เติมสภาพคล่องธุรกิจหวังเป็นกลไกดันเศรษฐกิจฟื้นตัว "ออมสิน" เพิ่มวงเงินกู้ซอฟท์โลนเป็น100 ล้านบาทต่อราย เปิดทางรายใหญ่ขอกู้
- กลุ่มเยาวชนปลดแอก นัดแนวร่วมบุกรัฐสภา ทั้งทางบก-น้ำ-อากาศ 17 พฤศจิกายน บีบที่ประชุมรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ขณะที่กลุ่มไทยภักดี ก็ไปรวมตัวหน้ารัฐสภาด้วย แสดงจุดยืนคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตำรวจจัดกำลัง 12 กองร้อยรับมือพร้อมเตรียมเอาผิดม็อบ 14 พฤศจิกายน หลายข้อหา ทำร้าย ตร.-เอาผ้าคลุมอนุสาวรีย์ ปชต.ผิดพ.ร.บ.โบราณสถาน
-ธปท. เผยสินเชื่อแบงก์ Q3/63 โตชะลอลง หลังธุรกิจใหญ่หันระดมทุนผ่านตลาดทุน
ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3 ปี 2563 ว่า ภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 4.6% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จาก 5.0% ในไตรมาสก่อน โดยสินเชื่อธุรกิจ (64.6% ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวที่ 4.5% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากธุรกิจขนาดใหญ่บางส่วนระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้และหุ้นเพิ่มทุนแทนการใช้สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ ขณะที่สินเชื่อ SMEs หดตัวในอัตราที่ลดลงจากผลของมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) และการทยอยฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
สินเชื่ออุปโภคบริโภค (35.4% ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวที่ 4.8% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ สินเชื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ที่อยู่อาศัยแนวราบที่ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน
-ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์เงินกองทุนเพิ่มความยืดหยุ่นบริหารสภาพคล่องธุรกิจโบรกเกอร์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาล่วงหน้ามีเครื่องมือบริหารจัดการสภาพคล่องเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ปรับปรุงค่าความเสี่ยงให้สอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบัน และรองรับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมทั้งรวมประกาศเกี่ยวกับเงินกองทุนไว้ด้วยกัน เพื่อลดภาระของผู้ประกอบธุรกิจ ตามแนวทาง Regulatory Guillotine