ทองคำร่วงลง ขณะที่มนูชินยันไม่ต่อเวลาโครงการปล่อยกู้โควิด-19
· ราคาทองคำปรับตัวลดลง หลังจากที่นายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯได้ประกาศว่าโครงการเงินกู้ฉุกเฉินของเฟดเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ซึ่งจุดประกายความไม่แน่นอนเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับตลาดการเงิน
· ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลง 0.2% แถว 1,864.54 เหรียญ
· Gold Futures ปรับขึ้น 0.1% ที่ 1,863.80 เหรียญ
· หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก National Austalia Bank มองว่า หากเฟดเริ่มต้นลดความคิดการใช้โรแกรมช่วยเหลือทางการเงิน ก็จะส่งผลให้ราคาทองคำผันผวนอีกครั้ง เพราะความไม่แน่นอนในการหนุนการดำเนินนโยบายการเงินจะส่งผลให้ราคาทองคำอาจปรับลงได้ต่อ
· จดหมายที่นายมนูชินส่งถึงนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด โดยระบุว่า เม็ดเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ ที่จัดสรรให้กับกระทรวงการคลังภายใต้มาตรการ CARES Act เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น เงินส่วนใหญ่ดังกล่าวได้ถูกจัดสรรให้กับเฟดเพื่อใช้ในโครงการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจ องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร และรัฐบาลท้องถิ่น โดยเฟดควรคืนเงินที่ไม่ได้ใช้ให้กับสภาคองเกรสเพื่อนำไปใช้ในด้านอื่นๆ ต่อไป
· ถ้อยแถลงของเขาได้เข้ากดดันตลาดหุ้นและหนุนให้ดอลลาร์ชะลอการอ่อนค่าลงไปอีกครั้ง
· ภาพรวมราคาทองคำสัปดาห์นี้ปรับตัวลง 1.3% เนื่องจากการทดลองวัคซีนไวรัสโคโรนาที่มีประสิทธิภาพที่กดดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
· ทองคำมีโอกาสขึ้นต่อแตะ 2,300 เหรียญ
นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ราคาทองคำมีโอกาสทำสูงสุดใหม่ แม้ราคาในเดือนพ.ย. จะค่อนข้างเป็นที่ผิดหวังต่อตลาด แต่มองว่า ราคาทองคำมีโอกาสแตะระดับเป้าหมายช่วงครึ่งปีแรกของปี 2021 ที่บริเวณ 2,300 เหรียญได้
แรงเทขายในทองคำเวลานี้ มาจากการที่นักลงทุนตอบรับกับข่าว "วัคซีน" ที่จะมาหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ก็จะเป็นคาดจะเป็นการปรับตัวลงเพียงระยะสั้นๆ ในช่วงสิ้นปีเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่จะมาหนุนตลาดทองคำขาขึ้น ได้แก่
- เม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น จาก "ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง"
- การปรับตัวลดลงของ Bitcoin
- สิ้นปีนี้ "คองเกรส" มีแนวโน้มเจรจากระตุ้นเศรษฐกิจใหม่
- เฟดมีสัญญาณดำเนินนโยบายทางการเงินเพิ่มในการประชุม 16 ธ.ค.นี้
ขณะที่ภาวะการระบาดของไวรัสโคโรนาและสถานการณ์ภูมิภาคที่ย่ำแย่จากการ Shutdown บางส่วน หรือการ Lockdown รวมทั้งการปิดสถานศึกษา เป็นสิ่งที่จะกดดันให้ "สภาคองเกรส" ต้องเพิ่มการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ
ทองคำช่วงครึ่งปีแรกจึงอยู่ในแนวโน้มสดใส แม้จะปิดปีด้วยความผันผวน แต่ภาพใหญ่ยังเป็นขาขึ้นและมีโอกาสเห็น 2,300 เหรียญ
ทั้งนี้ ไม่ว่าตลาดจะตอบรับต่อการจบการระบาดอย่างไร แต่ ความกังวลในเรื่อง "เงินเฟ้อ" จะกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ดีสำหรับราคาทองคำ
· แรงขาย ETFs กดดันทอง จากคืบหน้าวัคซีน Covid-19
ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่อง 4 วันทำการ โดยถูกกดดันจาก
- กลุ่มนักลงทุนตอบรับกับข่าว ความคืบหน้าและความมีเสถียรภาพของวัคซีน
- แรงเทขายทองจสกกองทุน ETFs
ทั้งหมดนี้ จึงบดบังปัจจัยบวกจากข่าวการใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อจำกัดการติดเชื้อไวรัสที่เพิ่มสูงขึ้น
จากข้อมูลของ Bloomberg จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ที่ราคาทองคำทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค. ก็ประสบปัญหาชะลอการฟื้นตัวต่อจาก ความไม่แน่นอนของนโยบายกระตุ้นทางการเงินสหรัฐฯ และความคืบหน้าของวัคซีนที่เกิดขึ้น จึงทำให้เราเห็นถึงการลดการถือครของกองทุน ETFs เริ่มลดการถือครองและเดือนนี้ก็เป็นการหดตัวลงเดือนแรกในปีนี้ ดังนั้น ถึงจะมีการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลกก็ไม่ช่วยให้ทองคำขึ้นต่อได้
นักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดจาก IG กล่าวว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในสภาวะสะสมพลังท่ามกลางปัจจัยจากยอดติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น - คืบหน้าวัคซีนเป็นสำคัญ เนื่องด้วยถึงวัคซีนจะต้องใช้ระยะเวลาในการผลิตแต่ก็ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด ทำให้เกิดการลดความต้องการ Safe-Haven โดยเฉพาะที่เห็นได้ชัด คือ จากกองทุน ETFs นั่นเอง
· ทองคำจะได้รับอานิสงส์เมื่อ Bitcoin ผันผวน
รายงานจาก Kitco เผยมุมมองนักวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์ Bitcoin ที่ปรับขึ้นแตะ 18,000 เหรียญได้ในสัปดาห์นี้ โดยสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวได้รับอานิสงส์ใหญ่จาก
- การ Break ระดับสำคัญทางเทคนิค
- PayPal หนุนการถือครองครั้งใหญ่
- นายไบเดน ฟอร์มทีมบริหารเลือก "นายแกรี เกนสเลอร์" ดำรงตำแหน่งททางการคลัง (ซึ่งเขาเป็นบุคคลที่มีทีท่าเป็นมิตรต่อค่าเงิน Crypto)
นอกจากนี้ การที่บรรดาเทรดเดอร์มีการเพิ่มการลงทุนในค่าเงินกลุ่ม Cryptocurrency ก็ส่งผลให้ "เม็ดเงินลงทุนไหลออกจากตลาดทองคำ"
แต่ หาก Bitcoin กลับมาผันผวนมากขึ้น ก็จะเป็น "ผลบวกต่อทองคำ" เนื่องจากนักลงทุนจะเลี่ยงภาวะผันผวนและเลือกกลับถือครองทองคำมากกว่า
และเมื่อ Bitcoin ปรับตัวลดลงอีกครั้ง "ทองคำ" ก็จะได้รับอานิสงส์เชิงบวก และมีโอกาสขึ้นต่อได้อย่างสดใส
· นักวิเคราะห์คาดทองแตะ 2,500 เหรียญในช่วงกลางปีหน้า จากธนาคารกลางต่างๆยังเดินหน้าอัดฉีดเม็ดเงิน
ราคาทองคำตลาดโลกยังยืนได้เหนือระดับแนวรับ 1,850 เหรียญ แต่นักลงทุนดูจะให้ความสนใจกับความคืบหน้าของวัคซีนที่ประกาศออกมาสองสัปดาห์ต่อเนื่อง ขณะที่ราคาทองคำในยุโรปไม่ได้ตอบรับข่าววัคซีนที่จะมาเปลี่ยนแปลงทิศทางเศรษฐกิจโลกมากนัก
รายงานจากนักวิเคราะห์ Degussa มองว่า ตลาดยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับ "ข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่" และจะยังสร้างความไม่แน่นอนให้กับ "ทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต" รวมทั้ง "การพัฒนาของระบบทางการเงิน"
ดังนั้น นักลงทุนจึงยังให้ความสำคัญกับเหตุผลที่เฟดน่าจะต้องมีการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป เนื่องจากภาระหนี้สินจะเพิ่มทวีคูณ และทำให้ "บรรดาธนาคารกลางต่างๆ" ไม่มีแนวโน้มจะทำการยกเลิกการสนับสนุนทางเศรษฐกิจและตลาดการเงินแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ควรระมัดระวังมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนทองคำในระยะยาวด้วย จากการชะลอตัวของราคาทองคำในเวลานี้ที่อาจกลายมาเกเป็นปัจจัยดึงดูดนักลงทุนครั้งใหม่ที่อาจทำให้ ราคาทองคำปรับขึ้นได้ 2,500 เหรียญ ในช่วงกลางปี 2021 จึงคาดราคาทองคำช่วงสิ้นปีจะอยู่แถวระดับ 2,780 เหรียญ และปีหน้าระดับต่ำสุดของทองคำน่าจะอยู่แถว 2,310 เหรียญ หรืออาจเห็นราคาทองคำปรับขึ้นได้ประมาณ 30% จากระดับปัจจุบัน
· ราคาซิลเวอร์เคลื่อนไหวทรงตัวแถว 24.09 เหรียญ
· ราคาแพลทินัมปรับลง 0.2% บริเวณ 949.78 เหรียญ
· ราคาพลาเดียมปรับลง 0.2% ที่ 2,321.05 เหรียญ