ทองขึ้นจากมนูชิส่งสัญญาณเจรจากระตุ้นเศรษฐกิจ
· ในคืนวันศุกร์ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากความหวังเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯส่งสัญญาณเดินหน้าเจรจาต่อ จึงหนุนให้เกิดความต้องการทองคำเพื่อป้องกันสินทรัพย์เสี่ยง
· ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.3% ที่ระดับ 1,872.95 เหรียญ แต่ภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลงประมาณ 0.8% ด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด +0.7% ที่ระดับ 1,872.40 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำการเข้าซื้อทองคำเพิ่ม 2.92 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,220.17 ตัน ซึ่งเป็นการเข้าซื้อทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วันทำการ
· ผู้อำนวยการจาก High Ridge Futures ระบุว่า ทองคำปรับขึ้นได้จากการที่เฟดมีการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นเพิ่มเติม
· กรรมการผู้จัดการจาก CPM Group กล่าวว่า ทองคำยังมีแรงหนุนจากการที่วัคซีนจะใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานในการดำเนินการผลิตและการส่งมอบให้เพียงพอ
· นักวิเคราะห์จาก BofA เผยว่า นักลงทุนมีการลดการถือครองทองคำลงประมาณ 4 พันล้านเหรียญ ซึ่งถือเป็นเม็ดเงินไหลออกจากตลาดที่มากที่สุดในประวัติการณ์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนทีเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
· นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered กล่าวว่า แม้ภาพใหญ่ทางเศรษฐกิจจะมีแรงหนุนในทองคำ แต่ปัจจัยเสี่ยงของทองคำยังมาจากอุปสงค์ทองคำและการถือครองของ ETP ท่ามกลางกลุ่มผู้ซื้อที่รอคอยจังหวะที่ราคาจะตกมาบริเวณ 1,860 เหรียญ ขณะเดียวกันก็จับตาปริมาณการเทขายของกองทุน ETP ด้วย
· ราคาซิลเวอร์ปิด +0.7% ที่ระดับ 24.26 เหรียญ ด้านราคาแพลทินัมปิด -0.7% ที่ระดับ 944.99 เหรียญ ทางด้านราคาพลาเดียมปิด -0.2% ที่ 2,321.49 เหรียญ
· มนูชิน เผย เขาและผู้นำเสียงข้างมากรีพับลิกันจะร่วมหารือถึงแนวทางการผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากเดโมแครต
· ยอดติดเชื้อไวรัสล่าสุดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและล่าสุดใกล้ทะลุ 59 ล้านรายในระดับโลก ด้านยอดเสียชีวิตรวมใกล้แตะ 1.4 ล้านราย
ขณะที่สหรัฐฯยอดติดเชื้อสะสมพุ่งมาที่ 12.58 ล้านราย และมียอดเสียชีวิตรวมสะสม 262,694 ราย
· เกาหลีใต้สั่งปิดบาร์, เข้มงวดต่อร้านอาหาร และโบสถ์จากยอดติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น
· บรรดาผู้นำรัฐและเมืองต่างๆในสหรัฐฯ เห็นพ้อง "ยกเลิก Thanksgiving" - ใช้มาตรการ Stay home ,และสวมหน้ากากอนามัย เพื่อจำกัดการระบาดที่ไม่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ
สะท้อนว่าถึงการระบาดในสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้นอย่างหนักในทุกพื้นที่ แต่ทุกฝ่ายพยายามช่วยกันหาทางรับมือ เพื่อชะลอการระบาดก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ดังนี้
- ปิดภาคธุรกิจบางส่วน
- จำกัดการใช้พื้นที่สาธารณะ
- จำกัดการรวมกลุ่มในที่สาธารณะ
- บังคับสวมใส่หน้ากากอนามัย
· Pfizer - BioNTech ยื่นอนุมัติวัคซีนฉุกเฉินจากทาง FDA เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หากการยื่นขอของบริษัท Pfizer ได้รับการอนุมัติใช้วัคซีน Covid-19 จากองค์กรอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯจริง จะส่งผลให้วัคซีนชุดแรกส่งถึงกลุ่มแรงงาน, ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยง (ภายใต้เงื่อนไขการฉีดวัคซีนกลุ่มแรก) จากนั้นอาจจะเริ่มเข้าสู่กลุ่ม พนักงาน, ครู, กลุ่มคนไร้บ้าน และนักโทษ ตามมาด้วยเด็ก, วัยรุ่น และผู้ใหญ่
อย่างไรก็ดี กระบวนการของ FDA น่าจะอยู่ภายในช่วง 2-3 สัปดาห์ ขณะที่คณะกรรมาธิการที่ปรึกษาจะเข้าร่วมประชุมกันเพื่อหารือถึงกรอบการอนุมัติใช้ที่คาดว่าเร็วสุดจะเป็นช่วง "ต้นเดือนธ.ค." และจะส่งผลให้ชาวสหรัฐฯบางส่วนได้รับวัคซีนโดสแรกในเดือนดังกล่าว
· หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ประจำโครงการวัคซีนของรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ชาวอเมริกากลุ่มแรกจะได้รับวัคซีนในวันที่ “11 ธ.ค.”
องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) จะร่วมหารือกับบรรดาเจ้าหน้าที่ปรึกษานอกหน่วยงานในวันที่ 10 ธ.ค. เกี่ยวกับการอนุมัติใช้วัคซีนเป็นการฉุกเฉินที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Pfizer ร่วมกับ BioNTech
โดยภายใน 24 ชั่วโมงที่ได้รับอนุมัติ วัคซีนจะสามารถส่งมอบไปยังพื้นที่ของแต่ละรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องได้รับวัคซีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Operation Warp Speed”
อย่างไรก็ดี วัคซีนของบริษัท Pfizer - BioNTech จะต้องใช้ในปริมาณ 2 โดส หรือประมาณ 3 สัปดาห์ให้หลังจากโดสแรกที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพของวัคซีน 95% และไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยขนาดใหญ่ให้เป็นที่น่ากังวล และทางบริษัทผู้ผลิตวัคซีนดังกล่าว ดูจะมีโดสของวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชน 25 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้
· FDA อนุมัติกระบวนการรักษาฉุกเฉินด้วยวิธี Regeneron แบบเดียวกับที่รักษานายทรัมป์ ภายใต้เงื่อนไขของกลุ่มผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
· CEO จาก MODERNA จะเก็บค่าวัคซีน Covid-19 จากภาครัฐบาลระหว่าง 25-37 เหรียญ/โดส และต้องการให้ราคาวัคซีนอยู่ในราคาระหว่าง 10-50 เหรียญ/โดส เช่นเดียวกับราคาวัคซีนไข้หวัด
· Oxford เผยผลการศึกษา ชี้ ผู้ติดเชื้อ Covid-19 มีแนวโน้มสูงที่จะไม่ติดเชื้อได้อีกอย่างน้อย 6 เดือน
· ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรม อ้างว่า รหัสบ่งชี้ยีนหรือพันธุกรรมมนุษย์สามารถใช้ป้องกัน-ต้าน Covid-19 ได้
· “ปูติน” ผู้นำรัสเซีย เผยว่า รัสเซียเตรียมพร้อมส่งมอบวัคซีน Spuntnix V ให้แก่ประเทศอื่นๆ
· “สี จิ้นผิง” ปธน. จีน กล่าวให้การสนับสนุนการดำเนินการด้านวัคซีน Covid-19 แก่ทั่วโลก
· WHO กังวล Third Wave ในยุโรปช่วงต้นปีหน้า แนะรัฐบาลต้องทบทวบสิ่งที่ทำแล้วล้มเหลวในที่ผ่านมาเพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
· ประธานคณะกรรมาธิการอียู เรียกร้องให้ดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการยกเลิก Lockdown พร้อมเตือนให้ระวัง “Third Wave”
· โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส ระบุว่า ฝรั่งเศสจะเริ่มคลาย Lockdown ภายใต้ 3 เงื่อนไข โดยภายในอีกไม่กี่สัปดาห์จากนี้จะสามารถผ่อนคลายกฎ Lockdown จากสถานการณ์ด้านสุขภาพและความเสี่ยงต่อภาคธุรกิจบางส่วน ท่ามกลาง 3 ปัจจัย ได้แก่
- การพิจารณาในวันที่ 1 ธ.ค.
- การพิจารณาช่วงเทศกาลก่อนสิ้นปีนี้
- การพิจารณาช่วงการเริ่มต้นปี 20201
· เยอรมนีขยายเวลา Lockdown ถึง 20 ธ.ค. นี้
เยอรมนีเผยแผนจ่อเพิ่มหนี้ใหม่ 1.9 แสนล้านเหรียญ ในปีหน้า
แหล่งข่าว่วงใน รายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเยอรมนีมีแผนช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจาก Covid-19 ในวงเงิน 1.6 แสนล้านยูโรเป็นอย่างน้อย (1.9 แสนล้านเหรียญ) ที่อาจเป็นระดับหนี้ก้อนใหม่สำหรับปี 2021
ซึ่งจะเพิ่มจำนวนหนี้สินจำนวน 3.95 หมื่นล้านยูโร ที่ถูกใช้เพื่อสนับสนุนกลุ่มบริษัทและภาคธุรกิจต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต Covid-19 โดยในร่างดังกล่าวจะประกอบไปด้วยแผนการจ่ายค่าวัคซีนประมาณ 2.7 พันล้านยูโร
· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอังกฤษ เผย อังกฤษไม่กลับไปใช้มาตรการรัดเข็มขัดสำหรับแผนงบประมาณฉบับใหม่ที่จะประกาศวันพุธนี้ ท่ามกลางวิกฤตไวรัสที่ส่งผลให้ประเทศมีระดับหนี้สูงกว่า 2 ล้านล้านปอนด์ (2.7 ล้านล้านเหรียญ)
ขณะเดียวกันก็ระบุว่า ยังคงต้องการทำข้อตกลงกับอียู
· อังกฤษ-แคนาดา เห็นพ้องทำข้อตกลงการค้าหลัง Brexit เพื่อปกป้องเม็ดเงินด้านสินค้าและบริการระหว่างกันหลัง Brexit มูลค่า 2.7 หมื่นล้านเหรียญ (2.032 หมื่นล้านปอนด์) โดยจะเริ่มเจรจากันในปีหน้า
· ’ทรัมป์’ เข้าร่วมประชุม G-20 เป็นครั้งสุดท้าย แต่จะไม่เข้าร่วมวาระการเตรียมการสำหรับการระบาดของไวรัสโคโรนา ท่ามกลางความพยายามของทั่วโลกในการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนา และการเตรียมฟื้นฟูการระบาด แม้ว่ายอดติดเชื้อรายวันในสหรัฐฯ จะยังทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทางทำเนียบขาว เปิดเผยว่า นายทรัมป์จะเข้าร่วมหารือกับบรรดาผู้นำระดับโลกในการประชุม G-20 เกี่ยวกับความจำเป็นในการฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจและภาคแรงงาน
· ประชุม G-20: บรรดาผู้นำร่วมหาแนวทางช่วยเหลือกลุ่มประเทศยากจนหลังจบ Covid-19 ที่ส่งผลให้ทั่วโลกต้องเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเชิงลึกในปีนี้ และจะเป็นประเด็นหลักในการร่วมมือกันพยายามร่วมกันผลักดันให้เศรษฐกิจปี 2021 มีการฟื้นตัว
ประกอบกับจะร่วมมือกันให้ทั่วโลกสามารถ เข้าถึงวัคซีน Covid-19 อย่างยุติธรรม
ด้าน IMF เรียกร้องการขยายเวลาชำระหนี้สินแก่บรรดาประเทศยากจนทั่วโลก
ขณะที่องค์การการค้าโลก หรือ WTO แนะกลุ่ม G-20 สนับสนุนการเงินในเชิงพาณิชย์สำหรับกลุ่มประเทศพัฒนาร่วมกับการสนับสนุนการปฏิรูปต่างๆ
· เศรษฐกิจสิงคโปร์ทรุด -5.8% ในไตรมาสที่ 3/2020 เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ดีขึ้นกว่าประมาณการณ์ครั้งก่อนหน้าที่คาดว่าจะออกมา -7%
กระทรวงหอการค้าและภาคอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) ยังระบุว่า ปีนี้ คาดว่าจีดีพีจะหดตัวระหว่าง -6% และ -6.5% โดยมีกรอบที่แคบลงจากครั้งก่อนหน้าที่คาดไว้ระหว่าง -5% ถึง -7%
นักเศรษฐศาสตร์จาก DBS คาดสิงคโปร์ปีนี้จะหดตัวที่ -6% ก่อนรีบาวน์ได้ที่ 5.5% ปี 2021
· ประธานจาก AmCham Shanghai เผยผลสำรวจบริษัทส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ มีมุมมองเชิงบวกในการลงทุนธุรกิจกับจีน หลัง "ไบเดน"ชนะเลือกตั้ง
เนื่องจากเชื่อว่า ทีมบริหารของนายไบเดนจะส่ฝผลบวกทางด้านเสถียรภาพในสภาวะแวดล้อมต่างๆ รวมถึงความสัมพันธ์กับต่างประเทศด้วย
· นายคริส คูนส์ สมาชิกวุฒิสภาอาวุโสของเดโมแครต หวังว่า นโยบายของสหรัฐฯจะสร้างกับจีนได้อย่างสมบูรณ์
· ผู้ว่าการรัฐแมรี่แลนด์ของพรรครีพับลิกัน แย้งทรัมป์ไม่ยอมแพ้ ชี้การถ่วงเวลาส่งมอบอำนาจแก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกคนใหม่ถือเป็นการ "ฝ่าฝืน" กฎเลือกตั้ง และ "เป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจ"
ดังนั้น การส่งมอบอำนาจควรเริ่มต้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และการกระทำที่ไม่เป็นสาระควรยุติลงด้วยการเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
· ทรัมป์พยายามเร่งการอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดรัฐเพนซิลเวเนียในการค้านผลคะแนนเลือกตั้ง โดยต้องไม่ลืมว่าจีนนั้นถือเป็นผู้แข่งขันทางการค้าชั้นดี ในเวลาเดียวกันหลายๆประเทศก็มีการร่วมมือด้านธุรกิจกับจีน อันจะเห็นได้จากข้อตกลงRCEP
และจะเป็นการดีกว่าหาก สหรัฐฯและจีน สามารถร่วมมือกันทางเศรษฐกิจได้ เนื่องจากจะนำมาซึ่งความปลอดภัยและมีเสถียรภาพมากขึ้น
· ด้านผู้พิพากษารัฐเพนซิลเวเนียไม่เห็นชอบต่อการฟ้องร้องดังกล่าว เนื่องจากปราศจากหลักฐาน และนายทรัมป์ไม่มีอำนาจในการตัดสิทธิคะแนนเสียงของประชาชนแม้แต่เพียงคนเดียว
· อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี เรียกร้องให้ทรัมป์ยุติการฟ้องร้องค้านคะแนน พร้อมประณามให้ทีมกฎหมายของเขากำลังก่อให้เกิดความอับอายแห่งชาติ
· รัฐมิชิแกนเผยสมาชิกรีพับลิกันเรียกร้องให้บอร์ดเลือกตั้งทำการเลื่อนการรับรองผลคะแนนออกไปอีก 2 สัปดาห์
· พิธีสาบานตนรับตำแหน่งของ “ไบเดน” อาจถูกเลื่อนออกไปจากวิกฤต Covid-19
หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของทีมบริหารนายไบเดน เผยว่า พิธีสาบานตนรับตำแหน่งของนายโจ ไบเดน ซึ่งเป็นประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกนั้นมีแนวโน้มจะเผชิญความแตกต่างจากปีที่ผ่านๆมา อันเนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ดังนั้น จึงอาจเห็นการเลื่อนพิธีดังกล่าวที่ปฏิบัติกันมาอย่างเป็นแบบแผน และอาจมีการใช้เทคนิคเดียวกับการจัดประชุมประจำปีของพรรคเดโมแครตที่ผ่านมาเป็นวิธีในการจัดพิธีแทน
· หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของว่าที่ผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ เปิดเผยว่า “ไบเดน” จะประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่ได้รับเลือกชุดแรกวันอังคารนี้ แม้นายทรัมป์จะยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
· ที่ปรึกษาสูงสุดของนายไบเดน ระบุว่า มีแนวโน้มมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับข้อกำหนดด้านเทคโนโลยี
· ”ไบเดน” เผชิญช่วงเวลาท้าทายในการที่สหรัฐฯจะเข้าร่วมข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน หากอิหร่านเห็นชอบข้อตกลงร่วมกัน
บรรดาอดีตเจ้าหน้าที่ทางการทูตของสหรัฐฯ, เจ้าหน้าที่ทางการทูตของยุโรป และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับภูมิภาค มองว่า การกลับเข้าสู่ข้อตกลงของสหรัฐฯ เกิดขึ้นท่ามกลางทั้งสองฝ่ายที่เข้าสู่ช่วงเวลาท้าทายทางการเมืองในการบรรลุเป้าหมาย โดยอิหร่านจะจัดการเลือกตั้งในเดือนมิ.ย. นี้
ดังนั้นความพยายามในการใช้วิธีทางการทูตจึงเกิดขึ้นในขณะที่นายไบเดนมีเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง
· รัฐมนตรีซาอุดิฯ เผยซาอุดิอาระเบียอาจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านฉบับใหม่ในการเจรจาระหว่างทีมบริหารสหรัฐฯ-อิหร่าน
· รัสเซียแบนชาวอังกฤษ 25 ราย ตอบโต้การคว่ำบาตรของอังกฤษ หลังอังกฤษตัดสินใจคว่ำบาตรรัสเซียจำนวน 25 ราย และชาวซาอุอีก 20 ราย ที่จะมีผลหลัง Brexit เพื่อเป็นบทลงโทษและต้องการให้ยุติการฟอกเงิน