· ผลสำรวจ Reuters คาด ดัชนี TSX แคนาดาทำสูงสุดประวัติการณ์ในปีหน้า จากแนวโน้มวัคซีน ซึ่งจะมาช่วยหนุนมุมมองทางเศรษฐกิจที่จะมีผลต่อหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นกลุ่มทรัพยากร โดยนักกลยุทธ์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนี TSX จะปรับขึ้นเกือบ 8% ที่ระดับ 18,400 จุด ในช่วงสิ้นปีหน้า ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์เดิมในเดือนส.ค. ที่มองว่าจะขึ้นไปที่ 18,000 จุด โดยอาจทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ในเดือนก.พ.ก่อนที่บริเวณ 17,970.51 จุด
ภาพรวมดัชนี TSX มีการรีบาวน์จากระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปีที่ทำไว้เมื่อเดือนมี.ค. ที่ระดับ 11,172.73 จุด
· ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเหนือ 30,000 จุดเป็นครั้งแรก เนื่องจากเหล่านักลงทุนได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มทั่วโลกที่ดีขึ้นอย่างมาก
ท่ามกลางการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนล่าสุดไปสู่ทำเนียบขาวและความมั่นใจว่าวัคซีนไวรัสโคโรนาจะพร้อมใช้งานในเร็วๆนี้ ส่งผลให้เกิดความต้องการในสินทรัพย์เสี่ยง
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.1%
· หุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากความหวังเกี่ยวกับวัคซีนและความไม่แน่นอนการเลือกตั้งสหรัฐฯที่เบาบางลงไป
โดยดัชนี Nikkei ปิด +0.5% ที่ระดับ 26,296.86 จุด ด้านดัชนี Topix ทำระดับสูงสุดในรอบ 29 ปีครึ่ง
ด้านดัชนี Topix +0.3% ที่ระดับ 1,767.67 จุด ซึ่ง
ขยายผลกำไรเล็กน้อยจากจุดสูงสุดในรอบกว่าสองปีในช่วงก่อนหน้านี้
ขณะที่กรณีโคโรนาไวรัสที่เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ของญี่ปุ่นยังทำให้ความเชื่อมั่นของตลาดลดลงอยู่
· ผลสำรวจ Reuters คาด Nikkei จะสะสมพลังก่อนปรับขึ้นต่อปีหน้า
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวสะสมพลังตามการฟื้นตัวของตลาดโลก หลังเกิดความหวังในเรื่องวัคซีน แต่การปรับขึ้นปีหน้ามีโอกาสทำสูงสุดรอบ 3 ทศวรรษ
นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่คาดดัชนี Nikkei จะปิดสิ้นปีนี้แถว 26,000 จุด ซึ่งมีโอกาสปรับขึ้นได้เกือบ 12% จากคาดการณ์เดิมในช่วงก่อนหน้า ขณะที่คาดการณ์ระยะกลางคาดว่าดัชนี Nikkei จะทรงตัวได้แนว 26,000 จุด ก่อนจะขึ้นต่อในเดือนมิ.ย. และในช่วงสิ้นปี 2021 มีโอกาสเห็นดัชนีแตะทำสูงสุดนับตั้งแต่ส.ค. ปี 1990 ที่ระดับ 27,350 จุด
· หุ้นจีนปิดลดลง โดยภาพรวมรายวันปิดลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน เนื่องจากหุ้นรถยนต์ไฟฟ้าลดลงจากข่าวการสอบสวนของรัฐบาลในภาคส่วนนี้ โดยดัชนี Shanghai Composite ปิด -1.19% ที่ระดับ 3,362.33 จุด ซึ่งร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา
ด้านดัชนี blue-chip CSI300 -1.28% ท่ามกลางดัชนีกลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่ลดลง 2.16% กลุ่มสินค้าหลักของผู้บริโภคลดลง 2.52% และดัชนีด้านการดูแลสุขภาพลดลง 2.16%
· ตลาดหุ้นอินเดียจะฟื้นตัวต่อในปีหน้าจากความหวังวัคซีน
ผลสำรวจนักกลยุทธ์ด้านตลาดหุ้นของ Reuters มองว่า ตลาดหุ้นอินเดียจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2021 จากการคาดการณ์เกี่ยวกับผลประกอบการณ์ของบริษัทจะฟื้นตัวกลับมาในระดับประมาณช่วงก่อนการระบาด
โดยส่วนใหญ่ คาดหวังว่า ดัชนี BSE Sensex ที่ปัจจุบันมีการเคลื่อนไหวทำสูงสุดประวัติการณ์ น่าจะทำ All-Time High ใหม่อย่างต่อเนื่องในปีหน้า ซึ่งคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นได้ประมาณ 3% จากระดับสูงสุดปัจจุบันไปแตะ 45,750 จุด ในช่วงกลางปี 2021 และคาดว่าจะปรับขึ้นอีก 4% ที่ระดับ 47,550 จุดภายในช่วงสิ้นปีหน้า และคาดกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ระหว่าง 36,000 - 54,400 จุด
· หุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น จากความเชื่อมั่นทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯและข่าววัคซีนไวรัสโคโรนาเชิงบวก ที่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนทั่วโลก โดยดัชนี Stoxx600 +0.2% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
· ผลสำรวจ Reuters เผย หุ้นยุโรปจะกลับสู่ภาวะปกติในปี 2021 มีแนวโน้มปรับขึ้นใกล้สูงสุดประวัติการณ์
ผลสำรวจนักกลยุทธ์และผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่ มองว่าตลาดหุ้นยุโรปจะได้รับอานิสงส์จาก
- ความคืบหน้าเชิงบวกของวัคซีน
- ความแข็งแกร่งของความเชื่อมั่นและผลประกอบการของภาคบริษัท
- กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับสู่ภาวะปกติ
- ภาวะ Covid-19 ลดลง
ดังนั้นจึงคาดว่า STOXX600 จะปรับขึ้นแตะ 430 จุดได้ในช่วงสิ้นปีหน้า และมีการเคลื่อนไหวแถวๆสูงสุดประวัติการณ์ในเดือนก.พ.
โดยมีโอกาสขึ้นได้กว่า10.6% จากราคาปิดวันจันทร์ หรืออาจขึ้นได้กว่า 60% จากระดับต่ำสุดเดือนมี.ค. ที่ 268 จุด ในช่วงที่เกิด Lockdown ทั่วโลก
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- หุ้นไทยปิดเช้าบวก 5.75 จุด รับ Sentiment บวกนอกประเทศ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,407.38 จุด เพิ่มขึ้น 5.75 จุด (+0.41%) มูลค่าการซื้อขายราว 69,103 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,428.36 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,403.88 จุด
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 64 จะพลิกกลับมาเติบโตเป็นบวกที่ 3.3% จากในปีนี้ที่คาดว่าจะหดตัว -6.4% โดยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ มาจากการส่งออกที่ฟื้นตัว และการลงทุนของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้เร่งลูกหนี้และเจ้าหนี้หารือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสมกับลูกหนี้แต่ละราย และให้เร่งสื่อสาร ให้ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความช่วยเหลือเกิดผลสำเร็จ หลังจาก ธปท. ได้กำหนดเงื่อนไขในการชำระหนี้และการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งหนี้ทั้งระบบ โดย ธปท. ตั้งทีมงานที่ติดตามการให้ความช่วยเหลือของสถาบันการเงินอย่างใกล้ชิด และคาดหวังว่าลูกหนี้และเจ้าหนี้จะ
สามารถก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน
- ก.ล.ต. เตรียมปรับเกณฑ์ หนุน นักลงทุนออกไปลงทุนต่างประเทศคล่องตัวขึ้น ขานรับมาตรการธปท.เพิ่มวงเงินรายย่อยลงทุนนอก พร้อมเล็งเปิดทางนักลงทุน ขอรับการจัดสรรวงเงินจากแบงก์ชาติได้โดยตรง เพิ่มความสะดวกในการลงทุน
- กระทรวงสาธารณสุข เผยข่าวดีคนไทย วัคซีนวิจัยป้องกันโควิด-19 จากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ที่รัฐบาลไทยร่วมมือพัฒนาและเตรียมจัดซื้อวัคซีน ประสบผลสำเร็จเกินข้อกำหนด WHO ประสิทธิผลสูงสุดถึง 90% เตรียมขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องคาดคนไทยได้ใช้กลางปีหน้า