ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับต่ำสุดรอบ 2 ปี – Bitcoin ฟื้นทำ All-Time High ท่ามกลางหุ้นสหรัฐฯปิดลบ
ดอลลาร์ได้รับอานิสงส์จากการอ่อนตัวของสินทรัพย์เสี่ยง และการปรับตัวลงของหุ้นสหรัฐฯ อันเป็นผลจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อ่อนแอ และการปราศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ข้อมูลยอดรออนุมัติขายบ้านปรับลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนต.ค. โดยลดลง 1.1% ที่ระดับ 128.9 ยูนิต
ข้อมูล Chicago PMI ออกมาแย่ลงที่ 58.2 จุด จาก 61.1 จุดในเดือนต.ค. มีแนวโน้มไดรับผลกระทบต่อจากวิกฤต Covid-19 ที่จะกระทบต่อการใช้นโยบายเข้มงวดต่างๆ
ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% แตะ 91.84 จุด ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลง 0.1% แตะ 1.1953 ดอลลาร์/ยูโร หลังช่วงต้นตลาดขึ้นไปทำสูงสุดรอบ 3 เดือนบริเวณ 1.2 ดอลลาร์/ยูโร หลังอีซีบีส่งสัญญาณในช่วงต้นปีหน้าว่าจะจับตาการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินด้วยความระมัดระวัง
ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง 0.1% ที่ 104.27 เยน/ดอลลาร์
ค่าเงินหยวนทรงตัวในทิศทางแข็งค่า โดยวานนี้แตะ 6.5765 หยวน/ดอลลาร์ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจจีนภาคการผลิตที่ออกมาขยายตัวได้เร็วมากขึ้นในรอบกว่า 3 ปีในเดือนพ.ย. ขณะที่ภาคบริการทำสูงสุดรอบ 3 ปี
ค่าเงินหยวนดูจะมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสู่ประเทศอย่างทรงตัวจากทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดีในการจัดการกับไวรัสโคโรนาและทำให้หยวนยังคงอยู่ในทิศทางแข็งค่า ปิดเดือนพ.ย.ดีที่สุดรอบ 6 ปี
เจรจา Briext ยังคงเป็นประเด็นสำคัญต่อค่าเงินปอนด์ โดยแข็งค่าขึ้น 0.3% ที่ 1.3352 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยเข้าใกล้ช่วงหมดเวลาเจรจามากขึ้น แม้จะมีสัญญาณเจรจาที่ดีในการขยายการเจรจาต่อจากโฆษกของอังกฤษ
Bitcoin พุ่งทำ All-Time High ปี 2020 ฟื้นตัวได้แข็งแกร่ง
Bitcoin ทำ All-Time High แตะ 19,864.15 เหรียญใกล้สูงสุดรอบ 3 ปี ล่าสุดปิด +6.1% ที่ 19,306.35 เหรียญ
Bitcoin ได้รับปัจจัยหนุนจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยและสถาบันต่างๆที่เข้าถือครองในฐานะ Saf4e-Haven เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ
ภาพรวมปีนี้ Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 170% จากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงที่มีการใช้นโยบายทางการเงินและการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล ที่น่าจะก่อให้เกิดเงินเฟ้อปรับขึ้น ประกอบกับคาดการณ์ที่ Cyrptocurrencies จะเป็นที่ยอมรับในตลาดซื้อขายหลักๆมากขึ้น
นักวิเคราะห์จาก Chainlink ระบุว่า Bitcoin ดูจะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากการที่นักลงทุนเข้าถือเพิ่มขึ้นจากการที่ธนาคารกลางมีการอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มขึ้น รวมทั้งเงินเฟ้อที่มีโอกาสปรับขึ้นตาม
ที่มา: CNBC