ทิศทางเชิงบวกของเศรษฐกิจโลก กดดันดอลลาร์อ่อนค่าต่อทำต่ำสุดรอบ 2 ปีครึ่ง
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อทำต่ำสุดรอบกว่า 2 ปีครึ่ง ขณะที่ค่าเงินยูโรยืนเหนือ 1.21 ดอลลาร์/ยูโร จากสัญญาณคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และวัคซีนเชิงบวกที่ช่วยหนุนให้นักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวก นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับสวิสฟรังก์จะพบดอลลาณ์อ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบเกือบ 6 ปี
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.5% ที่ 90.574 จุด และมีการทำต่ำสุดตั้งแต่เม.ย. ปี 2018 ที่ระดับ 90.554 จุด
ค่าเงินยูโรพุ่งทำแข็งค่ามากสุดตั้งแต่เม.ย. 2018 ที่ระดับ 1.2172 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนจะปิด +0.5% ที่ 1.2171 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินเยนแข็งค่ามากสุดรอบ 1 สัปดาห์ โดยปิด -0.7% ที่ 103.70 เยน/ดอลลาร์
สมาชิกสภาคองเกรสยังคงล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19 แต่ยังคงมีสัญญาณเชิงบวกเกี่ยวกับข้อเสนอ 9.08 แสนล้านเหรียญที่อาจทำให้เกิดการตกลงกันได้มากขึ้น
ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับคืบหน้าวัคซีน หลังอังกฤษอนุมัติใช้วัคซีนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ด้านรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ออกมาดีกว่าที่คาดแตะ 712,000 รายในสัปดาห์ที่แล้วก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันดอลลาร์ ที่อยู่ในสภาวะ Safe-Haven เวลานี้
ตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน เสี่ยงจะเผชิญภาวะขาลงมากขึ้นอีกครั้งจากทีมบริหารทรัมป์ แต่ข่าวคืบหน้าล่าสุดกลับมีผลต่อตลาดทั่วโลกจำกัด เนื่องจากมองว่าทีมบริหารของนายไบเดนที่กำลังจะเข้ามารับช่วงต่อจะช่วยให้ความสัมพันธ์การค้าระหว่างสองประเทศกลับสู่ภาวะปกติได้มากขึ้น
อีซีบีเตรียมจะสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเพื่อช่วยเหลือยูโรโซนในการประชุม 10 ธ.ค. และตลาดค่อนข้างให้ความสนใจว่าจะมีการแทรกแซงค่าเงินยูโรที่แข็งค่าอย่างมากในเวลานี้หรือไม่
ค่าเงินปอนด์ปิด +0.9% ที่ 1.3485 ดอลลาร์/ปอนด์ จากดอลลาร์อ่อนค่าและเจรจา Brexit ยังดำเนินต่อไป ขณะที่กลุ่มคณะผู้แทนเจรจาของอียู คาดหวังจะเกิดข้อตกลงการค้ากับอังกฤษได้ภายในวันนี้ หรือช่วงปลายสัปดาห์