• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 4 ธันวาคม 2563

    4 ธันวาคม 2563 | SET News

· Credit Suisse ระบุว่า หุ้นเอเชียมีแนวโน้มโตได้ในปี 2021 จากผลประกอบการที่พุ่งขึ้น

Credit Suisse คาด หุ้นเอเชียมีแนวโน้มสดใสต่อในปีหน้าจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นแบบ “Super-Cycle” ทั่วทั้งภูมิภาค โดยผลตอบแทนในรูปดอลลาร์คาดโตได้ 19% สำหรับดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดญี่ปุ่นตั้งแต่ตอนนี้จนถึงปี 2021 เมื่อเทียบกับภาพรวมทั่วโลกที่น่าจะโตได้ 15%

พร้อมคาดการณ์ว่า “เกาหลีใต้” จะเป็นประเทศที่มีผลประกอบการต่อหุ้น หรือ EPS โตได้มากถึง 43% ในปี 2021 และเมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้จะยิ่งหนุนเศรษฐกิจเกาหลีนั่นเอง


มุมมองต่อตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆ:

- ฮ่องกง: มีแนวโน้มจะเห็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) ดีที่สุด รวมทั้งมีความเสี่ยงด้านการดำเนินนโยบายระดับต่ำ จึงเห็นการเพิ่มขึ้นของตลาดอสังหาริมทรัพย์

- สิงคโปร์: ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และภาคธนาคารที่ดูดีที่สุด

- จีน: ปัจจัยที่ดีสำหรับจีนคือความแข็งแกร่งของค่าเงินหยวน และความมีเสถียรภาพด้านความสัมพันธ์ทางการค้ากับทางสหรัฐฯ ภายใต้การดำเนินนโยบายของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ รวมทั้งการฟื้นตัวของภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

- ไทย: ถูกนำเสนอในฐานะประเทศที่มีศักยภาพด้านการเติบโตที่ดีที่สุด โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของปี 2021


เมื่อพิจารณาการเพิ่มขึ้นของหุ้นภาคส่วน

หุ้นที่ดีที่สุดในมุมมองของ Credit Suisse คือ “Real Estate” ที่มีสัญญาณการฟื้นตัวได้ในหลายๆตลาด โดยเฉพาะ “ฮ่องกง” จากราคาภาคอสังหาฯที่อาจได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่อยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะกลุ่ม Mortgages ในเอเชีย

“หุ้นกลุ่มธนาคาร” ในภูมิภาคค่อนข้างมีถูกง เพราะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ต้องจับตา “หุ้นกลุ่มธนาคารในเอเชีย” อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีคุณค่าสูงในตลาดโดยทั่วไป


· JPMorgan แนะนักลงทุนที่หุ้นในตลาดเกิดใหม่ที่มีสัดส่วนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น “Under Owned” เพราะหุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้มากกว่า 20% ในปี 2021

· ·       ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ความหวังเกี่ยวกับการเปิดตัววัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลกที่หนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงก่อนหน้านี้หลังจาก Wall Street Journal รายงานว่า บริษัท Pfizer ได้ลดเป้าหมายในการเปิดตัววัคซีนเนื่องจากอุปสรรคในห่วงโซ่อุปทาน

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.78%


·      หุ้นญี่ปุ่นปรับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 29 ปีครึ่ง เนื่องจากความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงที่ลดลง หลังจากบริษัท Pfizer ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯได้คาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เพียง 50 ล้านโดสก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งน้อยกว่าคาดการณ์ครั้งแรกที่คาดว่าจะส่งมอบได้ 100 ล้านโดส

โดยดัชนี Nikkei ปิด -0.22% ที่ระดับ 26,751.24 จุด แต่ภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนีปรับขึ้นติดต่อกัน 5 สัปดาห์ ด้านดัชนี Topix เคลื่อนไหวทรงตัวที่บริเวณ 1,775.94 จุด


·      ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยภาพรวมรายสัปดาห์ปรับขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่แข็งแกร่งซึ่งชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าการปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นไปได้อย่างจำกัด จากประเด็นความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่เพิ่มขึ้น

โดยดัชนี blue-chip CSI300 ปิด +0.2% ที่ระดับ 5,065.92 จุด ด้านดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.1% ที่ระดับ 3,444.58

สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนี CSI300 +1.7% และดัชนี SSEC +1.1%

·       ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเจรจาข้อตกลงการค้า Brexit ในนาทีสุดท้าย

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.2% ด้านหุ้นน้ำมันและก๊าซพุ่งขึ้น 1.2% ขณะที่หุ้นภาคธนาคารลดลง 0.3%


อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานตัวเลขเงินสำรองระหว่างประเทศ วันที่ 27 พ.ย.63 อยู่ที่ 254.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 20 พ.ย.63 อยู่ที่ 253.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะเดียวกันฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 27 พ.ย.63 อยู่ที่ 26.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับวันที่ 20 พ. ย.63 อยู่ที่ 26.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 27 พ.ย.63 อยู่ที่ 7,693.5 พันล้านบาท จาก 7,658.5 พันล้าน บาท เมื่อวันที่ 20 พ.ย.63

- สมาคมตราสารหนี้ฯชี้ปี 64 เอกชนออกหุ้นกู้ มากกว่าปีนี้ที่คาดอยู่ที่ 7 แสนล้าน เหตุ มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดราว 7 แสนล้าน-กลุ่มสื่อสารระดมทุนเพื่อนำเงินจ่ายค่าไลเซ่นส์

- FETCO เปิดดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ 2564 อยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรงอย่างมาก" ครั้งแรกในรอบ 2 ปี เผยนักลงทุนคาดหวังการไหลเข้า-ออกของเงินทุนมากที่สุด

- อีลิทคาร์ดจับมือ ททท.และ ศบศ. ออกแพ็กเกจ "อีลิท เฟล็กซิเบิล พลัส" ดึงต่างชาติซื้อ คอนโดฯ กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ แถมวีซ่าพักไทยยาว 10 ปี ตั้งเป้าโกย 3 หมื่นล้านบาท


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com