ดอลลาร์กลับแข็งค่า หลังหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลง
ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าท่ามกลางระดับการซื้อขายปานกลาง และถือเป็นการขยับแข็งค่าขึ้นทีละน้อยในช่วง 4 วันทำการ ท่ามกลางแรงเทขายที่เข้ามาในตลาดหุ้นจึงช่วยคลายแรงกดดันความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง แต่ปัจจัยบวกจากข่าวดีเรื่องวัคซีนและการจะเกิดมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจต่อในปีหน้าก็ดูจะยังกดดันดอลลาร์ได้ต่อไป
ดัชนีดอลลาร์แข็งค่า 0.2% ที่ 91.067 จุด หลังลงไปทำต่ำสุดเมื่อศุกร์ที่แล้ว (4 ธ.ค.) บริเวณ 90.47 จุด ถือเป็นต่ำสุดตั้งแต่เม.ย. 2018
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.2% ที่ 1.2079 ดอลลาร์/ยูโร ภาพรวมปีนี้ปรับแข็งค่าได้กว่า 8% ถือเป็นขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2017
ความต้องการค่าเงินในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์, ค่าเงินนิวซีแลนด์ แลค่าเงินหยวน ก็ดูจะมีทิศทางที่แข็งค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยที่ค่าเงินออสเตรเลียและหยวนแข็งค่าขึ้นได้ในรอบกว่า 2 ปีครึ่งในช่วงต้นตลาด
และแนวโน้มของดอลลาร์โดยภาพหลักยังอ่อนค่าจากความเชื่อมั่นของตลาด โดยเฉพาะข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจของยุโรปที่ดูจะขยายตัวได้ดีกว่าของสหรัฐฯ
ข้อมูลความเชื่อมั่นนักลงทุนในเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้นในเดือนธ.ค. ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับวัคซีนไวรัสโคโรนาที่ช่วยหนุนแนวโน้มเศรษฐกิจเวลานี้
หยวนแข็งค่า
ค่าเงินหยวนแข็งค่าลงมาที่ 6.5198 หยวน/ดอลลาร์ ทำต่ำสุดตั้งแต่มิ.ย. ปี 2018 โดยหยวนปรับแข็งค่าแล้วกว่า 10% จากระดับอ่อนค่ามากที่สุดเดือนพ.ค. เพราะได้รับอานิสงส์จาก
- ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
- เม็ดเงินทุนในตลาดหุ้นและพันธบัตรจีนอย่างมั่นคง
เงินปอนด์ผันผวนปิด +0.2% ที่ 1.3379 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่ผู้นำอังกฤษ-อียูยังไม่สมารถตกลงข้อตกลงการค้ากันได้
ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ทำแข็งค่ามากสุดตั้งแต่มิ.ย.ปี 2018 โดยล่าสุดปิดแข็งค่า 0.6% ที่ 0.7451 ออสเตรเลียดอลลาร์
ที่มา: CNBC