สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯโหวตผ่านงบประมาณรัฐบาลขยายเวลา 1 สัปดาห์ ท่ามกลางการเร่งบรรลุข้อตกลงแพ็คเกจช่วยเหลือ Covid-19 โดยได้รับเสียงสนับสนุนไป 343 ต่อ 67 ที่จะทำให้เส้นตายของรัฐบาลเลื่อนออกไปวันที่ 18 ธ.ค.นี้ คาดวุฒิสาภจะลงนามกันในวันนี้เพื่ออนุมัติข้อเสนอดังกล่าว
อย่างไรก็ดี หลายๆการจัดการของหน่วยงานรัฐฯจะปิดให้บริการเนื่องจากการระบาดที่ขยายเป็นวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะหากสภาคองเกรสยังล้มเหลวการอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณได้ก่อนวันเสาร์นี้ (12 ธ.ค.)
นายมิทช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาสหรัฐฯ ยังแสดงถึงความตั้งใจผลักดันร่างงบประมาณต่างๆให้ผ่านได้ก่อนกำหนดเส้นตาย
นายแมคคอนเนล และนางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎร ต่างออกมาแสดงความต้องการผลักดันมาตรการช่วยเหลือ Covid-19 เข้าสู่ร่างงบประมาณเต็มฉบับประจำปี
บรรดาผู้นำพรรคเดโมแครตคาดหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถเจรจาภายใต้ข้อเสนอ 9.08 แสนล้านเหรียญได้ เพราะจะนำมาซึ่งการผลักดันของทั้ง 2 สภา ขณะที่นายมนูชินส่งสัญญาณข้อเสนอฉบับใหม่ในวงเงินที่สูงขึ้นมากถึง 9.16 แสนล้านเหรียญ ซึ่งทางด้านนายชัค ชูมเมอร์ส ปฏิเสธรับข้อเสนอดังกล่าวของพรรครีพับลิกัน เนื่องจากไม่ครบครอบคลุมถึงการจ่ายเงินช่วยเหลือคนว่างงานได้
เจรจากระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19 ยังเผชิญเสียงค้าน ขณะที่สภาคองเกรสเหลือเวลาไม่มากในการช่วยเหลือประชาชน
สภาคองเกรสยังคงล้มเหลวในการทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางประชาชนนับล้านที่สูญเสียเงินประกันว่างงานและที่อยู่อาศัย
บรรดาผู้นำพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจากันในข้อตกลงวงเงิน 9.08 แสนล้านเหรียญ ที่ดูจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 2 สภาที่มีความเห็นต่างกัน แม้ว่าทีมนักกฎหมายจะยังไม่สามารถหาข้อสรุปขั้นสุดท้ายได้ เนื่องจากยังมีความเห็นต่างกันในเรื่องกฎหมายความคุ้มครองภาคธุรกิจ, มลรัฐ และรัฐบาลท้องถิ่น
นอกจากนี้ รีพับลิกันยังตำหนิพรรคฝ่ายตรงข้ามที่ปฏิเสธข้อเสนอใหม่วงเงิน 9.16 แสนล้านเหรียญ จากทีมบริหารของนายทรัมป์ เนื่องด้วยเหตุผลในการจ่ายเงินตรงจำนวน 600 เหรียญ แค่เพียง 1 ครั้ง แต่ไม่มีการจัดเตรียมวงเงินเพิ่มสำหรับคนว่างงาน ซึ่งเดโมแครตต้องการให้เกิดการจ่ายเงินอย่างน้อย 300 เหรียญ/สัปดาห์ เพื่อสนับสนุนสวัสดิการการว่างาน
ทั้งนี้ นางเพโลซีและนายชูมเมอร์ส ยังปฏิเสธข้อเสนอของนายแมคคอนเนล ที่เรียกร้องกฎหมายที่ครอบคลุมถึงภาคธุรกิจและมหาวิทยาลัยที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา และเมินข้อเรียกร้องของเดโมแครตเกี่ยวกับการช่วยเหลือรัฐต่างๆและรัฐบาลท้องถิ่น
โดยสมาชิกส่วนใหญ่ของทั้ง 2 พรรคยังคงต้องการและเรียกร้องให้สนับสนุนงบประมาณภาครัฐ เพื่อเลี่ยง Shutdown และเพื่อขวางการตัดเงินช่วยเหลือก้อนแรกหรือลดค่าแรงครู
อย่างไรก็ดี ยังไม่ชัดเจนว่าสรุปแล้วทั้งสองฝ่ายจะเลือกใช้แผนใด ท่ามกลางประชาชนกว่า 12 ล้านรายที่อาจเสียสิทธิการรับสวัสดิการว่างงานหลังเทศกาลคริสต์มาสได้ เนื่องด้วยเดโมแครตมองวย่าข้อเสนอของนายมูชินเป็นเรื่องประหลาดที่คนปกติไม่นิยมเลือกปฏิบัติ
ขณะที่นายแมคคอนเนลกล่าวย้ำว่า ยิ่งขัดแย้ง ยิ่งเลื่อนออกไป ยิ่งส่งผลเสียต่อชาวอเมริกานับล้าน และเขามองว่าเดโมแครตปฏิเสธข้อเสนอของรีพับลิกันมาจากเหตุผลทางการเมือง
ที่มา: CNBC