• ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นสินทรัพย์เสี่ยงอ่อนตัว

    14 ธันวาคม 2563 | Economic News
  
      

ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นสินทรัพย์เสี่ยงอ่อนตัว

ค่าเงินดอลลาร์รีบาวน์ได้ในคืนวันศุกร์ เพราะได้รับแรงหนุนจาก

- ความกังวลที่จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯถูกเลื่อนออกไป ท่ามกลางยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้น

- แนวโน้มที่อังกฤษจะออกจากอียู โดยปราศจากข้อตกลง

- ความหวังเห็นเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวปีหน้าลดลง

 

ทั้งหมดนี้ ถือเป็นปัจจัยลบต่อความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น และค่าเงิน จึงหันกลับมาถือค่าเงินและสินทรัพย์กลุ่ม Safe-Haven อาทิ ออสเตรเลียดอลลาร์ และแคนาดาดอลลาร์ที่ทั้ง 2 ค่าเงินปรับแข็งค่ามากสุดรอบกว่า 2 ปี

ความเชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนย่ำแย่ลงจากการที่ภาคธุรกิจปิดทำการมากขึ้น เพื่อรับมือกับยอดติดเชื้อที่ระบาดหนัก ประกอบกับความผันผวนในตลาดที่ยังมีอยู่จาก Brexit

ยอดเสียชีวิตในสหรัฐฯยังอยู่ระดับสูงกว่า 2,900 รายต่อวัน หลังจากวันพฤหัสบดีทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 3,253 รายในหนึ่งวัน ขณะที่ยอดเสียชีวิตน่าจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอีก 2-3 เดือนจนกว่าวัคซีนจะแพร่หลายเป็นวงกว้าง

การเจรจากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯยังชะงักงัน แม้โฆษกสภาผู้แทนราษฎรฯจะบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาต่อแม้จะยาวไปถึงช่วงคริสต์มาสนี้ก็ตาม

ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ เดือนพ.ย. ยังเป็นปัจจัยเกื้อหนุนมุมมองเงินเฟ้อจะยังอยู่นะดับต่ำในระยะสั้น จากการระบาดของไวรัสที่คุกคามตลาดแรงงาน และกระทบอุปสงค์ภาคบริการ

ดัชนีดอลลาร์ปิด +0.2% ที่ 90.936 จุด และยืนได้เหนือต่ำสุดรอบ 2 ปีครึ่งที่ 90.471 จุด ที่ทำไว้ในวันที่ 4 ธ.ค. ช่วงต้นตลาด

 

เงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.66% แตะ 1.3211 ดอลลาร์/ปอนด์ จากความไม่แน่นอนของ Brexit ที่เพิ่มมากขึ้น

ตลาด Options สะท้อนการเคลื่อนไหวเทรดเดอร์เป็นอย่างดี  โดยมาตรวัดความผันผวนช่วง 1 สัปดาห์ พบว่าทำสูงสุดรอบ 9 เดือน และค่าพรีเมียมของเงินปอนด์ อยู่ใกล้กับสูงสุดตั้งแต่เม.ย. จากนักลงทุนที่ต้องจ่ายค่าประกันความเสี่ยงขาลง

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.16% ที่ 1.2122 ดอลลาร์/ยูโร หลังพฤหัสบดีปรับขึ้นแข็งแกร่งรับอีซีบีกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม และบรรดาผู้นำยุโรปบรรลุการประนีประนอมข้อตกลงแพ็คเกจช่วยเหลือทางการเงินได้

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับลงจากสภาคองเกรสที่ยังปลดล็อกการกระตุ้นเศรษฐกิจร่วมกันไม่ได้



อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับลงแตะ 0.889%

อัตราผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับลงมาที่ 1.614%

สภาคองเกรสยังตกลงเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจร่วมกันไม่ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันปฏิเสธวงเงินช่วยเหลือ 9.08 แสนล้านเหรียญ ที่ทางเดโมแครตร้องขอเจราจา

อย่างไรก็ดี วุฒิสภาสหรัฐฯโหวตเห็นชอบขยายเวลางบประมาณรัฐบาลออกไป 1 สัปดาห์ หลังสภาผู้เแทนราษฎรโหวตผ่าน เพื่อให้เกิดการเจรจาร่วมกันต่อไป ขณะที่นางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า การเจรจาจะยังดำเนินต่อไปได้แม้จะเป็นวันหยุดเทศกาล

The Sevens Report รายงานว่า ประเด็นการเจรจาดังกล่าว เป็นหัวข้อที่ตลาดสนใจ และค่ดว่าจะเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในอีกไม่นาน แม้ว่าความจริงจะไม่เกิดขึ้นได้ภายใน 18 ธ.ค. นี้ ดังนั้น จึงอาจเห็นตลาดมีความผันผวนได้          


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com