· เงินปอนด์แข็งค่า-เจรจา Brexit มีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น - ดอลลาร์อ่อนค่าก่อนประชุมเฟด
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโรจากความหวังที่อังกฤษและอียูจะเดินหน้าเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีต่อหลังจากที่ตัดสินใจขยายกำหนดเส้นตายเมื่อวานี้
ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.7% ที่ 1.3317 ดอลลาร์/ปอนด์ ปรับแข็งค่าขึ้นรายวันที่ดีที่สุดตั้งแต่ 1 ธ.ค.
นักวิเคราะห์บางส่วน เตือนว่า การแข็งค่าของเงินปอนด์ยังไม่จบ เนื่องจากอียูและอังกฤษยังคงมีหลายๆอย่างที่ขัดแย้งกัน และยังเสี่ยงที่จะกระทบต่อการค้าและภาคธุรกิจ จึงอาจจบลงที่การก้าวออกแบบปราศจากข้อตกลงใดๆ
ค่าเงินปอนด์เมื่อเทียบยูโรทรงปิดแข็งค่าขึ้น 0.5% ที่ 91.07 เพนซ์ ถือว่าแข็งค่ารายวันมากสุด 9 ธ.ค.
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.2% ที่ 1.2129 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินดอลลาร์มีการซื้อขายแถวต่ำสุดรอบ 2 ปีครึ่ง ก่อนประชุมเฟด ที่ถูกคาดว่าจะมีการเข้าซื้อผลตอบแทนระยะยาวเพิ่มเพื่อจำกัดการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทน
ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถว 90.793 ใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 2 ปีครึ่ง
ภาพรวมดอลลาร์เผชิญแรงกดดันล่าสุด ก่อนเผชิญสัปดาห์ที่ผันผวนเนื่องจากการเข้าสู่ช่วงประชุมเฟดสัปดาห์นี้
รายงานจาก CFTC และ Reuters เผยว่า นักลงทุนมีการเปิดสถานะ Short ในค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วทำสูงสุดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีการขายดอลลาร์จากคาดการณ์เกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลจากคืบหน้าวัคซีนเชิงบวก และความหวังที่จะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ค่าเงินหยวนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยโดยยังอยู่แถว 6.5370 หยวน/ดอลลาร์ โดยแข็งค่าขึ้นอีกเล็กน้อย 0.2% ที่ 6.5237 หยวน/ดอลลาร์ ในช่วงดอลลาร์กลับอ่อนค่าอีก
· ออสเตรเลียดอลลาร์แข็งค่าทำสูงสุดประวัติการณ์ จากราคาแร่เหล็กที่ปรับขึ้นท่ามกลางตึงเครียดกับจีนที่เพิ่มขึ้น
ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ทำแข็งค่ามากสุดในรอบกว่า 2 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากราคาแร่เหล็กที่เพิ่มขึ้น โดยสัปดาห์ที่แล้วค่าเงินผ่าน 0.75 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นฝ่าได้มาก่อนตั้งแต่ปี 2018 และวันศุกร์เทรดเหนือ 0.7570 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ราคาแร่เหล็กยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากอุปสงค์จากประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางภาวะอุปทานที่เริ่มลดลง และมีอุปสรรคจากพายุที่กระทบชายฝั่งออสเตรเลียยังบริเวณแหล่งผลิตขนาดใหญ่ในประเทศด้วย
ขณะที่ตลาดแลกเปลี่ยน DCE ของสัญญาซื้อขายแร่เหล็กล่วงหน้าปรับขึ้นได้เกือบ 10% และมีการทำ All-Time High เหนือ 1,000 หยวน (152.95 เหรียญ) ต่อ ตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เช่นกัน
· การนับคะแนน Elecotral College วันนี้ จะเป็นการยืนยันชัยชนะของนายไบเดน ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไป
· เตรียมส่งวัคซีนลอตแลกไปยังสหรัฐฯ กับความหวังของประชาชนนับล้าน
สายการบินและรถบรรทุกของบริษัท Cargo จะทำการขนส่งวัคซีน Covid-19 ลอตแรกแก่สหรัฐฯเพื่อส่งต่อไปให้กับ FedEx และ UPS ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่รัฐเทนเนสซี และรัฐเคนตัคกี้เมื่อวานนี้
· บริษัท เทคโนโลยีชีวภาพ ของสวิส กำลังพัฒนาวิธีการรักษาโควิด ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทปรับสูงขึ้น 38,000% ในปีนี้
เนื่องจากมีการพัฒนายาที่มุ่งเน้นไปที่ระบบทางเดินหายใจที่ล้มเหลว อันเนื่องมาจาก Covid-19
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทได้ร่วมกับ NeuroRx ของสหรัฐฯ ได้ลงทะเบียนผู้ป่วย 165 คน ที่เห็นด้วยกับองค์กรอาหารและยาของสหรัฐฯ ในการทดลองใช้ RLF-100 ระยะที่เฟด 2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่จดสิทธิบัตรแล้วของ aviptadil แล้ว
Aviptadil เป็นสูตรสังเคราะห์ของเปปไทด์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เรียกว่า Vasoactive Intestinal Polypeptide (VIP) ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้มข้นในปอดและทำงานเพื่อเสริมสร้างการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันพร้อมกับทำหน้าที่เป็นตัวขยายหลอดเลือดและกระตุ้นการผลิตสารลดแรงตึงผิวในปอดซึ่ง ช่วยให้การถ่ายเทออกซิเจนในเลือด ซึ่งสามารถ ปกป้องเซลล์ที่ถูกโจมตีโดยไวรัส Covid-19 ได้
อย่างไรก็ดี จากผลการทดลองในผู้ป่วย ICU ที่มีอาการรุนแรงเนื่องมาจากโควิด สามารถรักษาหายได้ 72%
· Moody's ชี้ การได้รับอนุมัติของวัคซีน Covid-19 ของไฟเซอร์ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือเชิงบวก เนื่องด้วยจะเพิ่มผลประกอบการและเม็ดเงินสดจากยอดขายวัคซีนให้แก่บริษัทได้ พร้อมทั้งสร้างโอกาสการทำรายได้และผลกำไรให้แก่บริษัทด้วย
· อังกฤษ ระบุว่า การเจรจาการค้ากับออสเตรเลีย "เป็นไปด้วยดี"
· บรรดาผู้นำอียู-อังกฤษ เห็นพ้องขยายเส้นตายเจรจาข้อตกลงการค้า Brexit ออกไปจากวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
· ธนาคารกลางฝรั่งเศสปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจฝรั่งเศส โดยคาดปีหน้าจะรีบาวน์ได้หลังคลาย Lockdown แต่อาจไม่เร็วกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ หลังจากที่เศรษฐกิจหดตัวลงประมาณ -9% ในปีนี้ โดยเศรษฐกิจฝรั่งเศสปีหน้าและปี 2022 น่าจะขยายตัวได้เพียง 5% และปี 2023 จะค่อยๆฟื้นตัวมาที่ 2% โดยการรีบาวน์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่การ Lockdown รอบ 2 กลับมาอีกครั้งในช่วงสิ้นเดือนต.ค. จากยอดติดเชื้อไวรัสที่เพิ่มสูงขึ้น ก่อนจะค่อยๆกลับสู่ภายใต้การควบคุม
อย่างไรก็ดี ในการคาดการณ์ครั้งก่อนเดือนก.ย. ที่คาดว่าปีนี้จะหดตัวเพียง -8.7% และปีหน้าโตได้ 7.4% ขณะที่ปี 2022 โตได้ 3%
· ราคาขายบ้านใหม่ในจีนชะลอตัวลงเดือนเม.ย. ท่ามกลางตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวมากสุดเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมี.ค. ท่ามกลางกลุ่มผู้กำหนดนโยบายที่มีความกังวลเรื่องความเสี่ยงทางการเงินในระดับสูง
ค่าเฉลี่ยราคาบ้านใหม่ในจีนปรับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนพ.ย. จาก 0.2% ในเดือนต.ค.
ราคาบ้านในเดือนพ.ย.ปรับขึ้น 4% ในเดือนพ.ย. เช่นเดียวกับของปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับอ่อนแอสุดตั้งแต่ก.พ. ปี 2016 เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ที่อยู่ที่ 4.3%
· ปัจจัยสำคัญหลังการฟื้นตัวเศรษฐกิจของจีน
จีดีพีจีนยังถูกคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 2% ในปีนี้ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักเพียงแห่งเดียวที่เติบโตขึ้นท่ามกลางภาวะถดถอยทั่วโลก การเติบโตเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม เช่น การผลิต มากกว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภค นั่นเป็นข้อกังวลสำหรับประเทศที่มีประชากร 1.4 พันล้านคน ซึ่งจีนพยายามให้การสนับสนุนด้วยการพึ่งพาอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น
ความกังวลเล็กน้อยนี้เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่ซบเซา โดยเฉพาะผู้บริโภคที่มีการจับจ่ายใช้สอยน้อยลง
อย่างไรก็ตาม รายได้จากครัวเรือนเติบโตน้อยลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และยังคงต้องการเวลาสำหรับการกลับมาของผู้บริโภค
· ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ เผชิญความกังวลยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้น ภายใต้การสนับสนุนต่างๆของผู้นำประเทศ
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเผชิญกับยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนารอบใหม่ที่กำลังเพิ่มขึ้นต่อ ขณะที่นายกฯญี่ปุ่น และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต่างหาวิธีรับมือและจำกัดการระบาด
ญี่ปุ่น:
- พบรายงานยอดติดเชื้อใหม่สูงกว่า 3,000 รายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (สูงสุดเป็นประวัติการณ์)
- ยอดติดเชื้อไวรัสในกรุงโตเกียว, เกาะทางตอนเหนือของฮอกไกโด และโอซากา พบการระบาดที่ย่ำแย่ที่สุดในเวลานี้
- มีแนวโน้มเลื่อนการจัด Olympics ในปีหน้า
- การทดสอบหายอดติดเชื้อที่เคยอยู่ระดับต่ำ กลับเพิ่มขึ้นสูงกว่า 5,000 รายในหนึ่งวันเมื่อไม่นานมานี้
- การทดสอบหาเชื้อในกรุงโตเกียว พบยอดติดเชื้อสูงกว่า 60,000 ราย และปัจจุบันอยู่ที่ระดับราว 9,000 ราย/วัน
เวลานี้ ญี่ปุ่นกำลังให้ความสนใจไปยังค่าใช้จ่ายทางด้านเศรษฐกิจ ที่ค่อนข้างแน่ชัดว่าประสบปัญหา Lockdown ตั้งแต่การระบาดรอบแรก และภาครัฐพยายามเรียกร้องให้ประชาชน และภาคธุรกิจมีการจำกัดหือปิดทำการจัดการเร็วเป็นการชั่วคราว
เกาหลีใต้:
- ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาระบาดหนัก อันเนื่องจากหลายๆฝ่ายขาดวินัยในการควบคุมหรือจำกัดการระบาด
- ยอดติดเชื้อในวันอาทิตย์ทำสถิติรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1,030 ราย สร้างความกังวลครั้งใหญ่ให้แก่ประเทศ
- เกาหลีใต้เตือนการควบคุมการระบาดที่อาจยกระดับสู่ขั้นที่ 3 ซึ่งอาจทำให้เกิดการกลับมา "Lockdown" ประเทศอีกครั้ง
· เกาหลีใต้สั่งปิดโรงเรียนสู้ Covid-19 จากยอดติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น
· ออสเตรเลียยกเลิก Work from home แต่พนักงานส่วนใหญ่ยังเลี่ยงการทำงานในสำนักงาน
· ราคาน้ำมันพุ่งจากความหวังวัคซีน, เรือบรรทุกน้ำมันระเบิดที่ซาอุดีอาระเบีย
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยน้ำมันดิบ Brent กลับมาปรับตัวสูงกว่า 50 เหรียญ/บาร์เรล จากการเปิดตัววัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาที่อาจจะช่วยเพิ่มความต้องการเชื้อเพลิงทั่วโลก ขณะที่การระเบิดของเรือบรรทุกน้ำมันในซาอุดิอาระเบียได้สร้างความกังวลมากขึ้นให้แก่ตลาด เนื่องจากมีแหล่งข่าว รายงานถึงเหตุระเบิดดังกล่าวอาจมาจากการโจมตีท่าเรือเจดดาห์ในซาอุดีอาระเบีย
น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.8% ที่ระดับ 50.35 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.7% ที่ระดับ 46.89 เหรียญ/บาร์เรล
ภาพรวมน้ำมันดิบ Brent และ WTI เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 6 สัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่งเป็นเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.