• ดอลลาร์อ่อนค่าลง – ปอนด์แข็งจากความหวัง Brexitหนุนสินทรัพย์เสี่ยง

    15 ธันวาคม 2563 | Economic News
  

ดอลลาร์อ่อนค่าลง – ปอนด์แข็งจากความหวัง Brexit หนุนสินทรัพย์เสี่ยง

ดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 2 ปีจากความหวังของข้อตกลง Brexit และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจช่วง Covid-19 ของฝั่งสหรัฐฯ ควบคู่กับความคืบหน้าวัคซีนที่ทั้งหมดนี้ช่วยหนุนความต้องการค่าเงินในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง

เงินปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้นหลังจากที่อังกฤษ-อียู เห็นพ้องกันเมื่อวันอาทิตย์ในการขยายเจรจา Brexit ออกไป และทางหัวหน้าผู้แทนเจรจาของทางฝั่งอียูก็มองว่าข้อตกลงยังมีความเป็นไปได้

ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 1.16% ที่ 1.3375 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยแข็งค่าจากต่ำสุดที่ทำไว้บริเวณ 1.3133 ดอลลาร์/ปอนด์ในคืนวันศุกร์

นักกลยุทธ์ค่าเงินจาก Scotiabank ระบุว่า ในความเป็นจริงแล้วดูเหมือนทั้งอียูและอังกฤษต่างก็ต้องการก้าวออกจากการเจรจา และนั่นจุดประกายให้เกิดความกังวลว่าจะจบลงแบบ No-Deal ได้ ดังนั้น นักลงทุนจึงควรมีความระมัดระวังในการลงทุน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดแดนบวกจากหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวที่ปิดแดนบวกจากคืบหน้าวัคซีน ด้านหุ้นบริษัทยา Alexion Pharmaceuticals ปิดบวกเพราะได้รับแรงหนุนจากวัคซีน AstraZeneca ของอังกฤษ

ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.24% ที่ 90.544 จุด หลังจากที่ช่วงต้นตลาดดิ่งลงทดสอบ 90.419 จุด ซึ่งเป็นต่ำสุดตั้งแต่เม.ย. 2018

แผนเจรจากระตุ้นเศรษฐกิจ 9.08 แสนล้านเหรียญ อาจได้รับการนำเสนอใหม่เร็วที่สุดเมื่อวานนี้ ที่อาจเห็นการแบ่งแยกเป็น 2 แพ็คเกจได้

CFTC เผย ค่าเงินดอลลาร์มีการทำสถานะ Short สุทธิในตลาดเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.ย.

ธนาคารกลางอิสราเอลมีการเข้าแทรกแซงตลาดค่าเงินด้วยการเข้าซื้อสกุลเงินตราต่างประเทศกว่า 1.7 หมื่นล้านเหรียญในเดือนนี้ จากเดือนที่แล้วที่ซื้อไป 1.9 พันล้านเหรียญในเดือนพ.ย. ผลที่ตามมาคือทำให้ค่าเงินเชเคิล แข็งค่าทำสูงสุดรอบ 12 ปีครึ่ง บริเวณ 3.257 เมื่อเทียบดอดลลาร์ หรือปรับแข็งค่ามาได้แล้วราว 6% ปีนี้

ค่าเงินกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงอย่างออสเตรเลียดอลลาร์และนิวซีแลนด์ก็ยังคงทำสูงสุดนับตั้งแต่เม.ย. ปี 2018

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นประมาณ 0.42% ที่ 1.2159 ดอลลาร์/ยูโร แม้จะมีการกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มรอบใหม่ในยุโรป อาทิ โดยเฉพาะเยอรมนีที่อาจส่งผลกระทบให้ตลาดจำกัดภาวะแข็งค่าได้

ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์จากนักลงทุนในตลาดที่เมินต่อการที่ธนาคารกลางจีนมีการปรับเงินหยวนให้เหมาะสมด้วยการลดเม็ดเงินทุนไหลเข้า

หยวนอ่อนค่าเล็กน้อยแตะ 0.2% ที่ระดับ t 6.5251 หยวน/ดอลลาร์

ภาพรวมสัปดาห์นี้ ตลาดให้ความสนใจไปยังการประชุมของเฟดและบีโออีในวันพุธและพฤหัสบดีนี้ ขณะที่วันศุกร์มีประชุมบีโอเจ ซึ่ง UBS เชื่อว่าเป็นปัจจัยใหญ่ที่ตลาดเฝ้ารอคอย


นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered Bank คาด ปอนด์อาจพุ่งแตะ 1.40 ดอลลาร์/ปอนด์ หาก Brexit เกิดข้อตกลงร่วมกันได้! รวมทั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกจากวิกฤต Covid-19


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับขึ้น - นักลงทุนจับตาการคุมเข้มสู้ Covid-19 และเจรจากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับขึ้นแตะ 0.91%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับขึ้นแตะ 1.63%


ที่มา: CNBC

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com