• ประชุมเฟด- ยอดค้าปลีก : ปัจจัยที่ต้องติดตาม

    16 ธันวาคม 2563 | Economic News
  

เฟดเปิดฉากประชุมแล้วในวันอังคารที่ผ่านมา ท่ามกลางสมาชิกเฟดที่มีท่าทีระมัดระวัง โดยจะเห็นได้จากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจองค์รวม หรือ Beige Book ที่ประกาศในเดือนธ.ค. ที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลกิจกรรมเศรษฐกิจที่มีการประกาศก่อนเข้าสู่วาระการประชุมรอบนี้ และยังสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจโตได้ปานกลาง แต่ 4 เขตเศรษฐกิจหลักกลับพบว่าโตได้นิดเดียวหรือไม่เติบโตเลย และ 5 ข้อมูลสำคัญพบว่ายังอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาด

สมาชิกเฟดหลายคนตลอดช่วงหลายเดือนมานี้ยังกล่าวย้ำถึงความพยายามของนโยบายการเงินที่จะมีประสิทธิภาพอย่างมากเมื่อมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากสภาคองเกรส แต่ ณ ขณะนี้ก็ยังไม่เห็นถึงการตกลงร่วมกันได้

การประชุมวาระนี้ของเฟด จะมีผลต่อการตัดสินใจของเฟดคือ


การปรับคาดการณ์เศรษฐกิจในสรุปรายงาน Economic Projections ที่จะเปิดเผยในคืนนี้ด้วยเช่นกั ที่อาจเป็นจุดที่ตลาดสนใจโดยเฉพาะ


เนื่องด้วยในเดือนก.ย. คาดการณ์เศรษฐกิจเฟด มีการปรับเพิ่มมุมองแนวโน้มไว้ ดังนี้
- เศรษฐกิจสหรัฐฯปีนี้จะหดตัวที่ -3.7%
- Real GDP คาดดีขึ้นกว่าคาดการณ์มิ.ย. ไว้เล็กน้อยที่ -6.5%
- อัตราว่างงานคาดอยู่ที่ 7.6% และปี 2023 จะกลับสู่ช่วงก่อนการระบาดประมาณ 4%
- มองจะคงดอกเบี้ยไว้อย่างน้อยถึงปี 2023

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Deutsch Bank มองว่า แม้จะมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับข่าวคืบหน้าวัคซีน ที่ช่วยหนุนแนวโน้มระยะกลางสำหรับแนวโน้มของเฟดได้ แต่ระยะสั้นๆ เฟดก็ยังมองว่าภาพรวมยังมีความไม่แน่นอนเนื่องจากการระบาดของไวรัสและนโยบายการเงินของสภาคองเกรส ที่ดูจะเป็นสิ่งที่ “เฟดระมัดระวังต่อการประชุม รวมถึงแถลงการณ์ของประชุมเฟดด้วย”

และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การประชมุเฟดเดือนธ.ค. ที่จะมีแถลงผลประชุม รวมทั้งสัญญาณชี้นำเกี่ยวกับการเข้าซื้อสินทรัพย์ของเฟด ที่ถือเป็นกลยุทธุ์สำคัญที่เฟดใช้เพื่อกระตุ้นกิจกรรมในตลาดการเงิน ท่ามกลางวิกฤตไวรัสโคโรนาในเวลานี้


ณ ปัจจุบันเฟดมีการใช้วงเงิน QE ที่ 8 หมื่นล้านเหรียญในการเข้าซื้อพันธบัตร และวงเงิน 4 หมื่นล้านเหรียญของตราสารหนี้ประเภท MBS


สำหรับการประชุมเฟดในเดือนพ.ย. ก็ยังบ่งชี้ว่า
- เฟดมีแผนจะเดินหน้าซื้อ QE ต่อ ด้วยการเพิ่มการถือครองพันธบัตรและตราสารหนี้ MBS เพื่อเสริมให้ตลาดเคลื่อนไหวอย่างราบรื่น ตามเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ
- อาจมีการลดวงเงินเข้าซื้อ QE ก่อนตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยได้

ยอดค้าปลีก


หลังจากที่ข้อมูลช่วง Black Friday และ Cyber Monday พบค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นประวั
ติการณ์ อันเป็นผลจากการเข้าซื้อออนไลน์ ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเห็นยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. กลับสู่แดนลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เม.ย.


โดยอาจเห็นยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. ออกมาลดลงแตะ 0.3% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปได้ในเดือนต.ค. ในทางกลับกันอาจเห็นการปรับตัวขึ้นชะลอตัวนับตั้งแต่ที่เคยทำต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนเม.ย. ท่ามกลางกลุ่มผู้อุปโภคบริโภคที่อาจยุติการเข้าซื้อในช่วงกลับมาระบาดใหม่ที่ส่งผลให้เกิดการกลับมาใช้มาตรการ Lockdown


หนึ่งในปัจจัยที่กดดันข้อมูลค้าปลีก ยังมาจาก “ค่าใช้จ่ายในภาคบริการที่ปรับตัวลดลง” จากมาตรการ Stay-at-Home และ “ภาวะอากาศหนาวจัด” ที่สร้างแรงกดดันต่อกิจกรรมในร้านอาหารและบาร์ โดยจะเห็นได้จากหลายๆรัฐที่ประกาศลดการเดินทางออกนอกพื้นที่และจำกัดชั่วโมงการเข้าใช้บริการร้านอาหารบาร์ ท่ามกลางยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างหนักในเดือนพ.ย.


ที่มา: Yahoo Finance


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com