• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2563

    16 ธันวาคม 2563 | SET News
 



·         หุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นจากข่าววัคซีน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง


ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น และค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงจากความหวังของวัคซีนไวรัสโคโรนาที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมก่อนหน้าวันหยุดในช่วงเทศกาลคริสมาสต์


ดัชนี 
MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.8% หลังจากที่ปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ


ดัชนีทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 
3.8% ในเดือนธ.ค.และเป็นปีที่ได้ผลการดำเนินงานประจำปีที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 เนื่องจากการกระตุ้นของรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลก


ขณะที่ตลาดจะให้ความสำคัญไปยังเฟดเพื่อดูการคาดการณ์ใหม่ว่าเศรษฐกิจจะประสบภาวะถดถอยเป็นเท่าตัวหรืออยู่ในช่วงบูมที่ได้รับแรงหนุนจากวัคซีน


เฟดจะมีการประชุมในคืนนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดหวังคำแนะนำบางประการเกี่ยวกับเวลาและวิธีที่เฟดจะเปลี่ยนแปลงการเข้าซื้อพันธบัตร


ทั้งนี้ มุมมองเชิงบวกสำหรับข้อตกลงทางการค้าเกี่ยวกับ 
Brexit ยังช่วยหนุนตลาดหุ้น ขณะที่ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับปอนด์และยูโร

 

·         ดัชนี blue-chip CSI300 ปรับตัวสูงขึ้น 0.18% เนื่องจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจ ทำให้หุ้นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ช่วยชดเชยความอ่อนแอในภาคเทคโนโลยี ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite เคลื่อนไหวทรงตัวบริเวณ 3,366.98 จุด

 

·         หุ้น SMIC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของจีน ร่วงลง 5% จาก CEO วางแผนที่จะลาออก ท่ามกลางข่าวที่ MSCI ถอดหุ้นบริษัทออกจากกระดานซื้อขายภายใน 5 ม.ค. ปีหน้า


การที่ดัชนี MSCI ประกาศถอนรายชื่อบริษัทจีนเป็นผลจากการที่สหรัฐฯมีคำสั่ง ห้ามบริษัทในสหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มรายย่อยที่ถือหุ้นบริษัทจีนไว้ในการทำธุรกรรม โดยที่ ทางทำเนียบขาวอ้างว่าเป็นการให้การสนับสนุนทางทหารของจีน


จีนมีการผลักดันการพึ่งพาตนเองในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น จึงทำให้เห็นการขยายตัวที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน่มา ท่ามกลางแรงตึงเครียดกับสหรัฐฯที่เพิ่มมากขึ้น โดยที่บริษัท SMIC ถือเป็นส่วนสำคัญด้านการเติบโตดังกล่าวของจีน


อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ พยายามอย่างหนักในการตามอุตสาหกรรมของจีนให้ทัน ซึ่งในเดือน ก.ย. สหรัฐฯได้มีมาตรการคว่ำบาตร SMIC และทำให้สหรัฐฯเองก็เผชิญกับภาวะ ขาดแคลนเทคโนโลยีที่ต้องการ ขณะที่ในเดือนนี้ SMIC ถูกเพิ่มเข้าบัญชีดำของสหรัฐฯ จากการสนับสนุนทางทหารของจีนด้วย



·         หุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นตามการเคลื่อนไหวแดนบวกของตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นเอเชียเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.5% ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์พุ่งขึ้น 1.1% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก




·         อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ

หุ้นไทยวันนี้ (16 ธ.ค.) ปิดตลาดภาคเช้า -0.48 จุด ซื้อขาย 7 หมื่นล้าน

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (16 ธ.ค.63) ดัชนี 
SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,476.73 จุด ปรับลง -0.48 จุด หรือคิดเป็น -0.03% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 70,259 ล้านบาท เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1,475.09-1,488.86 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ BANPU CPALL และ KBANK


ดัชนี 
SET50 ล่าสุดปรับลง -3.09 จุด หรือคิดเป็น -0.33% อยู่ที่ 946.19 จุด โดยมูลค่าซื้อขายรวม อยู่ที่ 48,670 ล้านบาท เทียบเป็นราว 69.27% ของ SET ทั้งหมด

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

"เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (KEX)" เคาะราคาไอพีโอขั้นสุดท้ายที่ 28 บาท/หุ้น จากที่กำหนดช่วงเสนอขายที่ 25-28 บาท


บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ 
KEX เปิดเผยข้อมูลผ่านแบบเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอครั้งสุดท้ายที่ราคา 28 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาเสนอสูงสุดจากที่กำหนดช่วงราคาที่ 25-28 บาท/หุ้น จากที่กำหนดระยะเวลาเสนอขายวันที่ 8-9 และ 14 ธ.ค.63


โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 300 ล้านหุ้น คิดเป็น 17.2%% ของหุ้นทั้งหมดหลังเสนอขายไอพีโอ โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ 
SCB และ บริษทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเทศไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากผลของดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน ในขณะที่นักลงทุนรอติดตามผล การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะมีการปรับเพิ่มวงเงิน QE

 

- ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้รัฐบาลเดือนตุลาคม 2563 มีรายได้สุทธิ 167,358 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายงบประมาณตั้งไว้ 15,487 ล้านบาท หรือต่ำกว่า 8.5% ผลจากภาวะเศรษฐกิจไทยหดตัว จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายและมาตรการทางภาษีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนและผู้ประกอบการโดยรายได้จากรัฐวิสาหกิจกลุ่มพลังงานลดลง จากปรับเปลี่ยนวิธีการชำระภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีตัวเลขสูงในปีก่อน

 

- "ศบค.มท." สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ คุมเข้มมาตรการจัดกิจกรรมเทศกาล "คริสต์มาส-ปีใหม่" ด้าน "วิษณุ" แย้มประชุมศบค.พฤหัสฯ นี้ ถกฟื้นมาตรการเข้ม หลังฝ่าฝืนจัดคอนเสิร์ตทั้งที่สั่งห้าม


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com