• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2563

    17 ธันวาคม 2563 | Gold News


ทองฉายแววสดใสในทิศทาง "ขาขึ้น" มีโอกาสผ่าน 1,875 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก FXStreet มองว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้หลังทำ High แถว 1,870 เหรียญ รับข่าวกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีความคืบหน้ามากขึ้นในการตกลงกันที่วงเงิน 9 แสนล้านเหรียญ ท่ามกลางผู้แทนเจรจาที่ส่งสัญญาณ "ใกล้ตกลงกันได้"

· ภาพรวมตลาดยังมีความหวังจากข้อตกลง Brexit และท่าทีผ่อนคลายทางการเงินของเฟด ที่ช่วยกดดันดอลลาร์ที่อยู่ในฐานะ Safe-Haven ได้อยู่ ประกอบกับตลาดทองคำยังรอคอยข้อมูลการจ้างงานสำคัญที่จะประกาศเป็นลำดับต่อไป


· ทิศทางทองจากภาพประกอบ (ด้านล่าง)

ในทางเทคนิค เครื่องมือ The Technical Confluences Indicator สะท้อนว่า ทองคำจำเป็นต้องยืนได้เหนือ 1,867.62 เหรียญ "จึงจะกลับเป็นขาขึ้น" โดยระดับดังกล่าเวป็นสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อวานนี้

· โดยแนวต้านถัดไปอยู่แถว 1,870 เหรียญที่เป็น Pivot Point ของแนวต้านแรกในภาพรายสัปดาห์ และระดับสำคัญของ Bollinger Band ที่สะท้อนภาวะขาขึ้น

· สำหรับกำลุ่มนักลงทุนที่ "รอซื้อ" ควรรอราคามาแถวระดับ 1,873 เหรียญ ที่ถือเป็นระดับสำคัญและท้าทายอย่างมาก รวมทั้งยังเป็นเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วันของ SMA ที่หากผ่านได้จะปูทางไปที่ 1,875 เหรียญ ที่เป็นสูงสุดของสัปดาห์


· เพราะหากผ่านระดับดังกล่าวไปได้มีโอกาสเห็นทองคำ "ขึ้นไปแตะ 1,889 เหรียญ" ที่เป็นระดับสำคัญของเส้น Fibonacci 38.2% ของภาพรายเดือน ซึ่งหากผ่านไปได้ก็มีโอกาสเห็นทองคำขึ้นไปได้อีก

· ในทางกลับกันทองคำจะมีแนวรับที่แข็งแกร่งแนว 1,856 เหรียญ ที่เป็นระดับสำคัญของเส้น Fibonacci 38.2% ของภาพราย 1 สัปดาห์และเส้น SMA ราย 10 วันของกราฟ 4 ชั่วโมง หากหลุดลงมาและต่ำกว่า 1,853 เหรียญ ก็มีโอกาสค่อยๆปรับตัวลดลงต่อและอาจกลับมาแถว 1,845 เหรียญได้

FXEmpire กล่าวว่า ราคาทองคำตอบรับกับข้อมูลเฟดยังผ่อนคลายทางการเงิน และความหวังเห็นคืบหน้ากระต้นเศรษฐกิจจากสภาคองเกรสที่ช่วยหนุนให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ 1,879.8 เหรียญ แต่หากผ่านไปได้ก็มีโอกาสไปแตะ 1,894.6 เหรียญ และจะยิ่งบ่งชี้ถึงภาวะขาขึ้นอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็คิดว่า การขึ้นของทองคำอาจเป็นไปอย่างจำกัด "รอคอยข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ" ที่อาจเพียงพอให้ราคาขึ้นไปต่อได้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะดันทองให้ไปสูงกว่า 1,973.3 เหรียญที่เป็นสูงสุดของเดือนพ.ย. ได้ในเวลานี้

นอกจากนี้ ตลาดอาจรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ของนายไบเดนหลังรับตำแหน่ง 20 ม.ค.นี้

ผู้เจรจาต่อรองของรัฐสภาสหรัฐฯหารือกันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเกี่ยวกับรายละเอียดของการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัสโคโรนามูลค่า 900 พันล้านเหรียญ ซึ่งคาดว่าอาจรวมถึงวงเงิน 600 – 700 เหรียญในการจ่ายเช็คและเป็นสวัสดิการสำหรับคนว่างงานทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเกือบสองปี

นักวิเคราะห์คาดว่า ตลาดตอบรับกับก่อนหน้าแถลงการณ์ของเฟดที่ระบุถึงการที่เฟดจะมีการผ่อนคลายมาตรการ QE เพิ่มเติม แต่ถึงแม้เฟดจะยังคงมีสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินอยู่แต่ก็ยังเลือกที่จะ "คงการเข้าซื้อพันธบัตร" และอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ ด้วยคำมั่นที่ว่าจะซื้อ QE ต่อไป จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวและมีการจ้างงานอย่างเต็มที่ พร้อมด้วยเงินเฟ้อที่กลับขึ้นแตะเป้าหมาย 2%

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะอยู่ใกล้ระดับ 0% ในอีกหลายปีข้างหน้า โดยเฟดให้คำมั่นอย่างชัดเจนมากขึ้นว่าจะดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรต่อไปจนกว่าจะมี“ ความคืบหน้าอย่างมาก” ในการฟื้นฟูการจ้างงานอย่างเต็มที่และบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%

ประเด็น Brexit มีแนวโน้มที่จะหนุนราคาทองคำ โดยจะเห็นได้ว่ามีเงินทุนไหลเข้ากองทุน ETF โดยนักลงทุนมองความเป็นไปได้ที่บีโอบีอาจหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากโอกาสความเป็นไปได้ที่การเจรจาจะจบแบบ No-Deal


· JP Morgan คาดสินค้าโลหะมีค่าอาจอ่อนตัวจากแนวโน้มขาขึ้น จากวัฎจักรสินเชื่อของจีนที่ชะลอตัว

โดยคาดว่าจะกลับสู่ระดับปกติ (Neutral) ในกลุ่มสินค้าทองแดง, อะลูมิเนียม, นิกเกิล และซิงค์ โดยคาดว่าราคาทองแดงจะมีราคาเฉลี่ยลดลงจาก 7,700 เหรียญในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 ที่ลดลงสู่ 6,500 เหรียญในช่วงไตรมาสที่ 4/2021 อันเป็นผลจากสินเชื่อในจีนปีหน้าที่จะกลายเป็นผลลบต่อราคาโลหะมีค่า รวมทั้งจะเป็นปัจจัยกดดันราคาในตลาดดังกล่าว


· ญี่ปุ่น "ขายทอง" กว่า 80 ตัน เพื่อกลบช่องโหว่ด้านงบประมาณ

โดยญี่ปุ่นขายทองเพื่อใช้ในการผลิตเหรียญกษาปณ์ให้กับรัฐบาลอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อต่อสู้กับวิกฤตไวรัสโคโรนา

ขณะที่ระดับหนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งภาษีรายได้ที่ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจก้าวสู่ภาวะถดถอย โดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันในการหารายได้จากสินค้าที่ไม่ถูกเก็บภาษีเพื่อมาเพิ่มค่าใช้จ่ายในช่วงวิกฤตทางสุขภาพ

ในช่วงแรกบีโอเจมีการลดการสำรองดอลลาร์เพื่อมาถือทอง ในการนำมาจัดการกับระดับหนี้สินของประเทศ ขณะที่ล่าสุดมีการขายทองออกเพื่อจัดการกับระดับหนี้ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากกว่า 5 แสนล้านเหรียญ (4.84 พันล้านเหรียญ) ที่อาจใช้เป็นเม็ดเงินก้อนใหม่ในการสนับสนุนการวิจัยและความก้าวหน้าของทางมหาวิทยาลัย

อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้บีโอเจ ประกาศจะทำการเข้าซื้อดอลลาร์เพิ่มมากขึ้น แต่นักวิเคราะห์บางรายก็ยังมองว่าการจัดการทั้งหมดก็จำเป็นต้องได้รับการร่วมมือจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลังฯ เพื่อหลีกเลี่ยงระดับหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้นเกินไป หรือการใช้เงินเพื่อจ่ายภาษีสำหรับกองทุน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com