MTS Help Center

S&P 500 ปิดปรับตัวลงจากความผันผวนของตลาด หลัง Covid-19 สายพันธุ์ใหม่กดดันอังกฤษ Lockdown 

ดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยแม้ตลาดจะมีความผันผวนเมื่อวานนี้ก่อนเข้าสู่เทศกาลวันหยุดยาว ประกอบกับข่าวไวรัสโคโรนาบดบังข่าวคืบหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดวิตกกังวลต่อสายพันธุ์ใหม่ของ Covid-19 ที่กำลังระบาดในอังกฤษ

ดัชนี S&P500 ปิด -0.4% ที่ 3,694.92 จุด

ดัชนี Nasdaq ปิด -0.1% ที่ 12,742.52 จุด

ดัชนีดาวโจนส์หลังจากที่อ่อนตัวลงไปกว่า 400 จุด ก็กลับมาปิดบวกได้ 0.1% ที่ 30,216.45 จุด โดยได้รับอานิสงส์จากหุ้น Nike ที่ปิดปรับขึ้นกว่า 5% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารก็ปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า
JPMorgan ปิด +3.8%
Goldman Sachs ปิด +6.1%

หลังจากที่ เฟดประกาศจะให้การอนุญาตภาคธุรกิจในการซื้อคืนหุ้นกู้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021

 

หุ้นกลุ่มเกี่ยวกับการท่องเที่ยวร่วงลงต่อจากข่าว “เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” ที่กำลังระบาดหนักในอังกฤษ กระตุ้นให้เกิดการ Lockdown เพิ่มมากขึ้น และมีการจำกัดการเดินทางทั่วยุโรป

อย่างไรก็ดี บางส่วนเชื่อว่า ความกังวลเรื่องไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้อีกไม่นานก็น่าจะค่อยๆบรรเทาลงไป

 

นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งต่อได้ทั่วกันเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางสมาชิกสภาคองเกรสจะลงนามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและงบประมาณรัฐบาลในวันนี้

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกจะทำการ Lock Profits หรือปิดสถานะทำกำไรส่งท้ายปี

แต่ภาพรวมดัชนี S&P 500 ปีนี้ ปรับขึ้นแล้ว 14.4%
ดัชนีดาวโจนส์ปีนี้ ปรับขึ้นกว่า 5.9%
ด้าน Nasdaq ปรับขึ้นปีนี้มากถึง 42% ท่ามกลางนักลงทุนที่พึงพอใจต่อการเติบโตของบริษัทเทคโนโลยีในระดับสูง

 

ภาพรวมปีนี้ 3 ดัชนีหลักในตลาดสหรัฐฯต่างทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์อันเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่จะเกิดขึ้น

บริษัท Moderna เริ่มต้นส่งวัคซีนโดสแรกหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ขณะดียวกันบริษัท Pifzer ก็ดูจะสามารถกระจายวัคซีนได้ทั่วถึงกลุ่มพนักงานด้านสุขภาพทั่วประเทศสหรัฐฯแล้ว

เมื่อวานนี้เป็นวันทำการแรกของ Tesla ที่เข้าสู่กระดานซื้อขายของ S&P500 ที่เปิดให้ทำการซื้อขาย และในช่วงท้ายตลาดปิด -6.5% หลังจากที่ Reuters รายงานว่า บริษัท Apple ตั้งเป้าปี 2024 ว่าจะมีการผลิตรถยนต์ขนส่งของตัวเอง

ที่มา: CNBC