MTS Help Center

·         ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายปี ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษที่กดดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

โดยหุ้นร่วงจากความเชื่อมั่นนักลงทุนที่ไม่ค่อยสดใสแม้สภาคองเกรสจะมีการอนุมัติแพ็คเกจ Covid-19 ที่รอคอยมาอย่างยาวนาน 8.92 แสนล้านเหรียญ โดยดัชนี FTSE futures-0.14% และ S&P 500  E-mini futures ลดลง 0.29%

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 0.75%

·         ตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากเหล่านักลงทุนเทขายทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษที่อาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก

โดยดัชนี Nikkei ปิด -1.04% ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบเดือน ที่บริเวณ 26,436.39 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งดัชนีเคลื่อนไหวต่ำดว่าเส้นค่าเฉลี่ยราย 25 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯเมื่อต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

ด้านดัชนี Topix -1.56% ที่ระดับ 1,761.12 จุด

 

ทั้งนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสในประเทศเนื่องจาก นายยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวเรียกร้องให้ประชาชน 14 ล้านรายอยู่ที่บ้านในช่วงเทศกาลวันหยุดที่กำลังจะมาถึง

·         ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง โดยร่วงลงมากที่สุดในรอบเกือบ 4 เดือน จากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีน - สหรัฐฯที่ยังคงมีอยู่และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด -1.86% ที่ระดับ 3,356.78 จุด ซึ่งเป็นระดับรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. ด้านดัชนี  blue-chip CSI300 ปิด -1.63% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา

·         ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น โดยพยายามฟื้นตัวจากการเทขายที่รุนแรงในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนถูกกดดันจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษ

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.8% ดัชนี DAX ของเยอรมนีเพิ่มขึ้นเกือบ 0.9% FTSE 100 ของอังกฤษมีแนวโน้มลดลงประมาณ 0.2% ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 1.2%

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ปิดเช้าพุ่ง 16.97 จุด รีบาวด์หลังร่วงแรงท่ามกลางโควิดระบาดหนักใน-นอกปท.

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,418.75 จุด เพิ่มขึ้น 16.97 จุด (+1.21%) มูลค่าการซื้อขายราว 50,663.72 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,423.14 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,388.23 จุด

- นักลงทุนตื่นตระหนกโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ แห่เทขายหุ้นใหญ่ทำกำไร ถือเงินสด ฉุดดัชนีทรุดฮวบกว่า 80 จุด หรือลดลงกว่า 5.44% ปิดที่ 1,401.78 จุด มูลค่าซื้อขายรวมเฉียด 1.3 แสนล้านบาท "ภากร" เอ็มดีตลาดหุ้นไทย เตือนนักลงทุนอย่าตื่นตระหนก โควิด-19 ไม่ได้กระทบตลาดหุ้นไทยแห่งเดียว ยันต่างชาติรายย่อยยังซื้อ และไม่พบธุรกรรมซื้อขายผิดปกติ ด้านบาทอ่อนค่ากลับมายืนเหนือระดับ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง

- ภาคธุรกิจรับมือโควิดรอบใหม่รื้อแผน "บิ๊กอีเวนท์-งานเคาท์ดาวน์" ยึดมาตรการปลอดภัยเคร่งครัดดึงความเชื่อมั่น สกัดความเสี่ยงลามกรุงเทพฯ ด้านอสังหาฯ จี้ผู้รับเหมาคุมเข้มแคมป์คนงานปิดพื้นที่ส่วนกลาง

- ส.อ.ท.ประเมินล็อกดาวน์สมุทรสาคร เสียหายวันละ 1,000 ล้านบาท ไม่เห็นด้วยล็อกทั้งประเทศอีก เหตุจะเสียหายรุนแรง แต่ควรคุมเป็นพื้นที่ แนะจัดระบบแรงงานต่างด้าวใหม่ ทำ MOU กับเพื่อนบ้าน นำเข้าให้ตรงที่เอกชนต้องการ เชื่อลดจ่ายใต้โต๊ะตรวจสอบติดตามได้ พร้อมขอรัฐเข้าตรวจแรงงานในโรงงาน