· · ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตัวใหม่ขาดเสถียรภาพ และเรียกร้องคองเกรสเพิ่มการจ่ายเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ด้านดัชนี Kospi เกาหลีใต้ พุ่งขึ้น 1% และดัชนี S&P/ASX 200 +0.59%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 0.59%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนคาดว่าภาคการดูแลสุขภาพจะยังคง ได้รับประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ยืดเยื้อ ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นจากสัญญาณที่ว่าบริษัท Apple กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า
โดยหุ้น Pharmaceuticals เพิ่มขึ้น 0.9% จากความหวังของผลประกอบการที่ดีขึ้นหลังจากที่ Mizuho Securities ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสำหรับ Daiichi Sankyo Co Ltd และเนื่องจากการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่แพร่ระบาดมากขึ้นในอังกฤษทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าไวรัสโคโรนาจะอยู่ยาวนานขึ้น
ซึ่งหุ้นภาคการดูแลสุขภาพได้รับแรงหนุนจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวเนื่องจากความต้องการการรักษาที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด +0.33% ที่ระดับ 26,524.79 จุด ด้านดัชนี Topix +0.23% ที่ระดับ 1,765.21 จุด
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกที่ว่าผู้กำหนดนโยบายมีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงการเข้มงวดนโยบายสินเชื่ออย่างกะทันหันในปี 2021 เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
โดยดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.76% ที่ระดับ 3,382.32 จุด ด้านดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.85%
· · ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า Brexit ได้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโคโรนาของสหรัฐที่ล่าช้ามานาน
โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.5% ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์พุ่งขึ้น 1.6% ขณะที่หุ้นด้านสุขภาพลดลงประมาณ 0.3%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- บอร์ด กนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ตามตลาดคาด
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้ที่ 8/2563 ในวันที่ 23 ธ.ค. 2563 มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยในการประชุมครั้งนี้ กรรมการ 1 ท่านลาประชุม
คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ยังมีความเสี่ยงด้านต่ำและความไม่แน่นอนสูงในระยะข้างหน้า จึงยังต้องการแรงสนับสนุนจากดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง
- นายกฯ แถลงสถานการณ์ "โควิด" รอบใหม่ ส่งผลกระทบเศรษฐกิจต้องชะลอผ่อนปรนต่างชาติเข้าไทย เผยสัปดาห์นี้ ศบค.เตรียมเคาะมาตรการเพิ่มเติมช่วงปีใหม่ ย้ำต้องทลายขบวนการแรงงานเถื่อนต้นเหตุระบาด ด้าน สธ.ยกระดับระบบป้องกันควบคุมโรคใน 23 จังหวัด เฝ้าระวังกลุ่มคนเชื่อมโยงตลาดกลางกุ้ง ขณะที่ 8 จังหวัดพบผู้ติดเชื้อแล้วรวม 30 ราย ตีวงตรวจ 4 ชั้น จ.สมุทรสาคร
- หัวเมืองใหญ่ทยอยยกเลิกจัดงานเคาท์ดาวน์เวทีใหญ่ "เซ็นทรัลเวิลด์-ไอคอนสยาม" พลิกรูปแบบจัดงาน "ส่งความสุข" นิวนอร์มอล "ไร้คน-ไร้สัมผัส" ต่างจังหวัดเลิกคอนเสิร์ต-งดอีเวนท์ดึงคน ศูนย์วิจัยกสิกร คาดล็อกดาวน์กระทบเศรษฐกิจ 4.5 หมื่นล้าน ม.หอการค้า ชี้ฉุดจีดีพี 0.2-0.3%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
- ศบค. แถลง "ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้" ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 46 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 5,762 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 60 ราย
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 63 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวน ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 46 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 5,762 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 60 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 4,095 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,607 ราย
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 46 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 39 คน และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 7 คน อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ
- ส่งออกไทย พ.ย. 2563 หดตัวลดลง 3.65% ปีหน้าไม่สดใส
สนค.เผยการส่งออกไทยเดือน พ.ย 2563 หดตัว 3.65% ดีขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา จากสัญญาณเศรษฐกิจทั่วโลกดีขึ้น มั่นใจส่งออกทั้งปี ต่ำกว่า ติดลบ 7%
วันที่ 23 ธันวาคม 2563 นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยเดือนพฤศจิกายน 2563 มีมูลค่า 18,932.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 3.65% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นการหดตัวที่ลดลงเมื่อเทียบจากเดือนที่ผ่านมา