MTS Help Center

ราคาทองคำปรับขึ้น - ดอลลาร์อ่อนค่า

· ทองคำปรับขึ้นมากกว่า 1% โดยได้รับแรงกดดันจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นสำคัญ และนักลงทุนจับตาเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังทรัมป์ขู่จะไม่ลงนามหากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง

· ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.7% ที่ 1,872.03 เหรียญ และระหว่างวันปรับขึ้นได้มากถึง 1% ในช่วงต้นตาด

· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิด +0.42% หรือ 7.8 เหรียญ ที่ 1,878.1 เหรียญ

· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,167.53 ตัน

· นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ เนื่องด้วยภาพรวมเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มชะลอตัว จึงอาจหนุนให้เกิดการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ และแนวโน้มการเกิดข้อตกลงก็ถือเป็นผลบวก ขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์ก็เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำเช่นกัน และยิ่งหากเกิดข้อตกลง Brexit หรือความคืบหน้าเชิงบวกที่มากขึ้น ก็อาจช่วยหนุนทองคำให้กลับสู่ขาขึ้นต่อไป

· นักวิเคราะห์จาก Natixis กล่าวว่า หากนายทรัมป์ “ปฏิเสธ” ที่จะลงนามร่างกฎหมาย ก็คาดว่า “ไบเดนจะทำให้ร่างกฎหมายนั้นผ่านได้ง่ายมากขึ้น” ดังนั้น จึงไม่เห็นปัจจัยเสี่ยงขาลงใดๆต่อราคาทองคำในเวลานี้

· สัญญาณเตือนเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ดูจะกระทบต่อการแบนการท่องเที่ยว และยิ่งเป็นตัวตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากที่เกดการระบาด

· ราคาซิลเวอร์ปิดแถว 25.56 เหรียญ หรือราว 1.7%

· ราคาแพลทินัมปิดปรับขึ้น 0.8% บริเวณ 1009.69 เหรียญ และพลาเดียมปรับขึ้นประมาณ 0.6% ที่ 2,327.61 เหรียญ

· ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯรายสัปดาห์ ออกมาดีขึ้นกว่าคาดการณ์โดยออกมาที่ 803,000 ราย

ด้านยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่รวมภาคขนส่งและรายได้ส่วนบุคคลออกมาแย่ลงกว่าที่คาดในเดือนพ.ย.

· ทรัมป์ ค้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19 อาจนำไปสู่ “การ Shutdown” รัฐบาล และการให้ความช่วยเหลือคนตกงานล่าช้าออกไป

· ทรัมป์ใช้สิทธิ์ “วีโต้” ร่างกฎหมายค่าใช้จ่ายด้านงบประมาณวงเงินกว่า 7.4 แสนล้านเหรียญ ควบคู่กับนโยบายของกระทรวงมหาดไทย

· เดโมแครตเห็นด้วยกับทรัมป์ ขยายเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจ 2,000 เหรียญ ที่จะช่วยหนุนการแข่งขันเลือกส.ว. ในรัฐจอร์เจียด้วย

ท่ามกลางการแข่งขันครั้งสำคัญในรัฐจอร์เจียระหว่างผู้แทนสมาชิกจากพรรคเดโมแครต “นายจอน ออสซอฟ” และ “นายราฟาเอล วอนอร์ค” ขณะที่นายทรัมป์ผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มท่ามกลางการตำหนิจากสมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันที่ลงชิงตำแหน่ง ได้แก่ “นายเดวิด เพอร์ดิว” และ “นายเคลลี ลอฟเฟลอร์”

เมื่อวานนี้นายทรัมป์เรียกร้องให้สภาคองเกรสเปลี่ยนแปลงร่างงบประมาณเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มมาเป็น 2,000 เหรียญ (จากที่ให้สองรอบรอบละ 600 เหรียญ)

สองผู้สมัครเลือกตั้งส.ว.ของรีพับลิกัน หนุนให้มีการจ่ายเงินโดยตรงมากขึ้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาต่อข้อเรียกร้องของนายทรัมป์และการวิพากษ์วิจารณ์ของพรรคคู่แข่งที่นานเกินไป

อย่างไรก็ดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19 ในช่วงการแข่งเลือกตั้งที่เข้มข้นจะเป็นตัวตัดสินว่าใครจะได้ครองเก้าอี้เพิ่มในวุฒิสภา และหากรีพับลิกันได้ชัยชนะไปอย่างน้อย 1 เสียงในวันที่ 5 ม.ค. จะสะท้อนว่าพรรครีพับลิกันจะยังครองเสียงข้างมากได้อย่างเหนียวแน่น แต่หากคู่แข่ง 2 คนจากพรรคเดโมแครตได้เข้าไปนั่งในวุฒิสภาก็จะทำให้ภาพรวมเดโมแครตครองได้ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

· สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด

ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกทะลุแตะ 79.03 ล้านราย โดยเมื่อวานนี้มียอดติดเชื้อใหม่สูงกว่า 678,000 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมทั่วโลกขึ้นมาที่ 1.73 ล้านราย

ยอดติดเชื้อสหรัฐฯสะสมใกล้ 19 ล้านราย ล่าสุดแตะ 18.91 ล้านราย โดยข้อมูลวานนี้พบติดเชื้อใหม่เพิ่ม 230,562 ราย และยอดเสียชีวิตสะสมที่ 334,169 ราย

ยอดติดเชื้อในไทยพบเพิ่ม 46 ราย สะสมที่ 5,762 ราย โดยพบเป็นผู้ป่วยในประเทศจำนวน 39 ราย

· รัฐบาลอังกฤษยันสายพันธ์ใหม่ระบาดรอบสองได้ พร้อมระบุว่าสายพันธุ์ใหม่ที่พบในอังกฤษเป็นการกลายพันธุ์รูปแบบเดียวกับแอฟริกาใต้

· การกระจายวัคซีน Covid-19 ในสหรัฐฯเป็นไปได้ช้ากว่าที่รัฐบาลคาดหวังไว้

· สหรัฐฯฉีดวัคซีนให้ประชาชนชาวสหรัฐฯได้เพียง 1 ล้านคน จากเป้าหมาย 20 ล้านคนสำหรับเดือนธ.ค. นี้

· สหรัฐฯไปไม่ถึงเป้า 100 ล้าน คาดวัคซีนของบริษัท Pfizer จะสามารถฉีดให้ประชาชนได้ราว 70 ล้านคนในช่วงมิ.ย.

ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯมีการจ่ายเงินค่าวัคซีนให้บริษัท Pfizer ไปเกือบ 2 พันล้านเหรียญสำหรับการเพิ่ม 100 ล้านโดสแรก แต่ภายใต้ข้อตกลงใหม่ Pfizer จะต้องส่งมอบวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 70 ล้านโดส ภายใน 30 มิ.ย. และไม่ช้าไปกว่า 31 ก.ค. ภาพรวมมองว่าการเข้าซื้อวัคซีน 200 ล้านโดสจะมีมูลค่าประมาณ 4 พันล้านล้านเหรียญ หรือตก 19.50 เหรียญ/โดส

· WHO เตือนไม่ให้ย่ามใจถึงการมีวัคซีน Covid-19 เพราะไม่อาจทำให้เกิดภูมิคุ้มกันในกลุ่มฝูงชนได้จนกว่าจะถึงช่วงสิ้นปี 2021

โดยทั่วโลกต้องเฝ้าระวังออกไปอีกในช่วง 6 เดือนข้างหน้าและภาพรวมการได้รับวัคซีนจะต้องใช้เวลาก่อนที่ประชาชนโดยส่วนใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีน

· Brexit เจรจามาราทอน มุ่งหาแนวทางสู่เส้นชัย โดยทั้งสองฝ่ายมีสัญญาณถึงการเข้าใกล้ข้อตกลงที่ส่งผลสำหรับแนวโน้มระยะยาวได้ จึงทำให้เกิดความคาดหวังว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงรอยร้าวทางเศรษฐกิจได้ในช่วงปีใหม่นี้

· นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15 - 30.30 บาท/ดอลลาร์ โดยบาทแข็งค่าขึ้นมาบ้าง ช่วงรู้ผลประชุมกนง.ที่มีการปรับจีดีพีปีนี้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่มองว่าแม้เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ยังมีความเสี่ยง ซึ่งทำให้ในช่วงท้ายตลาดเงินบาทก็กลับไปอยู่ในระดับเดิม

นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในอังกฤษจากกรณีไวรัสกลายพันธุ์ จึงทำให้นักลงทุนเข้าไปถือครองดอลลาร์ที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย จึงทำให้ช่วงนี้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง พร้อมมองว่าเศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีความเสี่ยงด้านต่ำและความไม่แน่นอนสูงในระยะข้างหน้า จึงยังต้องการแรงสนับสนุนจากดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง

พร้อมทั้งปรับคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 63 ดีขึ้นเป็นหดตัว -6.6% จากก่อนหน้านี้ที่เคยประเมินไว้ว่าจะหดตัว -7.8% แต่ปรับประมาณการของปี 64 ลดลงมาอยู่ที่ 3.2% จากเดิม 3.6% เนื่องจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติล่าช้าออกไปเป็นราวกลางปีหน้า และคาดว่า GDP ในปี 65 จะขยายตัวได้ถึง 4.8% ตามภาคการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

- กระทรวงพาณิชย์ไทย แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน พ.ย.63 โดยการส่งออกไทยมีมูลค่า 18,932.66 ล้านเหรียญ หดตัว -3.65% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 18,880.07 ล้านเหรียญ หดตัว -0.99% ส่งผลให้ดุลการค้า เกินดุล 52.59 ล้านเหรียญ โดยทั้งปีนี้ มีโอกาสที่การส่งออกไทยจะหดตัวน้อยกว่า -7% ได้ ขณะที่ในปี 64 คาดว่าการส่งออกจะพลิกกลับมาขยายตัวได้ 4%

· อ้างอิงจากสำนักข่าว ข่าวสดออนไลน์

- ลาวแบน! สั่งห้ามนำเข้า อาหารทะเล-แช่แข็ง จากประเทศไทย

สื่อท้องถิ่นประจำประเทศลาว รายงานว่า กระทรวงอุตสาหกรรม และการค้า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดย นายสมจิด อินทะมิด รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า

ได้ลงนามในหนังสือด่วน ถึงกรมภาษี กระทรวงการเงิน กรมอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงด่านชายแดน ระหว่างลาว-ไทย เรื่อง ห้ามนำเข้าชั่วคราว อาหารทะเลสดและแช่แข็งทุกประเภท จากไทย

· อ้างอิงจากสำนักข่าว ไทยรัฐออนไลน์

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยอาจได้รับความสูญเสียจากการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 คิดเป็นมูลค่าราวๆ 45,000 ล้านบาทในกรอบเวลา 1 เดือน โดยจำแนกผลกระทบได้