ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
- กังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19
- การกลายพันธุ์ของไวรัส Covid-19
- No-Deal Brexit
ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดปี 2021 ที่อาจแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ แต่ค่าเงินบาท, สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ แต่ตลาดอาจผันผวนและเป็นอุปสรรคในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ปัจจัยเสี่ยงในเอเชียใต้และโซนอาเซียน
- ธปท. ที่คงดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 23 ธ.ค. และมีการแทรกแซงเพื่อไม่ให้เงินบาทปรับแข็งค่าลงไปอย่างรวดเร็ว กดดันเศรษฐกิจ
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสิงคโปร์ ออกมาดีขึ้น
- ดัชนี PMI ของจีน ออกมาดีขึ้น
ซึ่งการที่ข้อมูลของสิงคโปร์กับจีนล่าสุดออกมาดีขึ้นช่วยหนุนแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
ASEAN-BASED USD INDEX VERSUS MSCI EMERGING MARKETS INDEX – DAILY CHART
เป้าหมายค่าเงินที่ 1.25 ดอลลาร์/ยูโร
นักวิเคราะห์จาก DailyFX ยังมองว่าค่อนข้างชัดเจนว่าค่าเงินยูโรเมื่อเทียบดอลลาร์เป็นทิศทางขาขึ้น นับตั้งแต่ที่ขึ้นเหนือ 1.25 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ก.พ. ปี 2018 โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานใดๆ และไม่มีความท้าทายใดๆ เว้นแต่อีซีบีจะพยายามระงับการแข็งค่ามากเกินไปที่เป็นตัวกดดันอัตราเงินเฟ้อ แต่ภาพรวมก็มีแนวโน้มสูงที่จะเข้าแทรกแซงตลาดค่าเงิน
อีซีบีอาจมีการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของยูโรโซนในช่วง 2-3 เดือนแรกของปี 2021 เพื่อจำกัดผลกระทบทางเศรษฐกิจและการระบาดของไวรัสโคโรนา รวมทั้งการอ่อนค่าของยูโร ขณะที่โอกาสการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตอาจกดดันให้ยูโรอ่อนค่า
ยูโรอาจได้รับอานิสงส์จากภาวะ Risk-On
สำหรับไตรมาสที่ 1/2021 ค่าเงินยูโรจะได้รับอานิสงส์จากเม็ดเงินที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยจากความเสี่ยงที่มากขึ้น และน่าจะถือยูโรมากกว่าดอลลาร์ และการระบาดของไวรัสโคโรนาในเวลานี้ก็ดูจะไม่สามารถควบคุมได้ และทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อค่างินยูโรและกดดันดอลลาร์อ่อนค่า
· สหรัฐฯสั่งตรวจโควิดผู้โดยสารเที่ยวบินจากอังกฤษก่อนเข้าประเทศ
รัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการกำหนดให้ผู้โดยสารทั้งหมดที่เดินทางมากับเที่ยวบินจากอังกฤษจะต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงนับจากเดินทางออกจากอังกฤษ โดยจะเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้เป็นต้นไปท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการที่อังกฤษตรวจพบไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ซึ่งแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐว่า ผู้โดยสารในเที่ยวบินทั้งหมดที่เดินทางจากอังกฤษจะต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ จึงจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสหรัฐได้
ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวของ CDC นั้นสวนทางกับที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าวไว้กับบรรดาสายการบินของสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า สหรัฐไม่มีแผนการที่จะออกข้อกำหนดให้ผู้โดยสารจากอังกฤษต้องตรวจโควิด-19 ก่อนเข้าสหรัฐ
· เจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุข เผย วัคซีน CoronaVac ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Sinovac Biotech ของจีน มีประสิทธิภาพป้องกันโควิดถึง 91.25%
ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ ยังระบุว่า ผลวิจัยนี้มาจากผลการทดลองระยะสุดท้าย ในตุรกี ซึ่งเสริมด้วยว่าวัคซีนมีความปลอดภัย
ทั้งนี้การขนส่ง CoronaVac ครั้งแรก จำนวน 3 ล้านโดส จะถูกจัดส่งไปยังตุรกีในคืนวันอาทิตย์และถึงวันจันทร์ ในตอนแรกคาดว่าวัคซีนจะมาถึงหลังวันที่ 11 ธ.ค. แต่ปัญหาเกี่ยวกับใบอนุญาตทำให้เกิดความล่าช้า โดยตุรกีได้ลงนามในข้อตกลงสำหรับวัคซีน 50 ล้านโดสแล้ว
· กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปควรได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวีรัสโคโรนาก่อน
นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจเรื้อรัง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคไตเรื้อรัง ควรให้ความสำคัญกับการได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสดังกล่าวด้วย
· เกาหลีใต้วางแผนที่จะหารือกันว่าจำเป็นต้องใช้มตรการเข้มงวดทางระยะห่างในสุดสัปดาห์นี้หรือไม่ เนื่องจากการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาปัจจุบันประสบความ โดยจำนวนยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนารายวันพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลี (KDCA) รายงานผู้ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 1,241 รายซึ่งนับเป็นระดับรายวันสูงที่สุด
· ฮ่องกงใช้มาตรการควบคุมไวรัสโคโรนาที่เข้มงวดที่สุดสำหรับนักเดินทางขาเข้า
เนื่องจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ขยายระยะเวลากักตัวของผู้ที่เดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ นอกจีนในช่วง 21 วันที่ผ่านมา จะต้องเข้ารับการกักตัวในโรงแรมที่กำหนดเป็นเวลา 21 วัน จากเดิมที่กำหนดไว้ 14 วัน
· กระทรวงคมนาคมของไต้หวันได้สั่งปรับเงินสายการบิน EVA Airways จำนวน 35,000 เหรียญ หลังรัฐบาลกล่าวว่านักบินรายหนึ่งของสายการบินดังกล่าวว่าเป็นผู้แพร่เชื้อไวรัสโคโรนาในไต้หวัน เนื่องจากไม่ยอมปฎิบัติตามกฎเกณฑ์การป้องกันโรค
จนถึงสัปดาห์นี้ไต้หวันยังไม่มีรายงานการแพร่เชื้อภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. เนื่องจากรัฐบาลดำเนินมาตรการรับมือที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากากอนามัย และการกักตัวผู้เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนอย่างเข้มงวด
· DailyFX คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI โดยคาดว่าจากที่เห็นราคาอ่อนตัวในวันพุธ ก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะเห็นราคารีบาวน์ และอาจทำให้ราคาไปได้ถึง 50 เหรียญ/บาร์เรล ที่เป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยา และเป็นแนวต้านใหม่เมื่อไม่นานมานี้
เนื่องจากการอ่อนตัวของราคาจะช่วยหนุนโอกาสการเข้าซื้อ และเป็นตัวชี้ราคา Price Action ที่อาจช่วยหนุนตลาดตอนนี้ ซึ่งคาดราคาน้ำมันอาจมีโอกาสแตะ 50 เหรียญได้ ในอีกไม่นาน