• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 25 ธันวาคม 2563

    25 ธันวาคม 2563 | Economic News
  
 

·         สรุปค่าเงินดอลลาร์ในเอเชียรายสัปดาห์

 

ค่าเงินส่วนใหญ่แข็งค่าลงในภูมิภาคเอเชีย อาทิ สิงคโปร์ดอลลาร์มาเลเซีย ริงกิตต์ และเงินบาท เมื่อเทียบดอลลาร์ ขณะที่เปโซของฟิลลิปปินส์ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย และรูเปียอินโดนีเซีย อันเนื่องจากความระมัดระวังในสัปดาห์นี้

 

US DOLLAR PERFORMANCE


ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

กังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19

การกลายพันธุ์ของไวรัส Covid-19

- No-Deal Brexit

 

ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดปี 2021 ที่อาจแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ แต่ค่าเงินบาทสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ แต่ตลาดอาจผันผวนและเป็นอุปสรรคในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

 

ปัจจัยเสี่ยงในเอเชียใต้และโซนอาเซียน

ธปท. ที่คงดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 23 ธ.ค. และมีการแทรกแซงเพื่อไม่ให้เงินบาทปรับแข็งค่าลงไปอย่างรวดเร็ว กดดันเศรษฐกิจ

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสิงคโปร์ ออกมาดีขึ้น

ดัชนี PMI ของจีน ออกมาดีขึ้น

 

ซึ่งการที่ข้อมูลของสิงคโปร์กับจีนล่าสุดออกมาดีขึ้นช่วยหนุนแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

 

ASEAN-BASED USD INDEX VERSUS MSCI EMERGING MARKETS INDEX – DAILY CHART



คาดยูโรแข็งค่าต่อในช่วงไตรมาสที่ 1/2020

 

อีซีบีค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ค่าเงินยูโรยืนเหนือ 1.20 ดอลลาร์/ยูโร เนื่องจากอาจกระทบทางด้านการแข่งขันทางการค้าและเงินเฟ้อ

 

กราฟค่าเงินยูโรรายวัน ระหว่าง 1 ม.ค. - 17 ธ.ค. ปีนี้




เป้าหมายค่าเงินที่ 1.25 ดอลลาร์/ยูโร

นักวิเคราะห์จาก DailyFX ยังมองว่าค่อนข้างชัดเจนว่าค่าเงินยูโรเมื่อเทียบดอลลาร์เป็นทิศทางขาขึ้น นับตั้งแต่ที่ขึ้นเหนือ 1.25 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ก.พ. ปี 2018 โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานใดๆ และไม่มีความท้าทายใดๆ เว้นแต่อีซีบีจะพยายามระงับการแข็งค่ามากเกินไปที่เป็นตัวกดดันอัตราเงินเฟ้อ แต่ภาพรวมก็มีแนวโน้มสูงที่จะเข้าแทรกแซงตลาดค่าเงิน

 

อีซีบีอาจมีการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของยูโรโซนในช่วง 2-3 เดือนแรกของปี 2021 เพื่อจำกัดผลกระทบทางเศรษฐกิจและการระบาดของไวรัสโคโรนา รวมทั้งการอ่อนค่าของยูโร ขณะที่โอกาสการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตอาจกดดันให้ยูโรอ่อนค่า

 

ยูโรอาจได้รับอานิสงส์จากภาวะ Risk-On

สำหรับไตรมาสที่ 1/2021 ค่าเงินยูโรจะได้รับอานิสงส์จากเม็ดเงินที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยจากความเสี่ยงที่มากขึ้น และน่าจะถือยูโรมากกว่าดอลลาร์ และการระบาดของไวรัสโคโรนาในเวลานี้ก็ดูจะไม่สามารถควบคุมได้ และทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อค่างินยูโรและกดดันดอลลาร์อ่อนค่า

 

·         สหรัฐฯสั่งตรวจโควิดผู้โดยสารเที่ยวบินจากอังกฤษก่อนเข้าประเทศ

รัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการกำหนดให้ผู้โดยสารทั้งหมดที่เดินทางมากับเที่ยวบินจากอังกฤษจะต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงนับจากเดินทางออกจากอังกฤษ โดยจะเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้เป็นต้นไปท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการที่อังกฤษตรวจพบไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ซึ่งแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐว่า ผู้โดยสารในเที่ยวบินทั้งหมดที่เดินทางจากอังกฤษจะต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ จึงจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสหรัฐได้

ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวของ CDC นั้นสวนทางกับที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าวไว้กับบรรดาสายการบินของสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า สหรัฐไม่มีแผนการที่จะออกข้อกำหนดให้ผู้โดยสารจากอังกฤษต้องตรวจโควิด-19 ก่อนเข้าสหรัฐ

 

·         เจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุข เผย วัคซีน CoronaVac ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Sinovac Biotech  ของจีน มีประสิทธิภาพป้องกันโควิดถึง 91.25%

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ ยังระบุว่า ผลวิจัยนี้มาจากผลการทดลองระยะสุดท้าย ในตุรกี ซึ่งเสริมด้วยว่าวัคซีนมีความปลอดภัย

ทั้งนี้การขนส่ง CoronaVac ครั้งแรก จำนวน 3 ล้านโดส จะถูกจัดส่งไปยังตุรกีในคืนวันอาทิตย์และถึงวันจันทร์ ในตอนแรกคาดว่าวัคซีนจะมาถึงหลังวันที่ 11 ธ.ค. แต่ปัญหาเกี่ยวกับใบอนุญาตทำให้เกิดความล่าช้า โดยตุรกีได้ลงนามในข้อตกลงสำหรับวัคซีน 50 ล้านโดสแล้ว

 

·         กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปควรได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวีรัสโคโรนาก่อน

นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจเรื้อรัง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคไตเรื้อรัง ควรให้ความสำคัญกับการได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสดังกล่าวด้วย

 

·         เกาหลีใต้วางแผนที่จะหารือกันว่าจำเป็นต้องใช้มตรการเข้มงวดทางระยะห่างในสุดสัปดาห์นี้หรือไม่ เนื่องจากการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาปัจจุบันประสบความ โดยจำนวนยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนารายวันพุ่งสูงขึ้นอีกครั้

สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลี (KDCA) รายงานผู้ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 1,241 รายซึ่งนับเป็นระดับรายวันสูงที่สุด

 

·         ฮ่องกงใช้มาตรการควบคุมไวรัสโคโรนาที่เข้มงวดที่สุดสำหรับนักเดินทางขาเข้า
เนื่องจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ขยายระยะเวลากักตัวของผู้ที่เดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ นอกจีนในช่วง 21 วันที่ผ่านมา จะต้องเข้ารับการกักตัวในโรงแรมที่กำหนดเป็นเวลา 21 วัน จากเดิมที่กำหนดไว้ 14 วัน

 

·         กระทรวงคมนาคมของไต้หวันได้สั่งปรับเงินสายการบิน EVA Airways จำนวน 35,000 เหรียญ หลังรัฐบาลกล่าวว่านักบินรายหนึ่งของสายการบินดังกล่าวว่าเป็นผู้แพร่เชื้อไวรัสโคโรนาในไต้หวัน เนื่องจากไม่ยอมปฎิบัติตามกฎเกณฑ์การป้องกันโรค

จนถึงสัปดาห์นี้ไต้หวันยังไม่มีรายงานการแพร่เชื้อภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. เนื่องจากรัฐบาลดำเนินมาตรการรับมือที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากากอนามัย และการกักตัวผู้เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนอย่างเข้มงวด

 

·         DailyFX คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI โดยคาดว่าจากที่เห็นราคาอ่อนตัวในวันพุธ ก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะเห็นราคารีบาวน์ และอาจทำให้ราคาไปได้ถึง 50 เหรียญ/บาร์เรล ที่เป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยา และเป็นแนวต้านใหม่เมื่อไม่นานมานี้

 

เนื่องจากการอ่อนตัวของราคาจะช่วยหนุนโอกาสการเข้าซื้อ และเป็นตัวชี้ราคา Price Action ที่อาจช่วยหนุนตลาดตอนนี้ ซึ่งคาดราคาน้ำมันอาจมีโอกาสแตะ 50 เหรียญได้ ในอีกไม่นาน


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com