• 5 ภาพประกอบที่สะท้อน แนวโน้มเศรษฐกิจโลกมุ่งสู่ปี 2021

    28 ธันวาคม 2563 | Economic News
   

การระบาดของไวรัสโคโรนาได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก และเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะการฟื้นตัวได้อย่างเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่?

ความคืบหน้าของวัคซีน Covid-19 ดูจะช่วยจุดประกายความสดใสองแนวโน้มเศรษฐกิจ แต่นักเศรษฐศาสตร์บางราย ก็ระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการใช้วัคซีนได้ทั่วกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาที่อาจเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการกลับมาฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ได้เท่าก่อนช่วงเกิดการระบาดของไวรัส

นอกจากนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ระบุว่า หลายๆประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วก็ดูจะมีการเกิดการกลับมา Lockdown รอบใหม่โดยเฉพาะในแถบยุโรป จากการเพิ่มขึ้นของยอดติดเชื้อระบาดของไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นจึงอาจกดดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้

นักเศรษฐศาสตร์จาก Citi กล่าวว่า การค้นพบวัคซีนก็อาจจะไม่แล้วเสร็จจนถึงปี 2022 ได้ แต่การมีวัคซีนก็อาจช่วยให้เศรษฐกิจโลกปี 2021 สามารถฟื้นตัวได้ชัดเจนมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้ดีกว่าปี 2020

 

การปรับตัวลดลงของกิจกรรมต่างๆ

การระบาดของไวรัสโคโรนาดูที่มีจุดเริ่มต้นจากจีน ดูจะทำให้หลนายๆประเทศมีการเลือกใช้มาตรการ Lockdown ในช่วงปี 2020 ซึ่งตอกย้ำถึง การปรับตัวลดลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

 


 

ผลที่ตามมาคือ จีดีพีของแต่ละประเทศมีการปรับตัวลงทำต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในหลายๆประเทศเศรษฐกิจ

ขณะที่ IMF  คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัว -4.4ก่อนจะดีดกลับได้ที่ 5.2ในปี 2021

ขณะเดียวกันในรายงานของ IMF เดือนต.ค. ระบุว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเริ่มฟื้นตัว แต่เตือนว่าการจะกลับสู่ช่วงก่อนการระบาดอาจใช้เวลานาน และยังมีความไม่แน่นอน

 

การจำกัดการเดินทางยังมีอยู่

หนึ่งในปัญหาจากการ Lockdown ทั่วโลก ส่วนหนึ่งคือการปิดพรมแดนที่มีผลต่อการระงับการเดินทางทั่วโลก

หน่วยงานท่องเที่ยวระดับโลกของทาง UN  (UNWTO) เผยว่า นับตั้งแต่ 1 พ.ย. 2020 จะพบว่า มากกว่า 150 ประเทศและจังหวัดต่างๆมีการคลายมาตรการจำกัดการเดินทาง

 


แต่หลายๆพื้นที่ก็ยังมีการใช้มาตรการที่เข้มงวดอยู่บ้าง เพื่อจำกัดการเข้าประเทศ เช่น:
- อนุญาตการเข้าพรมแดนเพียงเฉพาะผู้มีสัญญาณ หรือกำหนดปลายทางที่แน่นอน

- เรียกร้องให้กลุ่มผู้เดินทางที่ต้องมีผลตรวจเชื้อ Covid-19 เป็นลบ ก่อนปล่อยตัวให้เข้าสู่ประเทศ

- เรียกร้องให้กลุ่มผู้เดินทางมีการกักกันตันเองก่อนได้รับอนุญาตเข้าสู่ประเทศ

 

คนว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น

การระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจและทำให้เกิดคนว่างงานเพิ่มขึ้นทั่วโลก


องค์การ OECD ระบุว่า บางประเทศได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ตั้งแต่ต้นที่กระทบกับตลาดแรงงาน ทำให้เกิดการปรับลดแรงงานครั้งใหญ่กว่า 10 ครั้ง เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตทางการเงินระดับโลก และภาพรวมส่งผลกระทบเชิงลบไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียงานหรือรายได้

 

ระดับหนี้รัฐบาลพุ่งสูงขึ้น

ระดับหนี้รัฐบาลต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อปกป้องแรงงานและสนับสนุนแรงงาน โดยมาตรการของรัฐบาลต่างๆทั่วโลกดูจะส่งผลให้ ณ เวลานี้ มีระดับหนี้ทั่วโลกรวมกันสูงกว่า 12 ล้านล้านเหรียญ (อ้างอิงจากรายงานของ IMF เดือนต.ค.)


ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นผลักดันให้ระดับหนี้สาธารณะปรับตัวสูงขึ้นทำ All-Time High แต่รัฐบาลก็ไม่ควรถอนมาตรการสนับสนุนในเร็วๆนี้ เนื่องจากยังมีแรงงานอีกจำนวนมากที่ยังว่างงาน และภาคธุรกิจขนาดเล็กชะลอตัว และประชาชนอีกกว่า 80-90 ล้านคนกลับสู่ภาวะยากจนในปีนี้ อันเป็นผลจากการระบาดของไวรัสโคโรนา


ธนาคารกลางเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่ม

ธนาคารกลางต่างๆเองก็ไม่ต่างจากรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการใช้นโยบายปรับลดดอกเบี้ย ที่ส่วนใหญ่ต่างแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการจัดการกับระดับหนี้ที่เกิดขึ้น



ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด เป็นธนาคารกลางรายใหญ่ที่มีอิทธิพลและส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก มีการหั่นดอกเบี้ยติดลบใกล้ระดับศูนย์ และยังไม่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ยใดๆเพิ่มจนกว่าเงินเฟ้อจะปรับขึ้นเหนือเป้าหมาย 2%

ขณะที่ธนาคารกลางในประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเฟดและอีซีบี ต่างก็มีการเพิ่มการเข้าซื้อสินทรัพย์เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการเงิน  และธนาคารกลางในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ยังหาวิธีสนับสนุนเพิ่มเติมทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้าได้รับผลเชิงลบอย่างหนัก 


ที่มา: CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com