• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2563

    28 ธันวาคม 2563 | Economic News
  

 ·         ดอลลาร์อ่อนค่า ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายเบางบาง ท่ามกลางทรัมป์ผ่านร่างกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากการที่นายทรัมป์ยอมลงนามร่างกฎหมายที่เคยขู่ว่าจะไม่ลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนหลายๆรายเข้าสู่ช่วงหยุดยาวเป็นที่เรียบร้อย

 

ค่าเงินปอนด์ทรงตัวต่ำกว่าสูงสุดรอบ 2 ปีครึ่งในตลาดเอเชีย ท่ามกลางอังกฤษ-อียูสามารถเดินหน้าข้อตกลงการค้า Brexit ในกรอบที่แคบลง แต่ข้อตกลงดังกล่าวก็ยังไม่ได้ครอบคลุมถึงภาคการเงินของอังกฤษ

 

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถว 90.224 จุด หลังอ่อนค่าลงมา 3 วันทำการ

 

ค่าเงินปอนด์แข็งค่า 0.1% ที่ 1.3544 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าสูงสุดรอบ 2 ปีครึ่งที่ทำไว้แนว 1.3625 ดอลลาร์/ปอนด์ในช่วงต้นเดือน

 

นายทรัมป์ลงนามข้อตกลงการระบาดของไวรัสโคโรนา 2.3 ล้านล้านเหรียญ และค่าใช้จ่ายภาครัฐเป็นที่เรียบร้อย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานรัฐบาลต้องเผชิญการปิดทำการ

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยแถว 0.1% ที่ 1.2199 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ทำสูงสุดรอบ 2 ปีครึ่งที่ 1.2273 ดอลลาร์/ปอนด์ในเดือนนี้

 

เงินเยนทรงตัวที่ 103.63 เยน/ดอลลาร์

 

สมาชิกผู้กำหนดนโยบายบีโอเจ จะหารือกันในเรื่องเส้นอัตราผลตอบแทน และเรียกร้องการประนีประนอมการปรับทบทวนกรอบเวลางาน พร้อมสรุปมุมองเดือนธ.ค. ในเรื่องดอกเบี้ยวันนี้


·         รัฐมนตรีอังกฤษ เผย ภาคธุรกิจส่วนใหญ่เตรียมแผนการจัดการหลังหมดยุคเปลี่ยนผ่าน Brexit วันที่ 31 ธ.ค. ไม่ว่าจะเป็นการออกจากสหภาพยูโร และตลาดเดี่ยว

 

 

·         Pfizer ชะลอการจัดส่งวัคซีนชุดใหม่ไปยังสเปนล่าช้าหนึ่งวัน

รัฐมนตรีสาธารณสุขซัลวาดอร์อิลลา เผยว่า บริษัทผู้ผลิตวัคซีน Pfizer ชะลอการจัดส่งวัคซีนชุดใหม่ออกไปยังสเปน โดยล่าช้าออกไปหนึ่งวัน เนื่องจากอุปสรรคด้านการจัดส่ง ในการควบคุมอุณหภูมิ กระบวนการบรรจุ และส่งวัคซีนออกไป

 

·         รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน เรียกร้อง ให้สหรัฐฯ ยุติการใช้ไต้หวันแทรกแซงกิจการจีน หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในกฎหมาย รับรองไต้หวัน ปี 2020 และแผนดังกล่าวถูกรวมในแพ็คเกจงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ และค่าใช้จ่ายภาครัฐมูลค่ารวมกว่า 2.3 ล้านล้านเหรียญ ที่ได้ลงนามไปเมื่อไม่นานนี้

 

·         เศรษฐกิจจีนในเมืองใหญ่โตได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่การบินการท่องเที่ยว และภาคที่อยู่อาศัยมีโอกาสประสบภาวะฟองสบู่  ท่ามกลางจีดีพีจีนที่โตได้ 4.5% ในช่วงไตรมาสแรกของปี เพราะได้รับอานิสงส์จากเมืองใหญ่ๆ แต่การที่ข้อมูลล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นปักกิ่ง ที่โตได้ 0.1%, เซี่ยงไฮ้หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ เดือนของปีที่ 0.3% ก็ทำให้ภาพรวมจีดีพีปีนี้มีแนวโน้มจะโตได้ 2%

 

·         ซิดนีย์ของออสเตรเลียสั่งห้ามประชาชนรวมกลุ่มเคาท์ดาวน์ฉลองเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา

 

โดยไวรัสดังกล่าวกลับมาแพร่ระบาดที่ซิดนีย์อีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธ.ค. บริเวณพื้นที่ชายหาดทางตอนเหนือ โดยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก รายวันนี้ ส่งผลให้ยอดรวมเพิ่มขึ้นแตะ 125 ราย ขณะที่ประชาชนในซิดนีย์ต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ ม.ค. ปีหน้า

 

·         น้ำมันดิบอ่อนตัวหลังทรัมป์ลงนามร่างกระตุ้นเศรษฐกิจ – ตลาดยังกังวลอุปสงค์น้ำมัน

น้ำมันดิบปรับอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากช่วงก่อนหน้านี้หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในแพ็กเกจความช่วยเหลือเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา มูลค่า 2.3 ล้านล้านเหรียญ แต่ความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอุปสงค์ในระยะสั้นยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาด

 

น้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.5% ที่ระดับ 51.04 เหรียญ/บาร์เรล ลดลงมากกว่า 1.5% สูระดับ 50.53 เหรียญ จากช่วงก่อนหน้านี้

 

น้ำมันดิบ WTI ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ที่ระดับ 48.04 เหรียญ/บาร์เรล

 

ทางด้านนักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าวว่า การลงนามในแพ็กเกจความช่วยเหลือเศรษฐกิจของนายทรัมป์ช่วยชดเชยการปรับตัวลงของราคาได้บางส่วนในวันนี้ แม้ว่าทั้ง Brent และ WTI จะยังคงเคลื่อนไหวในแดนลบก็ตาม

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com