• นักลงทุนเชื่อว่าตลาดหุ้นจะ “ผันผวน” ภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของ“ไบเดน”

    29 ธันวาคม 2563 | SET News
  

รายงานจาก CNBC Polled พบว่า ผลสำรวจประธานฝ่ายบริหารด้านการลงทุน และผู้จัดการด้านพอร์ตการลงทุนกว่า 100 ราย เกี่ยวกับมุมองตลาดหุ้นภายใต้ทีมบริหารงานผู้นำสหรัฐฯชุดใหม่ พบว่า 2 ใน 2 เชื่อว่า ในช่วง 4 ปีแรกของนายไบเดน อาจสร้างความย่ำแย่ให้แก่ตลาดหุ้นมากกว่าทีมบริหารของนายทรัมป์


แต่โดยส่วนใหญ่เชื่อว่า “ดัชนีดาวโจนส์จะทำ New Highs ใหม่ในปีหน้า”

ซึ่ง 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าอาจเห็นดาวโจนส์ปิดปี 2021 แถว 35,000 จุด หรือปรับขึ้นราว 16% จากราคาปิดคืนวันพฤหัสบดีที่ระดับ 30,199 จุดโดยประมาณ

ขณะที่อีก 5% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าอาจเห็นดาวโจนส์ขึ้นได้ไกลแตะ 40,000 จุดในปีหน้า


10% ของผู้ตอบแบบสอบถามกลับมองว่าดาวโจนส์อาจตกลงมาที่ 25,000 จุด
18% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า อาจเห็นดาวโจนส์กลับลงมาแถว 30,000 จุด

ภาพรวมตั้งแต่ที่ทีมบริหารของนายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. ปี 2017 จะพบว่า ดัชนี S&P500 ปรับขึ้นได้กว่า 60% อันเนื่องมาจากทีมบริหารของนายทรัมป์ได้ดำเนินการ “ปรับลดภาษีภาษีบริษัท” ที่ทำให้ผลประกอบการปรับตัวสูงขึ้น และมีการซื้อหุ้นกู้มากสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ ทีมบริหารของนายทรัมป์ยังได้ทำการ “ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ต่างๆ” ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จึงค่อนข้าง “เป็นมิตร” ต่อตลาดน้ำมันและภาคอุตสาหกรรมอื่นๆด้วย

ดังนั้น นักลงทุนหลายๆคนจึงค่อนข้างวิตกกังวลว่า การมาของนายไบเดน อาจนำมาซึ่งสภาวะที่สวนทางกันด้วย “การปรับขึ้นภาษี” ที่อาจนำไปสู่ผลกระทบต่อผลประกอบการครั้งใหญ่หลังจากที่ปรับขึ้นทำสูงสุดในรอบหลายปี

ขณะเดียวกัน นักลงทุนเชื่อว่า การดำเนินนโยบายของนายไบเดนอาจสร้างความผันผวนให้แก่ภาพรวมตลาด โดยบางส่วนอาจดีขึ้น อาทิ กลุ่มสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค (สินค้าฟุ่มเฟือย), ภาคอุตสาหกรรม และการเงินที่น่าจะเป็นกลุ่มที่ดีที่สุดภายใต้การบริหารงานของนายไบเดน

ขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค, สินค้าจำเป็น และภาคพลังงานอาจมี Performance ที่ตกลง


การซื้อ Bitcoin

กลุ่มนักลงทุนและนักกลยุทธ์ตั้งคำถามต่อสภาวะ NEW INVESTMENT สำหรับการลงทุนในออพชัน, สัญญาณซื้อขาย, Bitcoin หรือสินค้าพิเศษอืนๆของภาคบริษัทต่างๆ ในปี 2021

ผลสำรวจส่วนใหญ่ชี้ว่า 58% คาดว่า SPACs เนื่องจากเล็งเห็นถึงเม็ดเงินในกองทุนที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 7 หมื่นล้านเหรียญในปี 2020 จึงตอกย้ำว่าเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าจากปี 2019

ผลสำรวจ 33% สะท้อนถึงการลงทุนใน Bitcoin

ผลสำรวจ 9% สะท้อนถึงการลงทุนในออพชัน

หลายๆมุมมองก็ยังคงให้จับตาการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรม อาทิ Fidelity Investments, Square และ PayPal ด้วยความน่าสนใจจากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้ามาลงทุน ไม่ว่าจะเป็น นายพอล ทูดอร์ โจนส์ และนายสแตนลี ดรัคเคนมิลเลอร์ ที่ช่วยหนุนการลงทุนในค่าเงินดิจิทัลมากขึ้น


ที่มา: CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com