· Brexit นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดซื้อขายยุโรป
รายงานจาก Reuters ระบุว่า ยุโรปอาจเกิดการเคลื่อนย้ายการซื้อขายตลาดหุ้นครั้งใหญ่ในรอบกว่า 2 ทศวรรษ ในช่วงที่ตลาดซื้อขายหุ้นเปิดทำการในปี 2021 โดย Brexit ถือเป็นชนวนเหตุให้นักลงทุนเลือกก้าวออกจากศูนย์กลางการลงทุนของอังกฤษหรือในตลาดลอนดอน
อย่างไรก็ดี นักลงทุนคาดหวังว่าการระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวนานในการเตรียมตัวนับตั้งแต่มีการลงประชามติออกจากอียู จะทำให้การเปลี่ยนผ่านเกิดขึ้นและมีผลต่อสินทรัพย์ต่างๆที่ใช้สกุลเงินยูโร อาทิหุ้น และสินค้าอนุพันธ์ได้อย่างราบรื่นมากขึ้น แต่ ณ ขณะนี้ผลกระทบระยะยาวยังมีความไม่ชัดเจน
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของเหล่านักลงทุนคได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงการค้า Brexit และความหวังที่ว่าจะมีการขยายแพ็คเกจบรรเทาทุกข์จากโควิด-19 ของสหรัฐฯที่รอคอยมานาน
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.45% ตลาดหุ้นออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.53% ด้านดัชนี S&P 500 Futures ปรับตัวสูงขึ้นได้ 0.4%
ดัชนี Shanghai composite ลดลง 0.54% ที่ระดับ 3,379.04 จุด ด้านดัชนี Shenzhen component ลดลง 0.526% ที่บริเวณ 13,970.21 จุด ขณะที่ดัชนี Hang Seng เพิ่มขึ้น 0.9%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ทศวรรษ เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของเหล่านักลงทุนได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่าจะมีการขยายแพ็คเกจบรรเทาทุกข์จากไวรัสโคโรนาของสหรัฐฯที่รอคอยมานาน
โดยดัชนี Nikkei ปิด +1.63% ที่ระดับ 27,292.37 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงุสดนับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ปี 1990 ที่ผ่านมา ด้านดัชนี Topix +1.74% ที่บริเวณ 1,819.18 จุด ซึ่งเป็นระดับดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2018
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.68% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนในยุโรปได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากที่นายโดนันลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับปลกระทบจากไวรัสโคโรนามูลค่า 9 แสนล้านเหรียญ ซึ่งมาตรการนี้รวมถึงการจ่ายเงินโดยตรงจำนวน 600 เหรียญให้กับชาวอเมริกันด้วย
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
-ปิดเช้าลบ 2.30 จุด ผันผวนตามแรงเหวี่ยง DELTA ,วิตกโควิดระบาดในประเทศ.
ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,450.37 จุด ลดลง 2.30 จุด (-0.16%) มูลค่าการซื้อขายราว 40,568 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,468.60 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,443.06 จุด
· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
-ศบค. แถลง "ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้" ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 155 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 6,440 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 61 ราย
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 63 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวน ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 155 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 6,440 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 61 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 4,180 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 2,195 ราย
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 155 คน แบ่งเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 134 คน การค้นหาเชิงรุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ 11 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 10 คน อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้
สำหรับ การค้นหาเชิงรุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ พบผู้ติดเชื้อสะสม 1,381 คน