· ดอลลาร์ทรงตัวในทิศทางอ่อนค่า ท่ามกลางการช่วยเหลือสถานการณ์ Covid-19 ขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้น
ดอลลาร์อ่อนค่าลงใกล้ระดับต่ำสุดรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง จากความต้องการสินทรัพย์ Safe-Haven ที่ลดน้อยลง หลังจากที่ส.ส.สหรัฐฯ ผลักดันแพ็คเกจช่วยเหลือ Covid-19 โดยเพิ่มวงเงินเช็คจาก 600 เหรียญ เป็น 2,000 เหรียญ และกำลังส่งต่อให้ทางวุฒิสภาสหรัฐฯ โหวตร่างกฎหมายดังกล่าว
ขณะที่ข้อตกลง Brexit ก็ดูจะกลายมาเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก และหนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวแดนบวกตามตลาดหุ้นเอเชีย
นักวิเคราะห์จาก State Street Bank and Trust กล่าวว่า มุมมองเชิงบวกที่เกิดขึ้นทั้งหมดกำลังเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้น และคาดดอลลาร์น่าจะได้รับผลกระทบในทิศทางอ่อนค่า และมีโอกาสอ่อนต่อในปีหน้า
ดัชนีดอลลาร์วันนี้ทรงตัวแถว 90.194 จุด ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง และมีการทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุด 89.723 จุด ที่ทำไว้เมื่อ 17 ธ.ค. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เม.ย. 2018
สถานะ Short ในค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นแตะ 2.66 หมื่นล้านเหรียญในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อ 21 ธ.ค. ซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 3 เดือน
ค่าเงินยูโรปิดปรับขึ้น 0.1% ที่ 1.22260 ดอลลาร์/ยูโรในตลาดเอเชียตอนช่วงต้น และทรงตัวใกล้กับระดับสูงสุดรอบ 2 ปีครึ่งที่ทำไว้ช่วงต้นเดือนนี้บริเวณ 1.22735 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 103.74 เยน/ดอลลาร์
ค่าเงินปอนด์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% ที่ 1.3477 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากที่ปรับอ่อนค่าลง 2 วันทำการ ขณะที่ช่วงต้นเดือนธ.ค. ทำสูงสุดที่ 1.3625 ดอลลาร์/ปอนด์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่พ.ค. ปี 2018
นักลงทุนมีการเทขายทำกำไรในค่าเงินปอนด์ หลังจากที่มีรายงานยืนยันในสัปดาห์ที่แล้วว่ามีข้อตกลงการค้า Brexit ตามคาด และข้อตกลงที่เกิดขึ้นได้ช่วยหนุนกลุ่มนักลงทุนให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้น
อย่างไรก็ดี การขาดข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องตลาดการเงิน ก็ดูจะเป็น "ปัจจัยลอย่างมาก" สำหรับประเทศอังกฤษ
Bitcoin ปรับลงไปกว่า 0.8% ที่ 26,841 เหรียญ โดยอ่อนค่าหลังจากที่ทำ All-Time High สูงสุดที่ 28,377.94 เหรียญเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
· สหรัฐฯอาจพลาดการค้นหาเชื้อไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ อันเนื่องจากยังเผชิญกับการระบาดจำนวนมาก และการปราศจากการทดสอบหาเชื้อในหลายๆเมืองของสหรัฐฯ อาจสะท้อนถึงการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ที่อยู่ในระดับสูง ที่มีการตรวจพบครั้งแรกในอังกฤษ จึงอาจคล้ายคลึงกับสถานการณ์ของสหรัฐฯในเวลานี้
· จีนหวังการเจรจาข้อตกลงการลงทุนอียูจะสามารถบรรลุผลได้ในไม่ช่วงไม่กี่วันของการเจรจา
· ผู้แทนเจรจา Brexit ของยุโรป ชี้ ข้อตกลงการค้า Brexit นำมาซึ่ง "เสถียรภาพ" ให้แก่ประชาชนและภาคบริษัท แต่ยังคงมีรายละเอียดบางส่วนที่ต้องกำหนดถึงทิศทางอนาคตความสัมพันธ์ของทางอียูกับอังกฤษ ประกอบด้วย นโยบายการร่วมมือกันทางด้านการต่างประเทศ
· หน่วยงานสาธารณสุขของฝรั่งเศส กล่าวว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นสูงถึง 363 ราย ซึ่งบ่งชี้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในฝรั่งเศสยังคงไม่ดีขึ้น และทำให้มีความเป็นไปได้สูงมากว่าที่รัฐบาลจะประกาศใช้มาตรการ Lockdown เป็นรอบที่ 3
ขณะนี้ฝรั่งเศสมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมสะสมมากกว่า 2.56 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิต 63,109 รายนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ส่วนผู้ป่วยที่ยังคงรักษาในโรงพยาบาลอยู่ที่ 24,678 ราย เพิ่มขึ้น 25 รายเมื่อเทียบกับวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และมีผู้ป่วยหนักในห้องไอซียูจำนวน 2,703 ราย เพิ่มขึ้น 44 ราย
· รัสเซียจะลดวงเงินสนับสนุนทางเศรษฐกิจในปี 2021 รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของรัสเซีย กล่าวว่า จะทำการจับตาไปยังค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อนำไปจ่ายชำระหนี้สินที่ก่อตัวขึ้นอันเป็นผลจากการระบาดของไวรัสโคโรนา และการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน ด้วยการ "ลดทางเลือกในการเพิ่มการกู้ยืมที่เกิดขึ้นกว่าเท่าตัวในปี 2020" และหันไปเพิ่มภาษี และหนุนการใช้จ่ายให้สูงขึ้น ผ่านมาตรการผ่อนคลายด้านกฎงบประมาณในการปกป้องเศรษฐกิจจากภาวะไม่ทันตั้งตัว
ตลอดปี 2020 รัสเซียมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายภายในประเทศฉบับพิเศษที่คิดเป็น 4.5% ของจีดีพี ขณะที่แนวโน้มจีดีพีปี 2021 อาจเห็นการหดตัวลงมากถึง -1%
· อู่ฮั่น ได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาเป็นกรณีฉุกเฉินให้กับประชากรกลุ่มเสี่ยงแล้ว
โดยนายเหอ เจิ้นอวี่ รองผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประจำอู่ฮั่น กล่าวว่า อู่ฮั่นเริ่มฉีดวัคซีนที่คลินิกพิเศษ 48 แห่ง ใน 15 เขตทั่วเมืองให้กับคนกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา
· การเติบโตของเศรษฐกิจออสเตรเลีย อาจไม่หวนคืน เทียบเท่าก่อนการระบาดโควิด หลังเกิดสงครามการค้ากับจีน
เศรษฐกิจออสเตรเลีย ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้ากับจีน และการเติบโตของเศรษฐกิจอาจไม่กลับมาเหมือนก่อนการแพร่ระบาด เนื่องจากจีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย มีปริมาณสิงค้าส่งออกถึง 39.4% และส่งออกบริการ 17.6% ในปี 2019 และ 2020 ทั้งนี้จีนได้กำหนดสินค้านำเข้าจากออสเตรเลีย โดยกำหนดภาษีไวน์และข้าวบาร์เลย์ และยกเลิกการนำเข้าเนื้อวัว
อย่างไรก็ตาม จีดีพี ของออสเตรเลียอาจหดตัวมากขึ้น หากจีนยังคงขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากออสเตรเลียอยู่ และตัวเลขจีดีพี จะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 2.8% หากจีนกำหนดผลิตภัณฑ์อื่นที่ไม่ใช่สินค้านำเข้าจากออสเตรเลีย
· นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลีย ประเมินว่า ออสเตรเลียจะสามารถฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาให้แก่ประชาชนได้ทุกคนภายในสิ้นเดือนต.ค.ปีหน้า
อ้างอิงจาก The Guardian Hunt ระบุว่า "โครงการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของออสเตรเลียอยู่ระหว่างดำเนินการ และรวดเร็วกว่ากำหนดการ" พร้อมทั้งกล่าวว่า โครงการวัคซีนของประเทศเป็นไปตามกำหนดและก่อนกำหนด รวมทั้งรัฐบาลคาดว่าชาวออสเตรเลียจะได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนภายในสิ้นเดือนต.ค. นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ชาวออสเตรเลียได้รับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด
· สำนักข่าวยอนอัปรายงานการเปิดเผยของสำนักประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่า เกาหลีใต้เตรียมลงนามในข้อตกลงนำเข้าวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาจากบริษัท Moderna ของสหรัฐฯเพื่อฉีดให้กับประชาชน 20 ล้านคน
· กองทัพสหรัฐฯ ที่ประจำการในเกาหลีใต้ ได้รับการฉีดวัคซีนชุดแรก เนื่องจากมีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด
กองทัพสหรัฐฯ ที่ประจำการในเกาหลีใต้ ได้รับการฉีดวัคซีนชุดแรก ในวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด 40 รายต่อวัน ท่ามกลางผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น
โดยเกาหลีใต้วางแผนเริ่มฉีดวัคซีน ในเดือน ก.พ. ทั้งนี้วัคซีนจะถูกจัดให้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้ที่มีความเสี่ยงเข้าร่วมเป็นอันดับแรก หลังจากถูกอนุมัติใช้ในสหรัฐฯ และยุโรปก่อน
· อินเดียพบผู้ป่วย 6 รายติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่
อินเดียพบผู้ป่วย 6 รายซึ่งเดินทางกลับจากอังกฤษในไม่กี่สัปดาห์ ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบให้ปิดพรมแดนทั่วโลก แม้ว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวันในระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
· สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของฟิลิปปินส์ เตือน ประชาชนห้ามฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตภายในประเทศ ขณะที่กองทัพฟิลิปปินส์ระบุว่า สมาชิกทีมรักษาความปลอดภัยของนาย โรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว
นายเอริค โดมิงโก ผู้อำนวยการ FDA ของฟิลิปปินส์ ระบุว่า FDA ยังไม่ได้อนุมัติวัคซีนใดๆ สำหรับการใช้งานภายในประเทศ ดังนั้น การนำเข้า การฉีด หรือการแจกจ่ายวัคซีนที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
· นายโรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้อนุมัติห้ามเดินทางในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทางด้านผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าจะติดต่อกันได้มากขึ้น
โดยการใช้มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค. ซึ่งครอบคลุมถึงชาวฟิลิปปินส์และชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 19 ประเทศที่กำหนดซึ่งรวมถึง ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย แคนาดา เยอรมนี แอฟริกาใต้ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น
· น้ำมันพุ่งขึ้นจากความหวังของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯหนุนความต้องการเชื้อเพลิง
น้ำมันปรับขึ้นในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ท่ามกลางคาดการณ์ที่ว่าความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มจากสหรัฐฯอาจขยายการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา รวมทั้งการเจรจาข้อตกลง Brexit
ทั้งนี้ น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.5% ที่ระดับ 51.09 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.5% ที่ระดับ 47.85 เหรียญ/บาร์เรล