• ดัชนีดาวโจนส์ปิด +400 จุด ทำสูงสุดประวัติการณ์ จากผลเลือกตั้งรัฐจอร์เจีย และเหตุตึงเครียดจากการก่อจลาจลที่สภาคองเกรส

    7 มกราคม 2564 | SET News
 

ดัชนีดาวโจนส์ปิด +400 จุด ทำสูงสุดประวัติการณ์ จากผลเลือกตั้งรัฐจอร์เจีย และเหตุตึงเครียดจากการก่อจลาจลที่สภาคองเกรส

ดาวโจนส์ปิด +437.80 จุด หรือ +1.4% ที่ 30,829.40 จุด เป็นการปิดสูงสุดประวัติการณ์ ขณะที่ช่วงต้นตลาดปรับขึ้นแรงกว่า 600 จุด ทำ All-Time High ต่อเนื่อง

ดัชนี S&P500 ปิด +0.6% ที่ 3,748.14 จุด และทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้เช่นกัน

ดัชนี Nasdaq ปิดอ่อนตัวลง 0.6%

นักลงทุนตอบรับมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯเพิ่มเติมจากผลเลือกตั้งรัฐจอร์เจียปลุกกระแส Blue Wave มากขึ้น

ขณะที่ในช่วงดัชนีปรับขึ้นทำสูงสุดมาตรวัดความกลัวของนักลงทุนหรือ CBOE Volatility Index ก็พุ่งปิดสูงขึ้นด้วยจากเหตุจลาจลในสภาคองเกรสเพื่อรับรองผลเลือกตั้ง “นายไบเดน” ให้เป็นฝ่ายชนะนายทรัมป์

ไม่เพียงแต่ดัชนีสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น ยังมีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับขึ้นตาม แต่สินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวลดลง

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นกว่า 1% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มี.ค. ก่อนจะปิดแถว 1.03%

นายราฟาเอล วอนอร์ค ผู้แทนจากพรรคเดโมแครต เอาชนะนางเคลลี ลอฟเฟอร์ จากพรรครีพับลิกัน และนายจอน ออสซอป เอาชนะผู้แทนจากรีพับลิกันได้เช่นกัน

หากพรรคเดโมแครตชนะได้ทั้งคู่จะทำให้มีที่นั่งเพิ่มในวุฒิสภาแบบเท่าเทียมกันที่ 50 ต่อ 50

และนักลงทุนประเมินว่า ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจง่ายต่อการผลักดันให้มาตรการ Covid-19 ผ่านสภา และหวังว่าจะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวได้

Goldman Sachs คาด อาจเห็นการผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพิ่มเติมมูลค่ากว่า 6 แสนล้านเหรียญในระยะสั้นหากเดโมแครตคว้าชัยเลือกตั้งครั้งนี้ได้


ที่มา: CNBC


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com