ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงจากนักลงทุนที่เริ่มหันมาประเมินมูลค่าตลาดหุ้น และแนวโน้มการกระตุ้นเศรษฐกิจในแพ็คเกจ Covid-19 มากขึ้น ท่ามกลางสภาวะผันผวนทางการเมือง
ดัชนีดาวโจนส์ปิด -89.28 จุด หรือ -0.3% ที่ 31,008.69 จุด
ดัชนี S&P500 ปิด -0.7% ที่ 3,799.61 จุด
ดัชนี Nasdaq ปิด -1.3% ที่ 13,036.43 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเริ่มต้นสัปดาห์แรกของปีที่แข็งแกร่ง แม้จะมีเหตุความวุ่นวายทางการเมืองก็ตาม โดยตลาดให้ความสนใจแก่ “การกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯเพิ่มเติม” หลังเดโมแครตกวาดที่นั่งเพิ่มในสภาคองเกรสได้
ดัชนี S&P500 ปรับขึ้น 4 วันทำการทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยการปรับขึ้นกว่า 1.8% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์สัปดาห์ที่ 1.6% และ Nasdaq ปรับขึ้นแตะ 2.4% และทั้งหมดมีการทำ All-Time High
การฟื้นตัวของตลาดหุ้นเผชิญกับปัญหาทางด้านการเมืองและการระบาดของไวรัสโคโรนาที่สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน
หุ้น Tesla เพิ่ม 25% ในสัปดาห์ที่แล้ว และตลอดปี 2020 ปรับขึ้นกว่า 747% ขณะที่ปีนี้กระแสเงินสดที่เพิ่มมากถึง 90 ครั้ง แต่วานนี้ก็ปรับตัวลงราว 7.8%
ด้าน Bitcoin ปรับลงแตะ 33,000 เหรียญ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วทะลุเหนือ 40,000 เหรียญ
ความตึงเครียดระดับสูงในสหรัฐฯยังคงมีเพิ่มมากขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ท่ามกลางส.ส.เดโมแครตที่ยื่นฟ้องร้องนายทรัมป์ที่ให้การสนับสนุนการก่อความไม่สงบในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ด้านสภาล่างมีแผนโหวตข้อกำหนดในสัปดาห์นี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา นางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เผย จะทำการผลักดันการยื่นฟ้องนายทรัมป์หาก นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทีมบริหารชุดปัจจุบันไม่ทำตามบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25 ในการถอดถอนนายทรัมป์
นายจิม เครเมอร์ ผู้สื่อข่าวชื่อดังของ CNBC กล่าวว่า เมื่อพิจารณาถ้อยแถลงของนางเพโลซี จะสะท้อนถึงว่า “นายทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯที่อันตรายที่สุด” และตลาดไม่ชอบใจในประเด็นตึงเครียดทางการเมืองแบบนี้เท่าไหร่นัก
ปัจจุบันตลาดกำลังให้ความสนใจกับความสามารถของสภาคองเกรสว่าจะผลักดันนโยบายของนายไบเดนได้สำเร็จหรือไม่ หลังมีการครองเสียงในวุฒิสภาเพิ่มมากขึ้นเป็น 50-50 เพราะหากมีการเริ่มผลักดันนโยบายล่าช้าหรือเผชิญอุปสรรค บรรดาเทรดเดอร์ก็จะเริ่มลงทุนด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ให้คำมั่นไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในการจะเร่งผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้นในวงเงินกว่าล้านล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการกล่าวถ้อยแถลงในช่วง 6 วัน ก่อนเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง
ที่มา: CNBC