· ทองคำกับโอกาสรีบาวน์สู่กรอบ 1,861 - 1,869 เหรียญ ก่อนอ่อนตัวลง
B-Recorder ระบุว่า ทองคำยืนเหนือ 1,869 เหรียญ และหากปรับขึ้นได้มีโอกาสไปแตะ 1,883 เหรียญ โดยราคามีแนวโน้มรีบาวน์ในกรอบ 1,819 - 1,864 เหรียญ จากคาดการณ์ที่ราคาปรับขึ้นในคลื่น C จาก 1,727.45 เหรียญ ซึ่งหากผ่านไปได้มีโอกาสทำคลื่นใหม่ในในทิศทางขาลงแดน 1,775 - 1,789 เหรียญ
ทั้งนี้ หากทองคำสามารถยืนเหนือ 1,869 เหรียญไปได้ ก็มีโอกาสไปถึง 1,883 เหรียญ
· FXStreet คาดการณ์ ทองคำมีโอกาสรีบาวน์ต่อ และมีโอกาสทดสอบ 1,860 เหรียญ
ทองคำปรับตัวลงต่อเนื่อง 4 วันทำการ ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาเหนือ 1,850 เหรียญ และมีแนวโน้มขึ้นได้ แต่เป็นการปรับขึ้นอย่างจำกัดเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังอยู่ในระดับสูง
นักวิิเคราะห์จาก FXStreet ยังกล่าวว่า การชะลอการแข็งค่าของดอลลาร์มาจากโอกาสการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ความเชื่อมั่นในตลาดยังอยู่ในตลาดพันธบัตรมากกว่า จึงกดดันทองคำ
ภาพรวมภาวะขาขึ้นของทองคำจะกลับมาได้หากมีการยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 ชั่วโมง (HMA) ที่ระดับ 1,858 เหรียญ ซึ่งหากผ่านได้มีโอกาสเห็น 1,890 เหรียญ ที่เป็นเส้น Downward-Sloping ของ HMA ราย 100 ชั่วโมง
แต่หากทองคำไม่สามาถรผ่าน 1,858 เหรียญไปได้ ก็น่าจะมีแรงเทขายให้กลับมาแถวแนวรับแรก 1,852 เหรียญ และหากหลุดลงมาจะมีโอกาสเห็นที่ 1,847 เหรียญ รวมทั้งอาจลงไปทดสอบ 1,842 เหรียญได้ และหากไม่สามารถทรงตัวได้ก็อาจกลับทดสอบต่ำสุดเดิมวานนี้บริเวณ 1,817 เหรียญ ตอกย้ำภาวะขาลง
· Kitco | ทองคำอาจร่วงต่ำกว่า 1,800 เหรียญในสัปดาห์นี้ได้หรือไม่?
นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดอาวุุโสจาก OANDA กล่าวว่า ณ ขณะนี้ ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจาก
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่พุ่งขึ้นหนุนดอลลาร์สูง จึงทำให้เกิด "แรงเทขาย" เข้ามาในตลาดทองคำ
- สถาบันทางการเงินจำนวนมาก มีการให้ความสนใจกับสินทรัพย์อื่นๆเพื่อกระจายในพอร์ตการลงทุนจึงทำให้เกิดการเลือกออกจากทองคำ
- ความกังวลครั้งใหญ่ คือการที่กองทุน ETF ลดการถือครองทองคำ หลังจากที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯถูกคาดว่าจะประสบความสำเร็จในการจัดการกับการระบาดของไวรัสโคโรนา
- แรงเทขายทองคำในทางเทคนิค
อย่างไรก็ดี คาดว่า "ทองคำอาจร่วงลงไปราว 100 เหรียญภายในช่วง 2-3 วันข้างหน้า" จากนักลงทุนที่ระมัดระวังการลงทุนมากขึ้นจากทิศทางดอลลาร์ในเวลานี้ ซึ่งบ่อยครั้งดอลลาร์ที่อ่อนค่าก็ดูจะช่วยหนุนตลาดทองคำ ขณะที่การรีบาวน์ของดอลลาร์อาจกดดันทองคำในบางช่วง
กรรมการผู้จัดการฝ่ายซื้อขายสินค้าต่างประเทศจาก Kitco วิเคราะห์ 2 ปัจจัยในเวลานี้ที่ทำให้ราคาทองคำเผชิญแรงเทขายออกมา นั่นคือ
- การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนเศรษฐกิจ
- แนวโน้มปัญหาทางเศรษฐกิจ
และทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ เกิดการปิดสถานะในทองคำเพราะต้องการเงินสด ขณะที่ข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 นี้น่าจะยังประสบปัญหาอยู่
โดยปกติตลาดมักตอบรับกับภาวะข่าวที่ไม่ดีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯและมีการย้ายมาถือเงินสด แต่เวลานี้จะเห็นว่าเกิดการถอนเงินจากทองคำเพื่อนำเงินสดไปตลาดหุ้นหรือตลาดพันธบัตร 10 ปี แทน
การแข่งขันด้านค่าเงิน Cryptocurrency
มีจำนวนนักวิเคราะห์ที่เพิ่มมากขึ้นเห็นพ้องกันว่า Bitcoin กำลังขโมยความน่าสนใจจากทองไป และทำให้เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากตลาดทองคำ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า Bitcoin เวลานี้ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
เมื่อเทียบกันจะเห็นว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำปรับตัวลดลงมาแล้วราว 125 เหรียญ ขณะที่ Bitcoin ปรับขึ้นกว่า 10,000 เหรียญ ทำสูงสุดเหนือ 41,000 เหรียญ
Bitcoin จึงเป็นปัจจัยใหญ่ที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะออกจากตลาดทองคำและนักลงทุนหลายๆรายก็มีการเพิ่มการกระจายการลงทุนจากทองคำไปถือ Crypto มากขึ้น
อย่างไรก็ดี Bitcoin น่าจะกดดันทองคำในระยะสั้นๆเท่านั้น และน่าจะเป็นฟองสบู่ที่อาจเกิดการแตกได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ การป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยบวกหลักที่จะมาสนับสนุนราคาทองคำ
นักวิเคราะห์หลายๆรายก็ยังคาดว่า "ทองคำยังเป็นขาขึ้นอยู่ในปีนี้" ประกอบกับการที่สมาชิกเดโมแครตในวุฒิสภามีที่นั่งเพิ่มจึงอาจยิ่งกดดันดอลลาร์ในภาวะอ่อนค่าลงได้ต่อ ขณะที่การกลับมาของเงินเฟ้อ และการอัดฉีดทางการเงินครั้งใหญ่ ดูจะยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งของทองคำ
· อะไรจะเกิดขึ้นหากทองคำหลุดต่ำกว่า 1,800 เหรียญ
สัปดาห์นี้อาจเห็นทองคำแตะ 1,770 เหรียญ ซึ่งเป็นต่ำสุดเดิมเมื่อเดือนพ.ย. ได้ ซึ่งนักวิเคราห์บางรายคาดว่าทองคำมีโอกาสกลับลงแตะระดับต่ำสุดดังกล่าว หากหลุดลงมาแถว 1,800 เหรียญ หลังจากไม่สามารถทรงตัวได้เหนือ 1,850 เหรียญ
ภาพรวมทองคำหลังจากที่เผชิญแรงเทขายอย่างหนักเมื่อเดือนธ.ค. ในทางเทคนิคทองคำก็ดูจะมีโอกาสลงมาแถวระดับต่ำสุดเดิมช่วงธ.ค. ที่ 1,800 - 1,820 เหรียญ ซึ่งหากราคาเคลื่อนไหวปิดต่ำกว่า 1,828 เหรียญ ทองคำก็มีโอกาสกลับลงทดสอบ 1,800 เหรียญ และอาจเปิดกว้างต่อโอกาสแนว 1,778 เหรียญ
นักกลยุทธ์อาวุโสจาก LaSalle Futures เตือนว่า หากราคาต่ำกว่า 1,820 เหรียญ ก็อาจยิ่งกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายกดดันทองคำกลับมาที่เป้าหมายต่อไป 1,800 เหรียญได้
ปัจจัยสำคัญที่ตลาดทองติดตาม
13 ม.ค. - ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ
14 ม.ค. - ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)
15 ม.ค. - ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ
นอกจากนี้ตลาดยังให้ความสนใจกับถ้อยแถลงของสมาชิกเฟด
14 ม.ค. - ถ้อยแถลงของ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด
รวมทั้งสมาชิกเฟดอีกจำนวนมาก ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ยืนเหนือ 1.1% ที่กลายเป็น "สัญญาณเตือน" เฟด ในเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อเงินเฟ้อ โดยมีสภาวะขาดดุลที่พุ่งขึ้นเป็นจำนวนมาก และอาจกลายมาเป็นปัญหาในเวลาต่อไป
· ธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐเบลารุสเพิ่มการสำรองทองคำ 1 ตัน แตะ 43.2 ต้นในปี 2020
นับตั้งแต่ 1 ม.ค. 2020 ธนาคารกลางเบลารุสมีการสำรองทองคำที่ 42.2 ตัน เมื่อเทียบกับช่วง 1 ม.ค. ปี 2019 ที่ปริมาณการสำรองอยู่ที่ 41.2 ตัน
การสำรองทองคำในประเทศที่เพิ่มมากขึ้นช่วยสนับสนุนประชาชนในประเทศและนอกประเทศและความสามารถของรัฐบาลในการจัดการทางด้านการเงินและการดำเนินนโยบาย เนื่องจากการสำรองทองคำไว้นั้นสามารถนำออกมาขายและเปลี่ยนมาเป็นค่าเงินหรือใช้เพื่อการดำเนินการอื่นๆ เมื่อจำเป็นและราคาเพิ่มสูงขึ้น
· ธนาคารกลางแห่งสาธารณะรัฐเบลารุสสำรองทองคำเพิ่มขึ้น 1 ตันเป็น 43.2 ตันในปี 2020
ธนาคารกลางแห่งสาธารณะรัฐเบลารุส (NBRB) ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 1 ตันในปี 2020 ที่ผ่านมา เป็น 43.2 ตัน
โดยประกอบด้วยโลหะมีค่าในรูปแบบแท่งของธนาคารและเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนของรัฐสำหรับโลหะมีค่าและอัญมณีแห่งเบลารุส