ตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันปิดปรับตัวลดลงในคืนวันศุกร์ โดยได้รับแรงกดดันจากข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าที่คาด แตะ -0.7% ในเดือนธ.ค. ปิดปีแดนลบ ขณะที่ข้อมูลค้าปลีกที่ไม่รวมกับกลุ่มยานยนต์, น้ำมัน, วัสดุอุปกรณ์การก่อสร้าง และภาคบริการอาหาร ปรับตัวลงมา -1.4% ในเดือนธ.ค. ขณะที่ข้อมูลเดือนก่อนหน้าถูกปรับทบทวนดิ่งลงมาที่ -1.3%
ข้อมูลล่าสุดที่ออกมาแย่ลงเกิดขึ้นหลังจากที่ข้อมูลจ้างงานเดือนธ.ค. แย่กว่าคาด ประกอบกับข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการณ์ว่างงานรายสัปดาห์ที่ประกาศในวันก่อนหน้าออกมาแย่ลงทะลุ 965,000 ราย สะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทจากวิกฤต Covid-19 และกดัดนตลาดหุ้น ขณะที่หนุนดอลลาร์แข็งค่ารายสัปดาห์มากสุดรอบกว่า 2 เดือน
ขณะที่ข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายไบเดนและการกระจายวัคซีนที่ยังเป็นไปได้อย่างช้าๆ ควบคู่กับการประกาศ Lockdown หรือมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้น อาทิ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ประกอบกับยอดติดเชื้อในจีนที่เพิ่มสูงขึ้น “ยังกดดันความเชื่อมั่นของตลาดการเงิน”
เทรดเดอร์ค่าเงินอาวุโสจาก Tempus กล่าวว่า จนกว่าจะมีการการันตีทางการแพทย์ในเรื่องวัคซีน ก็อาจเห็นตลาดผันผวนตามข่าวที่เข้ามาได้ ขณะที่ภาพรวมกลุ่มนักลงทุนในตลาดหุ้นยังมีการเก็งกำไรในตลาดหุ้นตอบรับโอกาสที่จะเกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ความกังวลเรื่องที่จะเห็นบริษัทหรือผู้มีรายได้สูงจ่ายภาษีเพิ่ม ก็ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลงมาเพียงเล็กน้อยแต่อยู่ใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1.1% หลังจากที่ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ แย่กว่าที่คาด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวลงแตะ 1.096%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 30 ปี ปรับลงมาที่ 1.838%
หัวหน้านักกลยุทธ์เรื่องอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ประจำ BMO Capital Markets มองว่า ข้อมูลเงินเฟ้อที่น่าผิดหวังจะเป็นตัวบังคับให้จำเป็นต้องมีการกระตุ้นทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี โดยภาพรวมยังปิดปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ที่ยังปิดเหนือ 1% หลังจากที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในช่วงที่เกิด Lockdown
ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นปิดตลาดที่ 0.55% ที่ระดับ 90.78 จุด
ค่าเงินยูโรปิดอ่อนค่าลง -0.55% ที่ 1.2089 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินปอนด์ ปิด -0.68% ที่ 1.3594 ดอลลาร์/ปอนด์
ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้น 0.03% ที่ 103.83 เยน/ดอลลาร์
Bitcoin ปิด -8.75% ที่ระดับ 35,710.80 เหรียญ
CIO และนักกลยุทธ์จาก Crossbridge Capital มองปอนด์มี “แรงซื้อแข็งแกร่ง” หากหลุด 1.3 ดอลลาร์/ปอนด์
ในระยะสั้นอาจเห็นเงินปอนด์อ่อนค่าลง แต่ก็ยิ่งตอกย้ำชัดเจนว่า หากเงินปอนด์ลงก็มีกลุ่มนักลงทุนที่รอช้อนซื้ออยู่ และคาดปีหน้าเงินปอนด์จะได้รับอานิสงส์จากการที่อังกฤษออกจากอียู
CIO จาก Crossbridge Capital คาดว่า ปีนี้ค่าเงินปอนด์อาจทรงตัวบริเวณ 1.36 หรือขึ้นไปแถว 1.40 ดอลลาร์/ปอนด์ได้ และมีโอกาสทะลุ 1.4 ดอลลาร์/ปอนด์ในปีหน้า (2022) โดยเป็นผลจากการออกจากอียูที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น
ที่มา: CNBC