นางเจเน็ต เยลเลน ผู้ถูกเลือกจากนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการให้เธอมาดำรงตำแหน่งสำคัญในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง
เมื่อคืนนี้ นางเยลเลน กล่าวกับ คณะกรรมาธิการกำกับดูแลด้านการเงินของวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยมีใจความสำคัญว่า รัฐบาลหรัฐฯต้องดำเนินการขนานใหญ่สำหรับแผนแพ็คเกจเยียวยา Covid-19 ฉบับต่อไป
เพราะไม่ว่าจะเป็นนายไบเดน หรือตัวเธอเองก็มองไปยังวัตถุประสงค์ของแผนโดยปราศจากความเหมาะสมในแง่ของระดับหนี้สินประเทศที่สูงขึ้น แต่ในเวลานี้การที่อัตราดอกเบี้ยก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ จึงเป็นเรื่องที่ชาญฉลาดในการผลักดันนโยบายครั้งใหญ่
ทั้งนี้ นางเยลเลนยังเชื่อมั่นว่า การดำเนินการดังกล่าวจะให้ประโยชน์ได้มากกว่า โดยเฉพาะหากเราสามารถช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวนานได้
นอกจากนี้ นางเยลเลน ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะต้องกลับมาฟื้นตัว จึงจะเป็นตัวสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนมากขึ้น และจะเป็นการการันตีว่าแรงงานสหรัฐฯสามารถแข่งขันกับเศรษฐกิจโลกที่มีการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นได้
ข้อเสนอแพ็คเกจสู้ Covid-19 ของนายไบเดนกว่า 1.9 ล้านล้านเหรียญ ประกอบด้วย
- แผนสนับสนุนการต่อสู้ไวรัสและการกระจายวัคซีน วงเงิน 4.15 แสนล้านเหรียญ
- การอัดฉีดเม็ดเงินโดยตรงแก่ภาคครัวเรือน วงเงิน 1 ล้านล้านเหรียญ
- การช่วยเหลือภาคธุรกิจขนาดเล็กและทางด้านสังคม วงเงิน 4.4 แสนล้านเหรียญ
ขณะเดียวกัน ชาวอเมริกาหลายๆคน ก็จะได้รับการจ่ายเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีก 1,400 เหรียญ จาก 600 เหรียญของแพ็คเกจก่อนหน้าในช่วงเดือนธ.ค.
ทางด้านการประกันคนว่างงานก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 400 เหรียญ จากระดับ 300 เหรียญต่อสัปดาห์ และจะขยายมาตรการนี้ออกไปถึงเดือนก.ย.
นายรอน ไวเดน สมาชิกวุฒิสภาพรรคเดโมแครต ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวุฒิสภาในเร็วๆนี้ หลังจากที่นายไบเดน และนางกอมมาลา เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันพุธนี้ กล่าวสนับสนุนและชื่นชมนางเยลเลนว่า ไม่คิดว่ามีใครจะเหมาะสมและมีคุณสมบัติเท่ากับการเลือก “นางเยลเลน” มาดำรงตำแหน่งสำคัญทางการคลังที่จะ “นำพาเศรษฐกิจประเทศฟื้นตัว” ซึ่งเราจะเห็นการสร้างโอกาสครั้งใหญ่จากแนวทางการดำเนินงานของเธอ และจะเห็นได้ว่าถ้อยแถลงของนางเยลเลนไม่ได้มีสิ่งใดที่จะเข้าสู่สภาวะเดียวกับยุค Great Recession โดยเราเห็นเพียงสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้ดังเดิม
ทั้งนี้ นางเจเน็ต เยลเลน จะมารับตำแหน่ง รัฐนมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คนต่อไปจากนายสตีเวน มนูชิน ในการเข้าพิธีสาบานตน และนายมนูชินก็จะลงจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้