ทองคำปรับขึ้นจากต่ำสุดรอบ 1 เดือนครึ่ง แม้ดอลลาร์จะอยู่ในทิศทางแข็งค่า
ราคาทองคำขยับขึ้นวานนี้ ท่ามกลางนักลงทุนที่ชะลอการซื้อขายและมีท่าทีระมัดระวังในช่วงวันหยุดของสหรัฐฯในวัน Martin Luther Kin Jr. Day โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ
ราคาทองคำมีแรงหนุนจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน แม้ว่าจะทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 1 เดือนครึ่งในช่วงต้นตลาดที่ได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์แข็งค่า
ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้นราว 0.3% ที่ 1,831.49 เหรียญ หลังเคลื่อนไหวปรับลงทำต่ำสุดแถว 2 ธ.ค. ที่ 1,809 เหรียญ
สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ทรงตัวบริเวณ 1,829.80 เหรียญ
· SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่ม โดยปัจจุบันถือครองที่ระดับ 1177.63
· บรรดา Hedge Funds ปิดสถานะ Long ในทองคำ จากดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้น
รายงานจาก CFTC ระบุว่า บรรดา Hedge Funds และกลุ่มนักลงทุนในทองคำมีสัญญาณการลดการถือครองทองคำในสถานะ Long ลง จึงเป็นอีกหนึ่งตัวที่กดดันราคาทองคำที่ปรับตัวลง ท่ามกลางดอลลาร์ที่แข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น
ข้อมูลการถือครอองสถานะในสัปดาห์ที่แล้วจาก CFTC พบว่า กลุ่มผู้จัดการกองทุนและนักเก็งกำไรมีการลดการถือครองสถานะ Long ในตลาด COMEX ลงประมาณ 36,039 คู่สัญญา ที่ระดับ 131,057 คู่สัญญา ในเวลาเดียวกันพบว่ามีการถือครองสถานะ Short เพิ่มขึ้น 2,296 คู่สัญญา สู่ระดับ 52,823 คู่สัญญา
นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Saxo Bank คาดว่า ทองคำได้รับแรงกดดันส่วนหนึ่งจากการลดสถานะ Long ของตลาด ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นเหนือ 1% และหนุนให้ดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น
ทองคำมีการลดสถานะ Long สุทธิลงราว 36% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ทำให้การถือครองสถานะ Long ปรับลงทำต่ำสุดนับตั้งแต่พ.ค. ปี 2019
· นักวิเคราะห์จาก Commerzbank กล่าวว่า นักลงทุนใน ETF มีมุมมองต่อราคาที่ปรับตัวลงเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อ และรายงานจาก Bloomberg เกี่ยวกับการถือครองทองคำของ ETF ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 17 ตันในวันศุกร์ ก็เป็นตัวที่สะท้อนได้ดีว่ายังมีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน SPDR ที่ถูกใช้เป็นมาตรวัดนักลงทุนสถาบัน
สำหรับการถือครองสถานะใน Silver Futures ของตลาด COMEX พบว่า มีการถือครองสถานะ Long ลดลงเช่นกันประมาณ 3,485 คู่สัญญา สู่ระดับ 69,805 คู่สัญญา และในเวลาเดียวกันพบว่ามีการเปิดสถานะ Short เพิ่มขึ้น 461 คู่สัญญา สู่ระดับ 27,861 คู่สัญญา ภาพรวมลดลง 8.5% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ซึ่งทำให้ภาพรวมการถือครองสถานะของซิลเวอร์นั้นอยู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ดี ถึงความต้องการซิลเวอร์จะลดลงแต่ราคาก็ยังยืนได้เหนือแนวรับ 25 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก Commerzbank อีกราย มองว่า แนวทางการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯในครั้งใหม่ ควบคู่กับการที่เฟดจะยังไม่เดินหน้าคุมเข้มทางการเงินยังเป็นปัจจัยที่จะหนุนให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อได้
นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด เองก็ยังคงกล่าวย้ำถึงช่วงเวลานี้ที่ยังไม่มีเหตุผลใดที่เฟดจะเปลี่ยนแปลงท่าทีการผ่อนคลายทางการเงิน ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อและการจ้างงาน
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์, ทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการมาของนางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯคนต่อไปที่อาจเผชิญกับข้อจำกัดในการผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงอาจกลายมาเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำได้
· นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures กล่าวว่า แม้คาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อจะมีโอกาสเพิ่มขึ้น จากการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แต่ทองคำก็อาจไม่ได้รับประโยชน์ เนื่องจากถูกอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯตัดหน้าในการปรับขึ้น และเป็นตัวกดดันทองคำแทน
· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้นได้ราว 0.5% ที่ระดับ 24.85 เหรียญวานนี้
· ราคาแพลทินัมปรับลง 0.1% ที่ 1,072.82 เหรียญ
· ราคาพลาเดียมปรับขึ้นประมาณ 0.1% ที่ระดับ 2,380.71 เหรียญ
· ดอลลาร์ทำสูงสุดรอบ 1 เดือน ท่ามกลางตลาดจับตานโยบายค่าเงินของนายไบเดน
ค่าเงินดอลลาร์วานนี้ปรับแข็งค่าขึ้นได้ 3 วันต่อเนื่อง และทำระดับสูงสุดรอบ 4 สัปดาห์ ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์เสี่ยที่ลดลง จึงกดดันความต้องการค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์ให้อ่อนค่าลง
ทั้งนี้ ถึงตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ แต่นายโจ ไบเดน ที่จะเข้าสู่พิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันพรุ่งนี้ ก็ดูจะทำให้ดอลลาร์ และค่าเงินหลักส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวในกรอบ และจับตาแนวทางการดำเนินนโยบายค่าเงินของทีมบริหารชุดใหม่ด้วยท่าทีระมัดระวัง
· น้ำมันปรับตัวลงจากกังวล Covid-19 และการแข็งค่าของดอลลาร์
น้ำมันดิบปรับอ่อนตัวลงโดย Brent อ่อนตัวลงมาประมาณ 23 เซนต์ หรือ -0.4% ที่ระดับ 54.87 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI อ่อนตัวลงมาประมาณ 19 เซนต์ หรือ -0.4% บริเวณ 52.17 เหรียญ/บาร์เรล
· นางเจเน็ต เยลเลน กล่าวกับ คณะกรรมาธิการกำกับดูแลด้านการเงินของวุฒิสภาสหรัฐฯ หนุน รัฐบาลหรัฐฯต้องดำเนินการขนานใหญ่สำหรับแผนแพ็คเกจเยียวยา Covid-19 ฉบับต่อไป
เพราะไม่ว่าจะเป็นนายไบเดน หรือตัวเธอเองก็มองไปยังวัตถุประสงค์ของแผนโดยปราศจากความเหมาะสมในแง่ของระดับหนี้สินประเทศที่สูงขึ้น เพราะการดำเนินการดังกล่าวจะให้ประโยชน์ได้มากกว่า และการที่อัตราดอกเบี้ยก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในเวลานี้ จึงเป็นเรื่องที่ชาญฉลาดในการผลักดันนโยบายครั้งใหญ่
· CORONAVIRUS UPDATES:
ภาพรวมทั่วโลกมียอดติดเชื้อสะสมใกล้ทะลุ 96 ล้านรายในเร็วๆนี้ โดยปัจจุบันมียอดสะสมที่ 95.97 ล้านราย ล่าสุดพบยอดติดเชื้อทั่วโลกรายวันวานนี้เพิ่มขึ้นกว่า 455,095 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตรวมสะสมอยู่ที่ระดับ 2.04 ล้านราย
สหรัฐฯครองแชมป์ติดเชื้อสูงสุดล่าสุดสะสมที่ 24.61 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตทะลุ 408,503 ราย
สำหรับฝรั่งเศสพบยอดติดเชื้อใกล้แตะ 3 ล้านราย โดยมียอดติดเชื้อรายวันที่ 3,736 ราย รวมสะสมที่ 2.91 ล้านราย
สถานการณ์ในฝั่งเอเชีย
- ญี่ปุ่นติดเชื้อสะสมล่าสุดที่ 328,294 ราย และมียอดเสียชีวิตรวม 5,998 ราย
- จีนยังมียอดติดเชื้อรายวันหลักร้อย โดยล่าสุดรวมสะสมที่ 88,336 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ติดเชื้อสะสมทะลุ 72,729 รายเป็นที่เรียบร้อย
ไทยมียอดติดเชื้อสะสมล่าสุดแตะ 12,423 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม คงที่ 70 ราย ขณะที่ล่าสุดพบบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลศิริราชติดเชื้อ Covid-19 เพิ่ม โดยที่ทางคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเตรียมแถลงวันนี้
"รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขไทย" ยันคุณภาพ "2วัคซีน กันโควิด-19" หวังเป็นตัวช่วยสู้ไวรัสได้เด็ดขาดภายใน1ปี
โดยนายสาธิต แจงที่ประชุมวุฒิสภา ต่อคุณภาพของ 2 วัคซีนป้องกันโควิด-19 ยันผ่านการทดสอบ เตรียมฉีดให้ประชาชน ย้ำวัคซีนคือตัวช่วยสู้ ไม่ใช่หยุดยั้งได้ทันที
ขณะที่รัฐบาลไทยเตรียมถก ‘แรงงาน’ หารเงินเดือนพนักงานท่องเที่ยว ‘คนละครึ่ง’ 7,500 บาท ยื้อธุรกิจ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานัดหารือกับกระทรวงแรงงาน เพื่อผลักดันแนวทางรัฐ-เอกชนแบ่งจ่ายเงินเดือนพนักงาน “คนละครึ่ง” ฝ่ายละ 7,500 บาท เพื่อรักษาการจ้างงาน ยื้อธุรกิจท่องเที่ยวให้พ้นวิกฤติ Covid-19
· ยอดติดเชื้อใหม่รายวันฝรั่งเศสพุ่งเกินต้านทำสูงสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ครึ่งเหนือ 18,270 ราย ขณะที่ผู้ป่วยที่เข้ารักษาอาการมีจำนวนเพิ่มขึ้น 2,800 ราย ครั้งแรกในรอบ 1 เดือน
จึงทำให้แตกต่างจากแนวทางการดำเนินนโยบายของอังกฤษ หรือเยอรมนี เนื่องด้วยรัฐบาลฝรั่งเศสมีการถอนนโยบาย Lockdown ครั้งที่ 3 แต่ยังคงการประกาศเคอร์ฟิวส์ไว้ที่เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00น. ของเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อชะลอการระบาดของไวรัส
อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์ยังคงเลวร้ายก็อาจมีผลให้รัฐบาลฝรั่งเศสเพิ่มมาตรการต่างๆตามความจำเป็นได้
· “ทรัมป์” ยกเลิกมาตรการคุมเข้มด้านการเดินทางจากเหตุ Covid-19 แก่ยุโรป, อังกฤษ, บราซิล โดยจะมีผลตั้งแต่ 26 ม.ค. นี้ เป็นต้นไป
· ยูโรโซนให้คำมั่นเดินหน้าหนุนมาตรการทางการเงินสู้ Covid-19 โดยจะร่วมกับแผนฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ
· ผู้อำนวยการ WHO ชี้ โลกกำลังเผชิญกับการขาดศีลธรรมรุนแรงจาก “การเข้าถึงวัคซีนอย่างไม่เป็นธรรม” ที่น่าจะสร้างความเสี่ยงอย่างมาก และควรมีการกระจายวัคซีนด้วยความเสมอภาค
ดังนั้น จึงไม่ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่วัยรุ่น และผู้สูงอายุ ในประเทศร่ำรวยจะได้รับวัคซีนก่อนกลุ่มบุคลากรทางด้านสุขภาพ หรือผู้สูงอายุในแถบประเทศที่ยากจน
อย่างไรก็ดี เชื่อว่า วัคซีนจะมีเพียงพอสำหรับทุกคน แต่ในเวลานี้ เราทุกคนต้องร่วมมือกันให้เป็นหนึ่งเดียว เพราะทุกประเทศต่างก็เผชิญกับสถานการณ์การระบาดและการเสียชีวิตจาก Covid-19 เช่นกัน
· ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ มอง “แนวโน้มเศรษฐกิจโลกเผชิญความไม่แน่นอนในระดับสูง” ประกอบกับความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศร่ำรวยและยากจนที่เห็นได้อย่างชัดเจน
· FBI กำลังสอบปากคำหญิงสาวที่ขโมยแล็บท็อปส์ของ นางแนนซี เพโลซี ในช่วงเกิดจลาจลอาคารรัฐสภาช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อขายต่อให้แก่รัสเซีย
· ไบเดน จะไม่ยกเลิกข้อจำกัด การเดินทางในยุโรปของบราซิล แม้จะมีคำสั่งของทรัมป์ก็ตาม
ฝ่ายบริหารของไบเดน จะไม่ยกเลิกการห้ามเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวจากยุโรป อังกฤษและบราซิล หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งยุติข้อจำกัดการเดินทางเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด
· ธนาคารกลางฝรั่งเศสปิดสถานการณ์ลงทุนในถ่านหิน ท่ามกลางราคาน้ำมันและแก๊สที่จำกัดการเพิ่มสถานะการลงทุนในพอร์ตฟอลิโอ พร้อมคาดอาจกระทบนานถึงปี 2024
ขณะที่ธนาคารกลางหลายแห่งดูจะเห็นพ้องกับแนวทางพลังงานสีเขียวมากขึ้น
· บริษัทน้ำมันและกลุ่มต่างๆ วางแผนกดดันทีมบริหาร “ไบเดน” เพื่อยอมให้เวเนซูเอลาแลกเปลี่ยนพลังงานเชื้อเพลิง
· แนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐฯไม่สดใส จากข้อกำหนดของทีมบริหารไบเดน
ภายใต้การดำเนินงานของนายไบเดนเป็นระยะเวลา 4 ปีจากนี้ อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเคลื่อนตัวไม่สดใสนักจากท่าทีที่จะคุมเข้มต่อการเปลี่ยนแปลงแนวทางกฎระเบียบต่อกลุ่มอุตสาหกรรมที่อาจมากขึ้นกว่าคาด
นายแกรี เกนเสลอร์ ที่จะมารับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ร่วมกับ นายโรฮิท โชพรา กับตำแหน่งประธานสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน (CFPB) ที่มีแนวทางที่แข็งกร้าวต่อหน่วยงานและการดำเนินนโยบายเป็นที่ตั้ง รวมทั้งแนวทางการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศและความยุติธรรมทางสังคม
· นักบริหารการเงิน มอง แนวโน้มเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 29.95-30.25 บาท/ดอลลาร์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนยังคงขายทำกำไรในสกุลเงินอื่นๆ แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯเริ่มทรงตัว ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 670 ล้านบาท แต่ขายพันธบัตร 4,500 ล้านบาท