• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 20 มกราคม 2564

    20 มกราคม 2564 | Gold News


ทองคำปรับขึ้นจากดอลลาร์อ่อนค่า นักลงทุนตอบรับมุมมองของเยลเลน

·         ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากดอลลาร์ที่ยังได้รับแรงกดดัน ประกอบกับตลาดตอบรับโอกาสที่จะเห็นการกระตุ้นทางเศรษฐกิจเพิ่มจึงทำให้เกิดความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย


·         ทองคำปรับขึ้น 0.2ที่ 1,840.38 เหรียญ ฟื้นตัวกลับจากที่ลงไปทำต่ำสุดบริเวณ 1,809 เหรียญโดยประมาณเมื่อวันจันทร์ ที่เป็นต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.


·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิด +0.6% ที่ระดับ 1,840.20 เหรียญ


 


·         SPDR เมื่อวานนี้ทำการขายออกมา 3.5 ตัน โดยปัจจุบันถือครองที่ระดับ 1,174.13


·         มูลค่าของดอลลาร์ในตลาดยังถูกกดดันจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดกล่าวยืนยันต่อหน้าคณะกรรมาธิการวุฒิสภาเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อหนุนเศรษฐกิจในช่วงที่เกิดวิกฤตเชิงลึกจากไวรัส


·         นักวิเคราะห์จาก TD Securities กล่าวว่า การอ่อนนค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำอยู่


·         นักวิเคราะห์จาก Circle Squared Alternative กล่าวว่า ตราบเท่าที่ตลาดหุ้นยังปรับตัวขึ้น ก็น่าจะทำให้ทองคำยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ และมีแนวโน้มจะเห็นการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ


·         ผู้อำนวยการที่ปรึกษาบริษัท AirGuide กล่าวว่า ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงจับตาการปรับขึ้นของตลาดหุ้น จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังค่อนข้างเปราะบางและมีความจำเป็นต้องพึ่งพามาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ


·         กลุ่มนักลงทุนรอคอย พิธีสาบานตนของนายไบเดน เพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 46 ในคืนนี้ ที่จะเป็นผู้นำอย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน (ตามเวลาไทย) เป็นต้นไป ท่ามกลางรัฐสภาที่มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นไม่ให้เกิดเหตุการรุนแรงเช่นเดียวกับวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา


·         ราคาซิลเวอร์ปิด -0.4ที่ 25.22 เหรียญ


·         ราคาแพลทินัมปิด +0.2% ที่ 1,081.40 เหรียญ


·         ราคาพลาเดียมปิด -0.2% ที่ 2,366.08 เหรียญ


·         นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ชี้ สหรัฐฯเอาอยู่หากมีการขึ้นภาษีบริษัท ถ้ามีการร่วมมือกับประเทศเศรษฐกิจอื่นๆทั่วโลก ตลอดจนการเจรจากับองค์การ OECD เพื่อหาทางยุติความเสียหายจากการแข่งขันด้านภาษีบริษัทในระดับโลก และเรามั่นใจว่าการดำเนินการเช่นนี้ จะทำให้การแข่งขันของบริษัทสัญชาติสหรัฐฯสามารถเผชิญกับระดับภาษีบริษัทที่สูงขึ้นได้

นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแนวคิดจะเพิ่มภาษีบริษัทให้สูงถึง 28% จากระดับ 21% หลังจากที่ในปี 2017 หรือยุคของนายทรัมป์ มีการลดภาษีจากระดับ 35% ซึ่งนายไบเดนแสดงความชัดเจนที่ไม่สนับสนุนกฎหมายภาษีดังกล่าวที่เอื้อประโยชน์แก่คนที่มีรายได้สูงและบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น


 

·         สรุป 5 เรื่องสำคัญที่ได้รับการยืนยันจากถ้อยแถลง “เยลเลน”

1. มีแนวโน้มปรับขึ้นภาษีสูงขึ้น แต่ไม่ใช่เวลานี้
2. “ฟื้นฟูสถานะทางการคลัง” แต่ยังไม่ใช่ในเวลานี้เช่นกัน
3. ยังมีท่าทีเข้มงวดต่อจีน
4. สนับสนุนค่าเงินดอลลาร์
5. สนับสนุนให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

 

·         CORONAVIRUS UPDATES:

 


ภาพรวมทั่วโลกมียอดติดเชื้อสะสมที่ 96.58 ล้านราย ล่าสุดพบยอดติดเชื้อทั่วโลกรายวันวานนี้เพิ่มขึ้นกว่า 573,072 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตรวมสะสมอยู่ที่ระดับ 2.06 ล้านราย

สหรัฐฯครองแชมป์ติดเชื้อสูงสุดล่าสุดสะสมที่ 24.79 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตทะลุ 162,518 ราย

 

สถานการณ์ในฝั่งเอเชีย

- ญี่ปุ่นติดเชื้อสะสมล่าสุดที่ 334,328 ราย และมียอดเสียชีวิตรวม 4,548 ราย

- จีนยังมียอดติดเชื้อรายวันหลักร้อย โดยล่าสุดรวมสะสมที่ 88,454 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ติดเชื้อสะสมทะลุ 73,115 รายเป็นที่เรียบร้อย

 

ภาพรวมประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงเหลือ 171 ราย ไม่มีตายเพิ่ม





สถานการณ์ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาครเริ่มคลี่คลาย ล่าสุดพบติดเชื้อเพิ่มเพียง 12 ราย คนไทย 8 ต่างด้าว 4 รักษาหายอีก 36


 

·         เยอรมนีค้นพบผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ ในกลุ่มผู้ป่วยของโรงพยาบาลในรัฐบาวาเรีย จำนวน 35 ราย

สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานการพบสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่สามารถระบุได้จำนวน 35 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 73 ราย

 

·         จีน Lockdown เพื่อยับยั้งการระบาด-ขวางการขนส่งเหล็กและแร่เหล็ก

การระบาดของเชื้อ Covid-19 ระลอกใหม่ในมณฑลเหอเป่ย ทำให้เกิดข้อจำกัดด้านการขนส่งในภูมิภาคที่ผลิตเหล็กรายใหญ่อีกครั้ง ทั้งนี้รัฐบาลจีนได้คุมเข้มล็อคดาวน์มณฑลเหอเป่ยรวมถึงพื้นที่โดยรอบของโรงงานเหล็กที่กระทบต่อกลุ่มผู้อุปโภคด้วย

ทั้งนี้ จีนถือเป็นผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของโลกและนักวิเคราะห์มองว่าเหอเป่ยมีส่วนช่วยในการผลิตเหล็กมากกว่า 20% ของผลผลิตทั้งหมดของประเทศ

 

·         CEO โรงพยาบาล NJ ชี้ อุปทานด้านวัคซีนไม่สอดคล้องกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการกระจายวัคซีน Covid ให้ทั่วถึง


 

·         ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด (CDC) ภายใต้การบริหารงานของนายไบเดน มีมุมมอง “เชิงบวก” ว่าวัคซีน Covid จะต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้

ดร.โรแชล วาเลนสกี้ ผู้ที่นายไบเดนเลือกมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ CDC คนใหม่ กล่าวถึง วัคซีน Covid-19 ในปัจจุบันว่าจะยังสามารถรับมือกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้เป็นอย่างดี แม้จะมีการพบผู้ติดเชื้อสายพันธ์ใหม่เพิ่มขึ้น และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรหากว่าไวรัสดังกล่าวจะมีการกลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วตามสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป  ขณะที่ประสิทธิภาพของวัคซีนที่ค้นพบในเวลานี้ ยังไม่พบว่าไร้ประสิทธิภาพต่อสายพันธุ์ใหม่ และภาพรวมวัคซีนของ Pfizer และ Moderna เป็นมีประสิทธิภาพจากการทดสอบพบว่าสูงถึง 95ในการต้านไวรัส Covid-19

 

·         โฆษกประจำตัวของทีมบริหารชุดใหม่ เผย “ไบเดน” ยันไม่ถอนมาตรการจำกัดการเดินทางยุโรป, บราซิล แม้ว่านายทรัมป์จะมีคำสั่งยกเลิกก็ตาม


 

·         บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ตั้งใจกระชับสัมพันธ์กับ “ไบเดน”


 

·         Youtube ขยายเวลาแบน “ทรัมป์” ออกไปอีก 1 สัปดาห์

 

·         ทรัมป์หาข้อจำกัดไซเบอร์ต่างประเทศในวันทำการสุดท้ายของตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ


 

·         “บลินคิน” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่สหรัฐฯ แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อการดำเนินนโยบายกับจีน พร้อมระบุเป้าหมายการดำเนินงานร่วมกับต่างชาติ จึงน่าจะสร้าง “ความท้าทาย” เพิ่มมากขึ้นแก่ รัสเซีย, จีน และอิหร่าน




 

นอกจากนี้ ยังเผยถึง สหรัฐฯจะปรับทบทวนแผนเกี่ยวกับ “เกาหลีเหนือ” อย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

 

·         ไบเดน ต้องการขยายเวลาสนธิสัญญาฉบับใหม่ New START (สนธิสัญญาการลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ฉบับใหม่) แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้ระยะเวลายาวนานเท่าไร

 

·         วุฒิสภาสหรัฐฯจับตาการแต่งตั้งว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ของนายไบเดนในวันที่ 26 ม.ค. โดยผู้ที่จะมารับตำแหน่งคือ นายจีนา ไรมอนโด ผู้ว่าการรัฐโรดไอส์แลนด์

 

·         ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กมีแผนจะปรับขึ้นภาษีคนรวยสูงสุดที่ 14.7% จึงอาจเป็นรัฐที่มีการเก็บภาษีเงินได้สูงที่สุดของประเทศ เพื่อให้มูลค่าจากการเก็บภาษีสูงขึ้นมาที่ 1.5 พันล้านเหรียญ ตามแผนงบประมาณปี 2022

แผนดังกล่าวเป็น 1 ในแผน 3 ข้อหลักสำคัญ

การเพิ่มรายได้

การลดค่าใช้จ่าย

การลดการกู้ยืม

อันเป็นผลจากรัฐนิวยอร์กที่ไม่สามารถจัดการกับยอดขาดดุลจำนวน 1.5 หมื่นล้านเหรียญได้

แผนการขึ้นภาษีจะเพิ่มขึ้นจาก 8.82% สู่ระดับ 10.86% และอาจเพิ่มเพดานเก็บภาษีคนรวยที่ 14.7%

 

·         รัฐบาลอิตาลีเลี่ยงภาวะล่มสลายได้ หลัง นายกิลเซปเป้ คอนติ รอดจากการลงมติไม่ไว้ใจวางใจ

 

·         ผู้เชี่ยวชาญบางส่วน ชี้ ข้อตกลงจีน-อียู หนุนการดำเนินเป้าหมายด้านการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลกของจีน แต่ลดการพึ่งพาสหรัฐฯ

 

·         Eurasia กล่าวว่า จีนย้ายการลงทุนจากถ่านหิน อาจช่วยหนุนราคาแก๊สธรรมชาติให้ปรับตัวสูงขึ้น


·         กลุ่มนักลงทุน มอง Bitcoin และหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ตกอยู่ในสภาวะฟองสบู่ครั้งใหญ่ของตลาด

ผลสำรวจของ Deutsche Bank พบว่า นักลงทุนโดยส่วนมหญ่กว่า 89% คิดว่าตลาดการเงินกำลังอยู่ในสภาวะฟองสบู่ ที่ดูเหมือน Bitcoin จะเลวร้ายสุด จากอันดันดับ 1-10 พบว่ามีมุมมองอันตรายถึงระดับ 10

อย่างไรก็ดี นักลงทุนมอง Bitcoin และ Tesla มีแนวโน้มที่มูลค่าจะปรับตัวลงไปกว่าครึ่งในอีก 12 เดือนข้างหน้า


·         นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 29.90-30.15 บาท/ดอลลาร์


 

·         รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทย ประเมินว่า เม็ดเงินจากการใช้จ่ายของประชาชนในโครงการคนละครึ่ง เฟส 1-2 และโครงการเราชนะ จะช่วยให้มีเงินลงไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้ให้เพิ่มขึ้นอีก1% จากที่เคยประมาณการณ์ไว้ พร้อมมองว่าในระหว่างที่ประเทศไทยขาดรายได้หลักจากการท่องเที่ยว จึงต้องให้การบริโภคในประเทศเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

 

·         ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทย สมาคมธนาคารไทยและธนาคารพาณิชย์ ตระหนักถึงผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ลูกค้า และประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงพร้อมออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น ตามแนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)คือ 1.ขยายเวลาให้ลูกหนี้รายย่อยสมัครรับความช่วยเหลือได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.64 จากเดิมที่ครบกำหนด 31 ธ.ค.63 2.เปิดให้นายจ้างหรือเจ้าของกิจการสมัครขอรับความช่วยเหลือแทนลูกจ้างหรือพนักงานที่เป็นลูกหนี้ธนาคารได้ โดยต้องได้รับความยินยอมจากลูกหนี้ที่เป็นพนักงานหรือลูกจ้าง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com