• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 21 มกราคม 2564

    21 มกราคม 2564 | Gold News




ทองปรับขึ้นมากกว่า 1 % ต้อนรับการมาของนายไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46

 

·         ราคาทองคำปรับมากกว่า 1 % ในวานนี้ โดยได้รับอานิสงค์คณะรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากนายโจ ไบเดน เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการและการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของ นางเจเน็ต เยลเลน ที่ช่วยหนุนแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจเยียวยาโควิด ซึ่งมีมูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญ พร้อมทั้งการกระจายวัคซีนโควิด

 

·         ราคาตลาดทองคำ ปิด+1.6% ที่ 1,868.00 เหรียญต่อออนซ์ โดยปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้

·         สัญญาทองคำ ปิด+1.4% ที่ 1,866.50 เหรียญ

 

·         หัวหน้านักวิเคราะห์ BMO เผยว่าแม้ว่าการมาด้วยมิตรไมตรีจิต ของ ไบเดน นักลงทุนอาจยังมีความสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของไบเดน จะดำเนินตามอดีตประธานาธิบดีคนก่อนๆ หรือไม่ โดยทั้งนี้ ทองคำกลับมายืนเหนือค่าเฉลี่ย ที่ 1,860-1,900 เหรียญ

 

·         นักกลยุทธ์ RJO เผยว่า ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นางเจเน็ต เยลเลน ได้มุ่งเน้นความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจเยียวยาโควิดขนานใหญ่เพิ่ม และอาจดำเนินเป็นอันดับแรก รวมถึงการขึ้นภาษีในกลุ่มบริษัทด้วย

 

·         นักเศรษฐศาสตร์ OCBC เผยว่า ทองคำอาจปรับสูงแตะที่ระดับ 2000 เหรียญ ในช่วงกลางไตรมาส 2 เนื่องประชากรได้รับการฉีดวัคซีนในจำนวนที่เพิ่มขึ้น และอาจถือครองเงินสดกันมากขึ้นในระบบ ทำให้อุปสงค์การอาจกลับมาเท่าเดิม

 

·         ซิลเวอร์ ปิด+2.2% ที่ระดับ 25.75 เหรียญต่อออนซ์

·         แพลตตินั่ม ปิด+2.3% ที่ระดับ 1,108.05 เหรียญต่อออนซ์

·         พาลาเดียม ปิด+1.1% ที่ระดับ 2378.37 เหรียญต่อออนซ์

 

·         ไบเดน” ปฏิญาณตนในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ย้ำ ประชาธิปไตยจงเจริญ!

 




นายโจเซฟ โรบิเนต ไบเดน จูเนียร์ วัย 78 กลายมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46  ที่ได้รับการถ่ายโอนอำนาจที่น่ากลัวมากที่สุดครั้งประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ภายใต้การระบาดของไวรัสโคโรนาในเวลานี้ด้วย

 

 

·         บทบาทแรก ไบเดน” ลงนามคำสั่งใส่หน้ากากอนามัยและยุติการสร้างกำแพงพรมแดน





·         นายไบเดนจะกลับสู่ข้อตกลงสภาพภูมิอากาศของฝรั่งเศส และจะใช้คำสั่งอนุมัติฉุกเฉินครั้งแรกในการยกเลิกคำสั่งของนายทรัมป์เกี่ยวกับการแบนชาติมุสลิม

 

สมาชิกอาวุโสในทีมนโยบายของนายไบเดน เปิดเผยว่า หลังนายไบเดน ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯน่าจะเกิดการลงนามคำสั่งฉุกเฉินกว่า 12 ฉบับ ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้นจากวิกฤต Covid-19 และวิกฤตหนีเการศึกษา และภาพรวมดูเหมือนจะมีการลงนามคำสั่งที่สวนกับแนวทางที่นายทรัมป์วางไว้ พร้อมๆกับการยกเลิกก่อสร้างกำแพงพรมแดนที่ยาวที่สุดทางพรมแดนตอนใต้ของสหรัฐฯ

 

·         ทีมบริหารไบเดนมีกำหนดแถลงข่าวสั้นๆ หลังไบเดนลงนามคำสั่งฉุกเฉิน

 

·         เฟดภายใต้การบริหารงานของไบเดนจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทำเนียบขาวมากขึ้น และเผชิญความท้าทายครั้งใหม่ด้วยกัน




เจ้าหน้าที่ทางการเงินและประธานจาก Whaleb Global Advosors กล่าวว่า เฟดที่ดำเนินงานภายใต้การบริหารประเทศของนายไบเดนที่มีแนวโน้มจะผลักดันและมุ่งเน้นเรื่องความเหลื่อมล้ำกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางเดียวกับที่เฟดต้องการจะทำและจะเสริมให้เฟดมีอำนาจมากขึ้นที่จะทำได้ จึงน่าจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย

 

·         จีนเอาจริง คว่ำบาตร” สมาชิกอดีตทีมบริหารทรัมป์หลังจากที่นายไบเดนสาบานตนรับตำแหน่ง

 

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน  เปิดเผยถึงรายละเอียดที่ทางการจีนมีการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รวมทั้งสิ้น 28 ราย นำโดย 

นายไมค์ ปอมเปโอ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ,  

นายโรเบิร์ต โอเบรียน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคง,

นายปีเตอร์ นาวาโร อดีตที่ปรึกษาทางการค้า เป็นต้น

 

ทั้งนี้ ทางการจีนระบุถึงช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่เจ้าหน้าที่ทางการเมืองของจีนถูกคว่ำบาตรจากทางสหรัฐฯอย่างเป็นการเห็นแก่ตัว โดยปราศจากการคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนสหรัฐฯและจีนเป็นสำคัญ รวมทั้งสร้างรอยร้าวระหว่างสองประเทศจากข้อพิพาทต่างๆของสหรัฐฯ-จีน

 

 

 

·         สหรัฐฯกลับมาแล้ว” ยุโรปเฮ! ทรัมป์ไป-ไบเดนมา

 

นางเออซูลาร์ วง เดอ เลอยง ประธานคณะกรรมาธิการอียู กล่าวว่า การมาของนายไบเดนถือเป็น ข่าวดี” กับการกลับมาของสหรัฐฯ และยุโรปพร้อมเคียงข้างกับการกลับมาสานสัมพันธ์และเชื่อใจต่อคู่ค้า ที่อาจช่วยสมานรอยร้าวระหว่างประเทศ 

 

อย่างไรก็ดี สหรัฐฯและอียูยังมีโอกาสที่จะเชื่อมความสัมพันธ์กับนานาประเทศในเรื่องการค้าและการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ

 

 

 

·         จีนประกาศคุมเข้ม Covid-19 และมีการสั่ง Shutdown สถานีรถไฟใต้ดิน หลังพบยอดติดเชื้อรายวันใหม่เพิ่มมากขึ้นในรอบกว่า สัปดาห์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ดูจะย่ำแย่ก่อนเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน

 

 

 

·         เยอรมนีประกาศขยาย Lockdown ในกลุ่มร้านค้าและสถานศึกษาถึง 14 ก.พ.

 

 

 

·         วัคซีนบริษัท Pfizer-BioNTech มีประสิทธิภาพในดารต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกพบในอังกฤษ

 



·         ภาพรวมทั่วโลกมียอดติดเชื้อสะสมที่ 97.26 ล้านราย ล่าสุดพบยอดติดเชื้อทั่วโลกรายวันวานนี้เพิ่มขึ้นกว่า 656,446 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตรวมสะสมอยู่ที่ระดับ 2.08 ล้านราย

 

สหรัฐฯครองแชมป์ติดเชื้อสูงสุดล่าสุดสะสมที่ 24.98 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตทะลุ 415,530 ราย

 

 




สถานการณ์ในฝั่งเอเชีย

 

ญี่ปุ่นติดเชื้อสะสมล่าสุดที่ 339,774 ราย และมียอดเสียชีวิตรวม 4,647 ราย

 

จีนยังมียอดติดเชื้อรายวันหลักร้อย โดยล่าสุดรวมสะสมที่ 88,557 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ติดเชื้อสะสมทะลุ 73,518 รายเป็นที่เรียบร้อย

 

ภาพรวมโควิดในไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 59 ราย ยอดป่วยยืนยันสะสม 12,653 ราย  ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมมีผู้เสียชีวิต 71 ศพ

โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดนี้  เป็นผู้หญิง อายุ 48 ปี เป็นคนขับรถรับส่ง เพื่อนบ้านชาวเมียนมา ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ขณะนี้ มีจังหวัดพบผู้ติดเชื้อแล้ว 62 จังหวัด ล่าสุด คือ จ.นครพนม


 

·         ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด วันนี้ (20 ม.ค.) เพิ่มอีก 59 ราย รวมป่วยสะสม 12,653 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน เป็นคนขับรถรับส่งคนเมียนมา จังหวัดติดเชื้อเพิ่มเป็น 62 จังหวัด ห่วงผู้ป่วยรายใหม่ส่วนใหญ่ ไม่มีอาการ

 




 

วันที่ 20 มกราคม 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์  ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 59 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 51 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 12,653 ราย หายป่วยแล้ว 9,621 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม คน เป็นหญิงไทยอายุ 49 ปี  เป็นคนขับรถส่งแรงงานเมียนมาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก รวมเสียชีวิตสะสม 71 คน

 

 

·         สายการบิน United Airlines ขาดทุนต่อในไตรมาส 4/2020 ซึ่งผลกำไรดิ่งกว่า 69% เมื่อเทียบกับปีก่อน และน่าจะกระทบต่อถึงช่วงต้นปี 2021 พร้อมกล่าวเตือนถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกหลายเดือนจากไวรัสโคโรนา 

 

ผลประกอบการต่อหุ้น (EPS) ร่วงลง เหรียญ สูงกว่าที่คาดไว้ 6.6 เหรียญ

 

ผลกำไรออกมา 3.41 พันล้านเหรียญ จากที่คาดไว้ 3.44 พันล้านเหรียญ 

 

 

·         นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 29.85-30.05 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตลาดจับตาประเด็นที่นางเจนเน็ต เยลเลน ว่าที่ รมว.คลังสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้สภา คองเกรสเร่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญที่นำเสนอโดยนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.63 อยู่ที่ระดับ 85.8 ปรับตัวลดลงจากระดับ 87.4 ในเดือนพ.ย.63 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน โดยมีปัจจัยลบจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ที่มีความรุนแรงกว่ารอบแรก และขยายวงกว้างไปในหลายจังหวัด

 

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ตั้งเป้ายอดการผลิตรถยนต์ในปี 2564 ประมาณ 1,500,000 คัน เพิ่มขึ้น 73,030 คัน จากปี 2563 ที่มีจำนวน 1,426,970 คัน หรือเพิ่มขึ้น 5.12% โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 750,000 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 750,000 คัน

 

ธนาคารโลก ระบุว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 4% ในปีนี้ และ 4.7% ในปีหน้า โดยได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ และการใช้นโยบายด้านการคลังของรัฐบาล

อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกเตือนว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน อันเนื่องจากความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในประเทศ



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com