• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 22 มกราคม 2564

    22 มกราคม 2564 | Economic News
  

·         ดอลลาร์ไปต่อไม่ไหว จากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น

 

ดอลลาร์มีแนวโน้มปิดสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดของปี จากกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับการมาของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มาหนุนให้เกิดความต้องการค่าเงินในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับแนวโน้มการฟื้นตัวจากการระบาดของไวรัสก็ดูเหมือนจะเป็นตัวกดดันดอลลาร์ด้วย

 

ดัชนีดอลลาร์สัปดาห์นี้ส่อแววอ่อนค่าหนัก ขณะที่ในตลาดเอเชียวันนี้ทรงตัวบริเวณ 90.075 จุด

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าได้เกือบ 0.8% ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางยูโรที่ไปทำแข็งค่ามากสุดรอบกว่า 1 สัปดาห์บริเวณ 1.2173 ดอลลาร์/ยูโรในการซื้อขายตลาดเอเชียเช้านี้

 

ค่าเงินในแถบสแกดิเนเวียร์ปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

ค่าเงินคราวน์ ของนอร์เวย์ ที่แข็งค่าขึ้น 1.8% ในสัปดาห์นี้ จากการที่ธนาคารกลางนอร์เวย์ ตัดสินใจคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมนัดล่าสุด

ค่าเงินคราวน์ ของสวีเดน ก็แข้งค่าขึ้นได้ 1.4% ในสัปดาห์นี้

 

ค่าเงินออสสเตรเลียดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นได้ประมาณ 0.8% และค่าเงินกีวีก็มีแนวโน้มปรับแข็งค่าได้ราว 1% ในสัปดาห์นี้เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์เช่นกัน

 

ค่าเงินปอนด์แข็งค่าทำสูงสุดรอบ 2 ปีครึ่งแตะ 1.3745 ดอลลาร์/ปอนด์ จากความหวังที่จะเห็นการกระจายวัคซีนในประเทศได้มากขึ้นที่จะนำมาซึ่งการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่สัปดาห์นี้คาดปรับขึ้นได้ประมาณ 1%

 

ความเชื่อมั่นของนักลงทุน "เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของตลาด" 

 

ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 103.58 เยน/ดอลลาร์ สัปดาห์นี้แข็งค่าได้ประมาณ 0.3%

 

แรงเทขายอย่างหนักใน Bitcoin ทำให้วันนี้อ่อนตัวแล้วกว่า 5% ในตลาดเอเชีย ทำต่ำสุดรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่ 28,800 เหรียญ

 

ในคืนนี้ตลาดให้คามสำคัญกับตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐฯ นำโดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่หากอ่อนแอกว่าที่คาดก็น่าจะมีผลจากการระบาดรอบใหม่ที่ทำให้เกิดการ Lockdown และกระทบการเติบโตของประเทศ

 

·         Bitcoin ปรับลงต่อ มุ่งทำสัปดาห์ที่แย่ที่สุดตั้งแต่มี.ค. ปี 2020

 

โดยวันนี้ Bitcoin ปรับตัวลงอย่างหนัก ทำภาพรวมรายสัปดาห์แย่ที่สุดตั้งแต่เดือนมี.ค. จากความกังวลด้านเทคโนโลยีและข้อกำหนด จึงทำให้เกิดแรงเทขายเข้ามาหลังจากที่ราคาทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยวันนี้ปรับลงมากกว่า 5% ทำต่ำสุดของสัปดาห์ที่ 28,800 เหรียญในตลาดเอเชีย ก่อนที่จะทรงตัวบริเวณ 30,000 เหรียญ

 

สัปดาห์นี้ปรับตัวลดลงราว 15%  ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่ภาพรายสัปดาห์เคยร่วงลงไปกว่า 33% ในเดือนมี.ค. ปีที่แล้ว

 

บรรดาเทรดเดอร์ มองว่า รายงานจาก Twitter ของสถาบัน BitMEX Research บ่งชี้ว่า ส่วนหนึ่งที่ Bitcoin ร่วงลงมาจากแนวโน้มที่อาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่า เท่า จึงบั่นทอนความเชื่อมั่นในกลุ่มเทคโนโลยี และเกิดแรงเทขายตามมาหลังจากที่ฟื้นตัว

 

·         บริษัท Johnson & Johnson วางแผนแจกจ่ายวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดสแก่ชาวสหรัฐฯ ก่อนฤดูใบไม้ผลิ

 

ดร. มาร์ค แมคเคลแลน ตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการของ Johnson & Johnson เผยว่า หากวัคซีนผ่านการทดสอบ บริษัทสามารถพร้อมแจกจ่ายวัคซีนได้จำนวนมากภายในเร็วๆนี้ 

 

ทั้งนี้อดีตคณะกรรมการองค์กรอาหารและยา ระบุเพิ่มเติมว่า บริษัท Johnson & Johnson กำลังมองหาผู้จัดหาวัคซีนจำนวนมาก จากในสหรัฐฯ และทั่วโลก โดยมีเป้าหมายที่จะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับชาวสหรัฐฯ 100 ล้านคนภายในฤดูใบไม้ผลิภายในเดือนเม.ย.นี้

 

·         วัคซีน Sputnik V ซึ่งเป็นวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาที่ผลิตโดยรัสเซีย ได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉินแล้วในฮังการี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งถือเป็นชาติแรกในอียู และกลุ่มอ่าวอาหรับตามลำดับ

 

โดยนายวิคเตอร์ ออร์แบน ประธานาธิบดีฮังการี ยืนยันว่า รัฐบาลได้อนุญาตให้ใช้วัคซีนดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉิน โดยหากฮังการีลงนามในข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนจากรัสเซีย ก็จะทำให้ฮังการีเป็นชาติแรกในอียูที่ได้รับวัคซีนนี้

 

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในฮังการีเริ่มลดลงจากระดับสูงสุดที่มากกว่า 6,000 ราย/วันในช่วงต้นเดือนธ.ค. มาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2,000 ราย/วัน

 

·         วัคซีน Sputnik ได้รับอนุมัติฉุกเฉินในอียู และสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์

 

·         รายงานจากหนังสือพิมพ์  South China Morning Post ระบุว่า รัฐบาลฮ่องกงเตรียม Lockdown พื้นที่บางส่วนในเขตเกาลูนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งรวมถึงย่านเยาซิมหมงและซัมซุยโปที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

 

·         ศบค. ผู้ติดเชื้อวันนี้ (22) เพิ่มพรวดอีก 309 ราย ยอดสะสมพุ่ง 13,104 คน


ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด วันนี้ (21 ม.ค.) เพิ่มอีก 309 ราย ติดเชื้อสะสม 13,104 ราย หมอทวีศิลป์เผยเตรียมเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด หลังเป็นสัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ประกาศข่าว NBT

 

·         ระวัง! ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ของจีนที่ยังไม่มีวัคซีนตัวใดได้รับอนุญาตในการใช้รักษา ขณะที่สายพันธุ์ใหม่นี้ถูกพบในฟาร์มสุกรของจีนที่น่าจะมีสาเหตุมาจากการใช้วัคซีนที่ผิดกฎหมาย และจีนถือเป็นประเทศที่เป็นฟาร์มหมูรายใหญ่ที่สุดของโลกที่สามารถฟื้นตัวจากการระบาดของไวรัสโคโรนาได้หลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก

 

·         Jim Cramer ชี้ ความร้อนแรงของตลาดแรงงานเป็นเพียงการฟื้นตัว ไม่ได้สร้างความร้อนแรงเกินไปสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

·         ทีมบริหารไบเดนหารือแนวทาง "เข้มงวดต่อจีน" ท่ามกลางสัญญาณที่สะท้อนว่าการดำเนินนโยบายไม่ได้แตกต่างจากยุคของนายทรัมป์

 

·         ไบเดนหาวิธีขยายสนธิสัญญา New START หรือสนธิสัญญาลดอาวุธยุทธศาสตร์ฉบับใหม่เป็นเวลา ปี กับทางรัสเซีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายหลักเกี่ยวกับการต่างประเทศของทีมบริหารชุดใหม่ โดยที่ข้อตกลงดังกล่าวกำลังจะหมดอายุลงในช่วงต้นเดือนก.พ.

 

·         นายกฯ อังกฤษ ชี้ ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าการ Lockdown ในอังกฤษจะสิ้นสุดลง

 

 

 

·         กิจกรรมภาคธุรกิจยูโรโซนหดตัวลงอีกครั้ง จากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก่อให้เกิดการ Lockdown เพิ่มมากขึ้น

 

สถาบัน Markit เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการขั้นต้นของยูโรโซน พบว่าร่วงลงแตะ 47.5 จุด จากข้อมูลเดือนก่อนที่ลดลงประมาณ 49.1 จุด  และข้อมูลที่อยู่ต่ำกว่า 50 จุดส่งสัญญาณหดตัว

 

·         JPMorgan กล่าวในการประชุมนโยบายของธนาคารกลางตุรกีว่า

 

มีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในไตรมาสที่สามมากกว่าไตรมาสที่สอง

พร้อมทั้ง ตอกย้ำถึงการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดที่จะขยายตัวต่อไป ชี้ว่า บรรดาธนาคารกลางยังไม่เชื่อมั่นในเป้าหมายเงินเฟ้อว่าจะเพิ่มขึ้นเพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้เพิ่มสูงขึ้นได้

 

·         ผลการสำรวจจาก Reuters เผย การผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นประจำเดือนธ.ค.มีแนวโน้มที่จะลดลงอีกครั้งและคาดว่ายอดค้าปลีกจะลดลงเช่นกัน ซึ่งตอกย้ำความกังวลว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆนี้อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง

 

โดยคาดว่าผลผลิตโรงงานของประเทศเดือนธ.ค.จะลดลง 1.5% เมื่อเทียบจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการลดลง 0.5% ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

 

·         ดัชนีราคาผู้บริโภคญี่ปุ่นปรับตัวลดลงเร็วสุดในรอบกว่า 10 ปี จึงยิ่งเพิ่มความกังวลเรื่องภาวะเงินฝืด โดยในเดือนธ.ค. ดัชนี CPI ปรับลงมาแตะ 1.0% เมื่อเทียบปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในรอบกว่าทศวรรษ ส่งสัญญาณความกังวลด้านเงินฝืด และจะกดดันให้บีโอเจต้องหาวิธีเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับผลกระทบเชิงลึกของการระบาดของไวรัสโคโรนา

 

การปรับตัวลดลงล่าสุดเรียกได้ว่าแย่สุดตั้งแต่ก.ย. ปี 2010 ที่ทำให้บีโอเจต้องพิจารณาถึงภาวะเงินฝืดและการแข็งค่าของเงินเยนที่จะมีผลต่อการส่งออกที่เป็นปัจจัยที่แข็งแกร่งของประเทศ

 

·         ญี่ปุ่นยันจัดกีฬาโอลิปิกตามกำหนดการ ปฏิเสธรายงาน "ยกเลิก" การจัดงานก่อนหน้า

 

·         บรรดาผู้นำตะวันออกกลางชื่นชมแคมเปญกดดันอิหร่านของนายทรัมป์ ก่อนที่ นายโจ ไบเดน จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยทาง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เผยว่า จะดำเนินการด้วยวิธี "กดดัน" อิหร่านขั้นสูงสุด ตามนโยบายของนายทรัมป์ที่มุ่งบังคับให้รัฐบาลอิหร่านยุติกิจกรรมนิวเคลียร์และไม่ให้เกิดการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในตะวันออกกลาง

 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอิสราเอล กล่าวเพิ่มเติมว่า แคมเปญนี้ได้ผลเป็นอย่างมาก ขณะที่รองนายกเทศมนตรีของเยรูซาเล็ม มองว่าแค่บางส่วนเท่านั้นที่ได้ผล

 

อย่างไรก็ตาม นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ถูกคาดว่าจะสานสัมพันธ์ทางการทูตในลักษณะที่ตรงกันข้ามกับ นายทรัมป์ ซึ่งใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างหนักต่ออิหร่าน หลังถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2015

 

·         ผู้นำสูงสุดอิหร่านมีการโพสต์ภาพนักกอล์ฟรายหนึ่งที่มีส่วนละม้ายคล้ายนายทรัมป์ พร้อมลั่นว่าจะทำการ "แก้แค้น" หลังจากที่นายทหารระดับสูงของประเทศถูกสังหารด้วยโดรนของสหรัฐฯในยุคของนายทรัมป์นั่นเอง

 

·         น้ำมันดิบปรับตัวลง  จากยอดระบาดที่เพิ่มขึ้นในจีนก่อให้เกิด Lockdown

 

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงในวันนี้ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วขึ้นไปทำสูงสุดรอบ 11 เดือน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการจำกัดการระบาดที่เข้มงวดรอบใหม่ของจีน ที่จะเป็นตัวจำกัดความต้องการพลังงานเชื้อเพลิงของประเทศจีน ที่ถือเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับลง 53 เซนต์ หรือ -1% ที่ 52.60 เหรียญ/บาร์เรล  หลังจากเมื่อคืนนี้ปิดลงราว 18 เซนต์

 

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับลง 45 เซนต์ หรือ -0.8% ที่ 55.65 เหรียญ/บาร์เรล หลังวานนี้ปิดปรับขึ้นประมาณ 2 เซนต์

 

ปัจจัยหนุนตลาดในช่วงแรกมาจากการที่อุปสงค์นำมันในจีนมีการฟื้นตัวในช่วงปลายปีที่แล้ว  ขณะที่สหรัฐฯและยุโรปตลาดน้ำมันยังคงชะลอตัว

 

แต่ความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนกำลังจะหายไปเนื่องจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโคโรนาได้ส่งผลจีนเกิดการใช้มาตรการคุมเข้มรอบใหม่เพื่อสกัดกั้นการระบาด

 

หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Axi มองว่า ยอดระบาดในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อการลงทุนในระยะสั้นๆ และจะบั่นทอนกับแนวโน้มการปรับขึ้นของราคาน้ำมันในระยะยาวด้วย  เนื่องจากทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมัน โดยเฉพาะเมื่อศูนย์กลางทางการเงินอย่างเซี่ยงไฮ้พบรายงานยอดติดเชื้อครั้งแรกในรอบ 2 เดือน จึงทำให้ปักกิ่งเรียกร้องให้ประชาชนงดการเดินทางในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

 

สถาบันที่ปรึกษา FGE ระบุว่า  เทศกาลตรุษจีนถือเป็นช่วงที่สนับสนุนอุปสงค์ด้านแก๊สโซลีนภายในประเทศจีนอย่างมาก แต่ก็อาจได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการคุมเข้มในปีนี้ได้

 

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงรอคอยข้อมูลสต็อกน้ำมันอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯจาก EIA ในวันนี้ หลังจากข้อมูลอุตสาหกรรม (API) เมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเทียบกับคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล

 

·         อุปสงค์พลังงานเชื้อเพลงในอินเดียเพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. เป็นครั้งแรกเมื่อเทียบรายปี

ซึ่งมีการปรับตัวสูงขึ้นมากสุดตั้งแต่ช่วงก.พ. ปี 2020 จากทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังยอดติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศอ่อนตัวลง

 

ความต้องการน้ำมันดิบในเดือนธ.ค. ปรับขึ้น 0.9% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 21.02 ล้านตัน (4.97 ล้านบาร์เรล/วัน) โดยการปรับขึ้นหลักๆมาจากการอุปโภคบริโภคเดือนดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นมาราว 4.1% ที่ระดับ 18.6 ล้านตัน จึงถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ม.ค. ปี 2020


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com