ในคืนวันศุกร์ ดัชนี S&P500 ปิดปรับลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปิด -0.3% ที่ 3,841.47 จุด
ดัชนี Nasdaq ยังได้รับแรงหนุนหลักจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่จึงยังปิดทำ All-Time High ได้ และปิดตลาด +0.1% ทำระดับปิดสูงสุดประวัติการณ์ที่ 13,543.06 จุด
ดัชนี Dow Jones ปิด -179.03 จุด หรือ -0.6% ที่ 30,996.98 จุด โดยตลาดถูกกดดันจากหุ้นบริษัท IBM ปิดร่วง 9.9% หลังผลประกอบการบริษัทออกมาแย่กว่าคาดที่ระดับ -6% ทำให้ผลประกอบการ Q4/2020 ยังไม่สดใส ด้านหุ้น Intel ทรุด -9.3% หลังปรับขึ้น 6% ในวันก่อนหน้าที่ขานรับกับรายงานผลประกอบการ
ความหวังเกี่ยวกับรายงานผลประกอบการบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ และเทคโนโลยีดูจะช่วยหนุนนตลาดหุ้นให้ปิดสัปดาห์แดนบวกได้ แม้จะมีวันหยุด Martin Luther King Jr. Day ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยที่ดัชนี Nasdaq ปิดสัปดาห์ +4.2%, ดัชนี S&P500 ปิด +1.9% และดัชนี Dow Jones ปิด +0.6%
หุ้นบริษัท Apple ปิด +1.6% ในคืนวันศุกร์ และหนุนให้รายสัปดาห์ปิดพุ่งกว่า +9.4% ขณะที่หุ้น Facebook ปิดสัปดาห์ +9.2% และหุ้น Microsoft ปิด +6.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เหล่านี้ มีกำหนดการเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้
กลุ่มนักลงทุนมีการประเมินแนวโน้มทีมบริหารของไบเดนเกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19 อีกครั้ง เนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่ค่อนข้างแสดงความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความจำเป็นของมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะการตั้งวงเงินสูงถึง 1.9 ล้านล้านเหรียญ
ขณะเดียวกัน นายโจ แมนชิน สมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์แผนดังกล่าวเช่นกัน ดังนั้น ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยกดดันสำหรับนายไบเดนมากขึ้น แม้ว่าจะได้รับเสียงข้างมากทั้งสองสภาก็ตาม
รายงานจาก Sevens Report ระบุว่า ภาวะความเป็นจริงทางการเมืองในสหรัฐฯเริ่มมีผลกระทบต่อตลาด และดูจะเห็น “ความยากลำบาก” ที่ชัดเจนขึ้น ในการผลักดันให้ร่างกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเดโมแครตให้กลายมาเป็นข้อกฎหมาย
สำหรับดัชนี S&P500 มีการปรับขึ้นราว 2.3% ในปีนี้ โดยกลุ่มนักลงทุนบางส่วนเชื่อว่า ตลาดอาจได้รับผลกระทบจากการกระจายวัคซีนที่เผชิญอุปสรรคและกระทบต่อการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจต่อไป
อย่างไรก็ดี คณะกรรมาธิการกำกับดูแลทางการเงินของวุฒิสภาสหรัฐฯประกาศยืนยันสนับสนุนให้ นางเจเน็ต เยลเลน ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภายใต้การบริหารงานของนายไบเดน ทำให้เธอกลายเป็นผู้นำทางการเงินหญิงคนแรกในตำแหน่งดังกล่าวของสหรัฐฯ
ดัชนีสหรัฐฯฟิวเจอร์สปรับขึ้นก่อนการรายงานผลประกอบการที่คึกคักในสัปดาห์นี้
ดัชนีอนุพันธ์สหรัฐฯ เปิดปรับขึ้นปานกลางในช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางตลาดที่เตรียมพร้อมรับรายงานผลประกอบการภาคธุรกิจสหรัฐฯที่คาดว่าจะเป็นไปอย่างคึกคักในสัปดาห์นี้ ประกอบไปด้วยรายงานของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่
ดัชนี Dow Jones ฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น 56 จุด หลังเปิดตลาดขึ้นไปประมาณ 73 จุด
ดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์ส +0.2%
ดัชนี Nasdaq-100 ฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น +0.28%
หัวหน้านักกลยุทธ์ฝ่ายการลงทุนจาก Ally Invest ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นจะก่อให้ระดับเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นตาม และในเวลานี้เราจับตาสัญญาณเงินเฟ้อว่าจะเป็นการขึ้นเพียงชั่วคราว หรือจะมาเปลี่ยนแนวโน้มในระยะยาว จึงอาจทำให้เห็นตลาดอ่อนตัวลงบ้าง แม้ปราศจากการดำเนินการใดๆจากเฟด
ในทางตรงข้าม เงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจ “บังคับ” ให้เฟดจำเป็นต้อง “ขึ้นดอกเบี้ย” และเมื่อนั้น ตลาดหุ้นจะมีแนวโน้มอ่อนตัวลง
สภาวะการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ ดูจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับหุ้นกลุ่มผู้บริโภคสินค้าทั่วไป, พลังงาน และภาคการเงิน ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และทองคำก็ดูจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในการถือครองเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อ
ที่มา: CNBC