MTS Help Center

ทองร่วงกว่า 1% จากดอลลาร์แข็งค่า แต่ภาพรายสัปดาห์ปิดแดนบวก

·         ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 1.8% จากแรงเทขายทำกำไรในตลาดที่เข้ามากดดันในสภาวะที่ดอลลาร์แข็งค่า แต่ความหวังเกี่ยวกับการจะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนทองคำสัปดาห์นี้ยังปิดบวกเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 3 สัปดาห์

·         ทองคำตลาดโลกปิด -1% ที่ 1,851.50 เหรียญ หลังจากที่ทำระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี ขณะที่สัปดาห์ที่แล้วปรับขึ้นได้ประมาณ 1.4%

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ปิดปรับลง 9.7 เหรียญ หรือ -0.5% ที่ 1,856.20 เหรียญ

 

·         กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการขายออก 0.88 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 1173.25

·         หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า สินทรัพย์ทุกประเภทตั้งแต่ตลาดหุ้น จนถึงสินค้าเกษตร ทั้งหมดต่างมีแรงเทขายทำกกำไรเข้ามา จากความไม่แน่นอนที่ว่าสภาคองเกรสจะสามารถผ่านร่างกฎหมายได้หรือไม่ และวัคซีนจะมีประสิทธิภาพเพียงกับสถานการณ์เวลานี้หรือไม่

ขณะที่ความแข็งแกร่งของดอลลาร์ ถือเป็นปัจจัยหลักที่เข้ามากดดันราคาทองคำในเวลานี้ ควบคู่กับการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯยืนเหนือ 1%

 

·         ภาพรวมทั่วโลกมียอดติดเชื้อสะสมใกล้ทะลุ  100 ล้านราย ล่าสุดแตะ 99.73 ล้านราย โดยยอดติดเชื้อรายวันทั่วโลกเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้นกว่า 430,495 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตรวมสะสมอยู่ที่ระดับ 2.13 ล้านราย

สหรัฐฯครองแชมป์ติดเชื้อสูงสุดล่าสุดสะสมที่ 25.68 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตทะลุ 429,296 ราย

 

สถานการณ์ในฝั่งเอเชีย

- ญี่ปุ่นติดเชื้อสะสมล่าสุดที่ 360,661 ราย และมียอดเสียชีวิตรวม 5,019 ราย

- จีนมียอดติดเชื้อรายวันลดลงจากหลักร้อย ล่าสุดเพิ่มที่ 80 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมที่ 88,991 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ติดเชื้อสะสมทะลุ 75,084 รายเป็นที่เรียบร้อย

 

ภาพรวมประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 198 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย  ยอดเสียชีวิตสะสม 73  ล่าสุดติดเชื้อแล้วรวม 72 จังหวัด

กทม. พบผู้ติดเชื้อโควิดพุ่ง 21 ราย ไม่มีอาการ 6 ราย มีอาการ 15 ราย ทำให้กทม. มียอดติดเชื้อ รวมสะสม 678 ราย แซงหน้า "ชลบุรี"  

 

·         นายบอริส จอห์นสัน นายกฯอังกฤษ เผยทการพบหลักฐานใหม่บางส่วนที่สะท้อนถึงสายพันธุ์ใหม่ที่พบในอังกฤษอาจทำให้เกิดการเสียชีวิตที่มากขึ้นได้

 

·         ไบเดน “ไม่ผ่อนปรน” - ลงนามคำสั่งที่เข้มงวดต่อกลุ่มผู้เดินทางเข้าประเทศจากแอฟริกาใต้, อังกฤษ และบราซิล เนื่องจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่

 

·         ไบเดน เตือน ไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการระบาดของไวรัสโคโรนาได้ในอีกหลายเดือนข้างหน้า

 

·         ผู้อำนวยการ CDC คนใหม่ ตำหนิรัฐบาลชุดก่อนที่ไม่รู้ว่าจำนวนวัคซีนมีจำนวนเท่าไหร่ ก่อนที่จะส่งมอบการดำเนินงานต่อให้ทีมบริหารของนายไบเดน เนื่องจาการที่ไม่รู้ว่าวัคซีนมีจำนวนเท่าไร จะส่งผลให้การบริหารงานเป็นไปอย่างยากและซับซ้อน เนื่องจากไม่สามารถแจ้งแก่กลุ่มผู้ว่าการรัฐต่างๆ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ ทำให้มีการวางแผนส่งมอบวัคซีนได้ในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์ต่อๆไป

 

·         ไบเดน เผย “รอไม่ได้” เร่งให้คองเกรสผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ 1.9 ล้านล้านเหรียญ  เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในกระบวนการพื้นฐานของการผลิต และการกระจายวัคซีนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

·         เยอรมนี คาดว่า AstraZeneca จะทำการส่งมอบวัคซีนจำนวน 3 ล้านโดสได้ภายในเดือนก.พ.

 

·         อียู เผยจะเร่งให้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต่างๆดำเนินตามสัญญาการจัดหาวัคซีนที่พวกเขาได้ลงนามไว้

 

·         อิตาลี กล่าวว่า ความล่าช้าส่งมอบวัคซีนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ถือเป็นการละเมิดข้อผูกพันตามสัญญาอย่างร้ายแรง

 

·         โปรตุเกสยันจัดการเลือกตั้ง แม้ Covid-19 จะยังระบาด โพลล์หลายๆสำนักก็ชี้ว่า แม้จะมีการ Lockdown ในประเทศและจัดเลือกตั้งหาประธานาธิบดีคนใหม่ก็อาจทำให้สถานการณ์การระบาดยิ่งเลวร้ายลง และน่าจะมีคนมาใช้สิทธิ์น้อย

 

·         ฮ่องกงบังคับให้มีการตรวจสอบหาผู้ติดเชื้อนับพันรายจากการ Lockdown เวลานี้

 

·         จีนเล็งเห็นยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาลดลง ท่ามกลางหลายๆพื้นที่ที่ยังใช้มาตรการ Lockdown อย่างเข้มงวด

 

·         สถานการณ์ในอู่ฮั่น กลับสู่ภาวะปกติ แม้ทั่วโลกจะยังต่อสู้กับการสูญเสียจาก Covid-19

 

·         จีนแซงหน้าสหรัฐฯด้านการลงทุนโดยตรงกับนักลงทุนต่างชาติในช่วง Covid-19 ระบาด

การประชุม United Nations Conference ในวาระการค้าและความก้าวหน้า รายงานว่า จีนมีเม็ดเงินการลงทุนในปี 2020 สูงถึง 1.63 แสนล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับของฝั่งสหรัฐฯที่อยู่ที่ 1.34 แสนล้านเหรียญ

ขณะที่เมื่อเทียบปีก่อนหน้า (ปี 2019) จะพบว่าเม็ดเงินลงทุนโดยตรงของต่างประเทศสหรัฐฯมีสูงถึง 2.51 แสนล้านเหรียญ และจีนได้รับเม็ดเงินในปีนั้น 1.4 แสนล้านเหรียญ

ภาพรวม รายงานยังพบว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติทั่วโลกยังคงมีต่อเนื่องในช่วงการระบาดของ Covid-19  

ข้อมูลจาก OECD แสดงให้เห็นว่า แต่ถึงแม้ปีที่แล้วเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวของจีนจะสามารถโตแซงหน้าสหรัฐฯได้ แต่การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯโดยองค์รวมยังมีสูงกว่าของจีน ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆจะเห็นว่าจีนสามารถโตได้รุดหน้าประเทศอื่นๆในช่วง Covid-19 ระบาด ซึ่งจีดีพีจีนโตได้ราว 2.3% ในปี 2020 และคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจหลักๆจะเป็นผลบวกต่อจีดีพี

อย่างไรก็ดี รายงานการประชุมจาก United Nation Conference มีขึ้นก่อนที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจะทำการกล่าวถ้อยแถลง ณ การประชุม World Economic Forum ขณะที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกคาดว่าน่าจะไม่สนใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

 

·         จีน-ไต้หวัน ตึงเครียดเพิ่มในช่วงที่ “ไบเดน” ก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

กระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุว่า จีนมีการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดจำนวน 8 ลำ และเครื่องบินขับไล่ของจีนจำนวน 4 ลำ มุ่งหน้าเข้าสู่มุมตะวันตกเฉียงใต้ของเขตการป้องกันทางอากาศ และกองทัพอากาศของไต้หวันก็มีการยิงขีปนาวุธออกไปเพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน

ทำให้ภาพรวมมีความตึงเครียดมากขึ้นในหมู่เกาะดังกล่าวในระยะเวลาไม่กี่วันที่ไบเดนรับตำแหน่ง

 

·         นายชัค ชูมเมอร์ส ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาคนใหม่ จากพรรคเดโมแครต เผยว่า “นายทรัมป์” จะถูกไต่สวนจากสำนวนคำฟ้องในวุฒิสภาวันที่ 8 ก.พ. นี้

ขณะที่กระบวนการดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ ณ สภาผูแทนราษฎร ก่อนส่งต่อให้วุฒิสภา จากกรณียุยง  - สนับสนุนการก่อจลาจลและความรุนแรงในอาคารรัฐสภาเมื่อ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี นายชูมเมอร์ส ยืนกรานว่า ขั้นตอนการไต่สวนจะเป็นไปอย่างยุติธรรมแต่มีความรวดเร็วด้วยเช่นกัน

 

·         คณะกรรมาธิการกำกับดูแลทางการเงินของวุฒิสภาสหรัฐฯประกาศยืนยันสนับสนุนให้ นางเจเน็ต เยลเลน ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภายใต้การบริหารงานของนายไบเดน ทำให้เธอกลายเป็นผู้นำทางการเงินหญิงคนแรกในตำแหน่งดังกล่าวของสหรัฐฯ

 

·         ทีมบริหารไบเดนเผยนโยบายด้านภูมิอากาศมากขึ้น และเรียกร้องจีนให้กำหนดเป้าหมายการปล่อยมลพิษให้เข้มงวดขึ้น

 

·         “ไบเดน” พูดคุยกับ “มาครง” ผู้นำฝรั่งเศส เพื่อหาวิธีสานสัมพันธ์ให้แนบแน่น

 

·         ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯของทีมไบเดน เผยว่า สหรัฐฯจะทำการร่วมมือกับอิสราเอลในการฟื้นข้อตลกลงภูมิภาคให้กลับมาสู่ภาวะปกติ

 

·         เยอรมนี เรียกร้องให้อียู  “ลงโทษ” ปูติน สำหรับกรณีการจับกุมแกนนำประท้วง ด้วยการตัดการะแสเงิน หรือใช้แนวทางคว่ำบาตรทางการเงิน

 

·         Reuters รายงานว่าผลสำรวจเสียงสนับสนุนรัฐบาลญี่ปุ่นอ่อนแอจากการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนา

 

·         การออกพันธบัตรพิมพ์เขียวทั่วโลกปรับตัวขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2020

ข้อมูลจาก CBI แสดงให้เห็นว่า การออกพันธบัตรพิมพ์เขียวทั่วโลกพุ่งแตะ 2.695 แสนล้านเหรียญในช่วงสิ้นปี และอาจทำให้ปีนี้ปรับขึ้นได้แตะ 4 – 4.5 แสนล้านเหรียญ

 

·         ธนาคารกลางอังกฤษประกาศยุติการเข้าซื้อพันธบัตรประเภท “High Carbon” จากกลุ่มภาคธุรกิจต่างๆที่เป็นตัวเร่งให้เกิดสภาวะโลกร้อน

 

·         นักบริหารการเงินคาด กรอบเงินบาทระหว่างวัน 29.90-30.10 บาท/ดอลลาร์ เป็นลักษณะ ในกรอบแคบระยะสั้น โดยปัจจัยสำคัญ
- ตลาดเงินจับตานโยบายการคลังสหรัฐเพิ่มเติม
- ความเสี่ยงอยู่ที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้านเงินบาท
- ด้านนักลงทุนต่างชาติก็ระมัดระวังตัวสูงขึ้นเมื่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในทวีปเอเชียเกิดติดขัด จึงมีแรงขายสกุลเงินเอเชียสลับกันไป เกาะติดทิศทางของตลาดทุนในสัปดาห์นี้
- การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) 26-27 ม.ค.
- ข้อมูลการค้าปลีกในญี่ปุ่น 28 ม.ค. คาดว่าจะหดตัว 1.0% ในเดือนธันวาคมเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนภาพการฟื้นตัวที่ช้าเนื่องจากปัญหาการระบาดอีกครั้งของโควิด-19 สะท้อนภาพเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีโอกาสกลับไปทดถอยอีกครั้งในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้