MTS Help Center

นายเดวิด ไทซ์ นักลงทุนชื่อดังให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC โดยกล่าวเตือนนักลงทุนถึง “ภาพระยะยาวเป็นขาลง” เนื่องจากเขาคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯนั้นมีโอกาสปรับตัวลงไม่น้อยกว่า 30% จากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือ

นโยบายของไบเดน “ไม่เป็นมิตร” ต่อภาคธุรกิจ และในเวลานี้ทีมบริหารของนายไบเดน สามารถครองเสียงข้างมากได้ทั้ง 2 สภา จึงมีแนวโมจะผลักดันนโยบายต่างๆได้มากขึ้น

ขณะที่ นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำดูจะกระทบต่อผลประกอบการตามมาด้วย แม้ว่าการใช้นโยบายทางการเงิน หรือการกระตุ้นทางการเงินของสหรัฐฯจะเป็นตัวสนับสนุนสภาวะทางการเงินของตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ทั้งหมดก็ยังไม่ใช่ผลดีต่อตลาดการเงิน

คำเตือนล่าสุดของนายไทซ์ สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหา ณ เวลานี้ มาจากการที่ยอดขาดดุลการค้าเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับตลาดเผชิญสภาวะ Overvalue และความกังวลเรื่องวัคซีน Covid-19

ดังนั้น วัคซีนจึงไม่ใช่ทั้งหมด แม้จะทำให้ภาพโดยส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงบวก แต่การระบาดของสายพันธุ์ใหม่ ก็ยังคงสร้างความเสี่ยงให้แก่ตลาด

‘เมื่อไรที่จะเห็นราคา Breaks ก็อาจทำได้ยากเวลานี้’

แม้ว่าเขาจะมีมุมมองเป็น “ขาลง” แต่นายไทซ์ ก็ไม่ได้ให้กรอบเวลาว่าปัญหาของตลาดจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด และยังระบุว่าตลาดต่างๆยังมีแนวโน้มไปต่อได้ แต่หากถามถึงเรื่อง Breaks เมื่อใดก็ดูจะบอกได้ยาก แต่ภาพรวมนักลงทุนจะได้รับผลกระทบภายในระยะยาว

นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงการลงทุนใน “ทองคำ” ที่ปีที่แล้วปรับขึ้นได้กว่า 25% นับตั้งแต่ที่ตลาดเผชิญสภาวะ Shock ตั้งแต่ 23 มี.ค. และลงไปทำต่ำสุดอย่างมาก แต่ “ทองคำ” ก็ยังเป็นสินทรัพย์ยอดนิยมสูงสุดของนักลงทุน เนื่องจากทองคำยังคงอยู่ภายใต้การนำมาจัดการกับพอร์ตการลงทุนได้ และภาพรวม Gold Stocks ก็มีแนวโน้มที่จะราคาถูกลงได้

แต่ Bitcoin ก็ยังน่าลงทุน และไม่คิดว่า Bitcoin จะล่าถอยในเวลานี้ โดยจะเห็นได้จากการที่ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นต่อเนื่องจาก 10,000 เหรียญ มาสู่ 40,000 เหรียญ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในทองคำได้

อย่างไรก็ดี ทางทำเนียบขาว ไม่ได้ตอบกลับต่อมุมมองความเห็นของนายไทซ์

ที่มา: CNBC