ดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นจากนักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง - เฟดคงดอกเบี้ย
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่หลังจากทีเฟดยังคงดอกเบี้ยระดับต่ำศูนย์ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.51% ที่ระดับ 90.61 จุด หลังจากที่วันก่อนปรับอ่อนค่าลงไป 0.2%
นอกจากนี้ การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี และในขณะนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็อ่อนตัวลงจากท่าทีระมัดระวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญของนายไบเดน
ค่าเงินปอนด์แข็งค่าทำสูงสุดตั้งแต่เม.ย. ปี 2018 ที่ 1.3753 ดอลลาร์/ปอนด์ ก่อนจะอ่อนตัวลงมาที่ 1.3724 ดอลลาร์/ปอนด์
ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.1% ที่ 1.2146 ดอลลาร์/ยูโร
บรรดานักวิเคราะห์มองว่า รายงานของอีซีบีมีความแตกต่างจากการดำเนินนโยบายของเฟด ที่เป็นปัจจัยที่สนับสนุนค่าเงินยูโรในเวลานี้ที่เป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขทางการเงิน ดังนั้น จึงอาจไม่ส่งผลกระทบต่ดอลลาร์มากนัก
นักกลยุทธ์ค่าเงินจาก Nomura กล่าวว่า ยูโรมีการลงทุนในลักษณะ Buy on the Dip หรือเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวอยู่ในเวลานี้ แต่ภาพรวมค่อนข้างเห็นทิศทางยูโรแข็งค่าต่อ และอาจมีเป้าหมายที่บริเวณ 1.25 ดอลลาร์/ยูโรได้ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. นี้
นางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบีเองก็ย้ำว่า อีซีบีเองก็ยังคงเฝ้าจับตาค่าเงินยูโรด้วยความระมัดระวังในเวลานี้