ทองคำเคลื่อนตัวกรอบแคบ โดยมีแนวต้านสำคัญ 1,875 เหรียญ ขาดปัจจัยใหม่ๆมาดันให้ราคาไปต่อ
· สัญญาทองคำเคลื่อนไหวกรอบแคบ โดยมีกรอบสำคัญ 1,846 – 1,869.10 เหรียญ ซึ่งบริเวณแนวต้านด้านบนเป็นตัวชี้วัดราคาที่สำคัญ
สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ตลาด Comex ปิดปรับขึ้น 13.6 เหรียญ ที่ระดับ 1,863.9 เหรียญ
อย่างไรก็ดี ภาพรวมสัญญาทองคำได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นที่แข็งแกร่งของราคาซิลเวอร์ แต่การปรับขึ้นของราคาทองคำก็ยังเป็นไปอย่างจำกัดจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ท่ามกลางเทรดเดอร์ที่ยังไม่ตัดสินใจลงทุนท่ามกลางสภาวะตลาดที่ค่อนข้างผันผวน
ราคาซิลเวอร์เมื่อวานนี้ปิดปรับขึ้นต่อเนื่อง 3 วันทำการ ปรับขึ้นระหว่างวันมากถึง 11.2% ทำสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี จากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยที่เปลี่ยนความสนใจจากหุ้น GameStop และหุ้นอื่นๆทีเผชิญภาวะ Oversold กลับมาหาสินทรัพย์โลหะมีค่า
FXEmpire วิเคราะห์ภาพทองคำรายวัน โดยมองว่าหากทองคำยืนเหนือ 1,878.9 เหรีญญได้มีโอกาสกลับมาเป็นขาขึ้น แต่แนวโน้มหลักอาจเปลี่ยนกลับมาเป็นขาลงได้หากต่ำกว่า 1,832.40 เหรียญ
กรอบรายวันของทองคำจะอยู่ระหว่าง 1,771.30 – 1,966.90 เหรียญ แต่ระยะสั้นๆในปัจจุบันมีการเคลื่อนไหวแคบๆระหว่าง 1,846 – 1,869 เหรียญ แต่หากผ่านแนวต้าน 1,894.10 เหรียญไปได้ ก็มีโอกาสเห็น 1,911.2 เหรียญ และอาจยิ่งกระตุ้นให้ราคาทองคำปรับขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ทิศทางขาลง - หากต่ำกว่าเส้น Fibonacci 1,846 เหรียญ ก็มีโอกาสทำต่ำสุด 1,832.4 เหรียรญ
ทิศทางขาขึ้น - หากยืนเหนือ 1,869.10 เหรียญไปได้ ก็มีโอกาสปรับขึ้นไปที่ 1,878.90 เหรียญ และ 1,894.10 เหรียญ โดยหากฝ่าระดับดังกล่าวได้ มีโอกาสเห็น 1,911.2 เหรียญ
· SPDR เมื่อวานนี้ทำการขายออกทองคำ 2.63 ตัน โดยขายออกสองวันที่ผ่านรวม 7.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,157.5 ตัน ต่ำสุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายน
· อินเดียลดภาษีนำเข้าทองคำในปีงบประมาณ 2021 สู่ระดับ 7.5% (เดิม 12.5%) เพื่อจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคาและการลักลอบขนทองอย่างผิดกฎหมาย และเพิ่มภาษีเพื่อสนับสนุนสินค้าเกษตรที่ 2.5%
· ซิลเวอร์ทะยาน 8% ทำสูงสุดรอบ 8 เดือน หลังเทรดเดอร์จาก Reddit พยายามปั่นราคาในสินทรัพย์กลุ่มโลหะ
ราคาซิลเวอร์เมื่อวานนี้ปรับขึ้นจากภาวะ Short-Squeeze หลังบริษัท Reddit จุดประกายให้เกิดการแห่เข้าตลาดโลหะของกลุ่มนักลงทุนรายย่อย จึงดันราคา Silver Futures ปิด +8% ที่ 29.06 เหรียญ ปรับขึ้นรายวันมากที่สุดสำหรับราคาซิลเวอร์ในตลาดนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นอย่างน้อย
ขณะที่ระหว่างวันสัญญาซิลเวอร์ขึ้นไปทำสูงสุด 11% บริเวณ 30.35 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 15 ก.พ. ปี 2013
· ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า ชี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า ไม่แสดงความกังวลต่อภาวะ Overheat ของเศรษฐกิจสหรัฐฯในเวลานี้ แต่กลับคิดว่าน่าจะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาด จึงอาจทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วขึ้นประมาณกลางปี 2022
อย่างไรก็ดี สมาชิกเฟดส่วนใหญ่ ยังคาดการณ์ในทิศทางเดียวกันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯปีนี้จะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2023
· เดโมแครตเตรียมหาทางแก้ร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญ เพื่อดันให้รีพับลิกันเห็นชอบร่วมกัน
ข้อเสนอสำคัญของพรรครีพับลิกัน ลดวงเงินเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะส่งมอบให้แก่ชาวอเมริกาจาก 1,400 เหรียญ เหลือเพียง 1,000 เหรียญ
· นางซูซาน คอลลินส์ ส.ว. จากรีพับลิกัน เผยว่า การหารือร่วมกันระหว่างผู้แทนพรรค 10 ราย กับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีประสิทธิภาพในการแก้ไขร่างกฎหมาย Covid-19 แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงแพ็คเกจร่วมกันได้
· สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด:
สถานการณ์เชื้อไวรัส Covid-19 ยังคงแพร่ระบาดในพื้นที่ 219 ประเทศทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
ภาพรวมยอดติดเชื้อทั่วโลกสะสมล่าสุดใกล้แตะ 104 ล้านราย ปัจจุบันอยู่ที่ 103.90 ล้านราย โดยยอดติดเชื้อใหม่ทั่วโลกเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 374,543 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตรวมสะสมอยู่ที่ระดับ 2.24 ล้านราย
สหรัฐฯมียอดติดเชื้อสะสมใกล้แตะ 27 ล้านราย ปัจจุบันอยู่ที่ 26.89 ล้านราย โดยล่าสุดพบยอดติดเชื้อใหม่ 110,984 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสม 453,994 ราย
ทางด้านอินเดียยอดติดเชื้อสะสมรวมใกล้ทะลุ 11 ล้านราย ล่าสุดอยู่ที่ 10.76 ล้านราย
สำหรับประเทศบราซิลพบยอดติดเชื้อสะสมแตะ 9.23 ล้านราย ทางด้านรัสเซียพุ่งแตะ 3.86 ล้านราย ตามมาด้วยอังกฤษที่มียอดติดเชื้อสะสมรวม 3.83 ล้านราย และล่าสุดฝรั่งเศสยอดติดเชื้อสะสมล่าสุดที่ 3.20 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย
สถานการณ์ในฝั่งเอเชีย
- ญี่ปุ่นติดเชื้อสะสมล่าสุดที่ 389,518 ราย และมียอดเสียชีวิตรวม 5,722 ราย
- แม้ยอดติดเชื้อในจีนจะชะลอตัวลงและพบยอดติดเชื้อรายวันล่าสุดเพียง 42 ราย แต่ก็ใกล้ทะลุ 90,000 ราย โดยยอดรวมสะสมล่าสุดอยู่ที่ 89,564 ราย ขณะที่เกาหลีใต้ติดเชื้อสะสมรวมล่าสุด 78,508 ราย
· สถานการณ์ไวรัสโครนาในไทย
ภาพรวมประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 836 ราย ยอดป่วยยืนยันสะสม 19,618 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 77 ราย ซึ่งพบยอดติดเชื้อใน 63 จังหวัดของประเทศไทย
รายงานล่าสุด 'คณะกรรมการตรวจสอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย' สั่งเข้มระวังหลบหนีเข้าเมือง หลังเมียนมาเกิดรัฐประหาร
· สถานการณ์การฉีดวัคซีนทั่วโลก:
รายงานจาก Bloomberg ชี้ว่า ทั่วโลกสามารถฉีดวัคซีนรวมกันได้แล้วกว่า 100 ล้านโดส โดยล่าสุด 64 ประเทศมีการฉีดวัคซีน Covid-19 รวมกันได้ประมาณ 101 ล้านโดส และจะเห็นการฉีดวัควีนได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยรายวันที่ 4.25 ล้านโดส ซึ่งในสหรัฐฯส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีนแล้ว้ไม่น้อยกว่าคนละ 1 โดส ทำให้มีการฉีดวัคซีนแล้ว ณ ขณะนี้ 32.8 ล้านโดส และมีอัตราเฉลี่ยการฉีดวัคซีนต่อวันที่ 1.34 ล้านโดส
· อังเกลา แมร์เคล นายกฯเยอรมนี ให้คำมั่นจะฉีดวัคซีน Covid-19 ในเยอรมนีให้ได้ครบทุก่อนจบฤดูร้อนนี้ (มิ.ย. - ส.ค.)
· ผลสำรวจ Reutgers ชี้ ตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ ไม่ได้รับผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของ Covid-19 โดยคาดว่าราคาบ้านในสหรัฐฯ จะปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกสองปีข้างหน้า ทั้งนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ตลาดที่อยู่อาศัยลดลง
· ไบเดน ขู่ “คว่ำบาตร” พม่าหลังมีการทำรัฐประหาร พร้อมปรับทบทวนการดำเนินนโยบายใหม่
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่คว่ำบาตรพม่า หลังจากรัฐประหาร ที่นำโดยทหาร ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ร่วมมือเพื่อกดดันให้นางอองซาน ซูจี สละอำนาจ และจะมีการปรับทบทวนนโยบายเพื่อตอบโต้ที่กองทัพที่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจ
นอกจากนี้ นายไบเดนยังเรียกร้องให้นานาชาติช่วยกดดันให้กองทัพคืนอำนาจแก่นางซูจีด้วย
· รัฐประหารพม่าส่งผลให้การค้าของสหรัฐฯได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะ บริษัทรองเท้า
ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและนักวิเคราะห์ คาดว่า รัฐประหารในพม่า ส่งผลต่อบริษัทสหรัฐฯ และ บริษัทตะวันตกส่วนใหญ่จะสนใจมาลงทุนในพม่าลดลง และกระตุ้นให้บริษัทใหญ่ของสหรัฐฯ ถอนตัวออกไป
· แจ็กกี้ สไปเออร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ส่งจดหมายถึงนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องให้นายไบเดน ออกคำสั่งฉุกเฉิน ต่อลัทธิหัวรุนแรงที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
· เศรษฐกิจไต้หวันขยายตัวแซงหน้าจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี จากความต้องการชิปและอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น
จีดีพีไต้หวันปี 2020 โตได้สูงกว่าคาดการณ์แตะ 2.98% เมื่อเทียบปีก่อน นำหน้าเวียดนามที่เป็นประเทศที่นักเศรษฐศาสตร์หลายๆรายมองว่าจะเป็นประเทศที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียประจำปี 2020 โดยจีดีพีเวียดนามโตได้ 2.9% ขณะที่จีดีพีจีนโตได้ 2.3% ในปี 2020
· เงินเฟ้อเกาหลีใต้โตเร็วกว่าคาดแตะ 0.6% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี
· ผู้นำอิหร่าน แนะหนทางรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2015 ผ่านเจ้าหน้าที่อาวุโสของทางอียูในการประสานรอยร้าวและดำเนินการเคลื่อนไหว
· คณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะทำการสวน ความผันผวนของหุ้น GameStop ในวันที่ 18 ก.พ.
· CNBC รายงาน 2 ปัจจัยหลักที่จะส่งผลให้การฟื้นตัวในหุ้นบริษัท GameStop ยุติลง
ขณะที่เมื่อวานนี้หุ้นบริษัท GameStop ร่วงลงราว 30% ที่ระดับ 225 เหรียญ หลังจากที่ทำ All-Time Highในสัปดาห์ก่อนแตะ 483 เหรียญ และค่อยๆปรับลงมาปิดวันศุกร์ที่ 325 เหรียญ ขณะที่ราคาปิดตลาดเมื่อวันที่ 4 ม.ค. อยู่ที่ 17.25 เหรียญ ซึ่งเป็นวันเปิดทำการซื้อขายแรกของปี 2021
1. แนวโน้มของราคา Call Options
2. ความต้องการในตลาดที่ลดน้อยลง
ทั้งหมดนี้ เป็น 2 ปัจจัยที่จะมายุติความสนใจใน Short-Squeeze ของกลุ่มนักลงทุนได้ หลังจากที่นักลงทุนในตลาดถูกบังคับให้ปิดสถานะ Short รวมทั้ง Broker ที่มีการเข้าซื้อหุ้นบริษัท GameStop ไว้
· นักบริหารเงิน ระบุว่า เงินบาทอ่อนค่า ตามทิศทางสกุลเงินในภูมิภาค โดยรวมเคลื่อนไหวกรอบแคบ
ทั้งนี้ ตลาดกังวลกับการชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังจากที่ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจจีนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ประจำเดือนมกราคมลดลงสู่ระดับ 51.5 จากระดับ 53.0 ในเดือนธันวาคม โดยดัชนีอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากยอดสั่งซื้อเพื่อการส่งออกชะลอตัวลงท่ามกลางการแพร่ระบาดของ Covid-19
สำหรับสัปดาห์นี้ ประเมินกรอบเงินบาทอยู่ที่ 29.80-30.20 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามในประเทศ จะเป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีการประชุมในกลางสัปดาห์หรือวันที่ 3 ก.พ.นี้ ซึ่งมองว่ากนง.น่าจะยืนดอกเบี้ยนโยบาย (RP) อยู่ที่ 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อรอดูสถานการณ์ต่างๆ ก่อน
· กสิกรมองแนวโน้มเงินบาทรับศักราชใหม่ 2564
สิ่งสำคัญที่เราต้องติดตาม จึงหนีไม่พ้นความรวดเร็วในการฉีดวัคซีน เพราะปัจจุบันศักยภาพการผลิตวัคซีนยังไม่มากพอ ให้โลกสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ทันในปีนี้ ประเทศใดที่สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ก่อน จึงได้เปรียบที่เศรษฐกิจประเทศนั้นจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศอื่น และส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของค่าเงินสกุลนั้นด้วย