· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่นักลงทุนรายย่อยเทขายหุ้น GameStop และให้ความสนใจไปยังซิลเวอร์
โดยตลาดได้รับแรงหนุนก่อนหน้าการเจรจาระหว่างนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาฉบับใหม่
ด้านดัชนี FTSE futures เพิ่มขึ้น 0.66% และดัชนี S&P 500 E-mini futures เพิ่มขึ้น 0.52%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 1.49%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยฟื้นตัวหลังจากปรับร่วงลงจากแรงเทขายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลประกอบการในประเทศและสหรัฐฯจึงช่วยหนุนความเชื่อมั่นให้กับเหล่านักลงทุน
ดัชนี Nikkei ปิด +0.97% ที่ระดับ 28,362.17 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค ผู้ผลิตวัสดุและบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ด้านดัชนี Topix ปิด +0.83% ที่ระดับ 1,844.91 จุด
โดยตลาดหุ้นญี่ปรับตัวสูงขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ก่อนหน้าการประกาศผลประกอบการบริษัท Amazon.com และ Alphabet ในคืนนี้
นอกจากนี้ บริษัท ญี่ปุ่นหลายแห่งกำลังรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้และนักลงทุนบางรายกำลังคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจโลกจะทำให้ผลประกอบการเพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับ short-squeeze ที่เกิดจากนักลงทุนรายย่อยของสหรัฐฯส่งผลกระทบต่อตลาดโลกในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ความผันผวนได้ลดลงในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยังคงได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯและการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางจีนช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องที่ตึงตัว ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ลดลงช่วยหนุนความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนเช่นกัน
ทั้งนี้ ดัชนี blue-chip CSI300 ปิด +1.5% ที่ระดับ 5,501.09 จุด ด้านดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.8% ที่ระดับ 3,533.68 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดพุ่งท่ามกลางความเชื่อมันเชิงบวกในตลาด ขานรับโอกาสเศรษฐกิจฟื้นตัว
ดัชนี Stoxx600 เปิด +0.7% ขณะที่ดัชนีกลุ่มยานยนต์เปิด +1.7% หนุนให้หุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเคลื่อนไหวแดนบวก
กลุ่มนักลงทุนทั่วโลกจับตาสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโคโรนา จากความหวังที่อียูจะได้รับวัคซีนได้เร็วขึ้น หลังจากที่ผิดหวังและไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้ผลิตวัคซีนได้ ทำให้เกิดการขาดแคลนอุปทานด้านการผลิตวัคซีน ขณะที่ข้อมูลอื่นๆที่ต้องติดตามคือจีดีพีขั้นต้นของยูโรโซน
· อ้างอิงจากำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ
- หุ้นไทยวันนี้ (2 ก.พ.) เปิดตลาด +11 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,489 จุด
ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (2 ก.พ.) ดัชนี SET Index เปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,489.13 จุด ปรับขึ้น +11.08 จุด หรือคิดเป็น +0.75% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 7,953 ล้านบาท เมื่อเวลา 10:03:21 น.
ดัชนี SET50 ปรับขึ้น +8.53 จุด หรือคิดเป็น +0.92% อยู่ที่ 931.42 จุด โดยมูลค่าซื้อขายรวม อยู่ที่ 3,320 ล้านบาท คิดเป็นราว 41.74% ของ SET ทั้งหมด
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ธปท.ชี้ผลสำรวจแนวโน้มปล่อยกู้ไตรมาสแรกคาดแบงก์เข้มปล่อยกู้ธุรกิจต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ และภาคธุรกิจ
ท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารจากผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ ขณะที่ด้านครัวเรือนคาดมีความต้องการสินเชื่อเพิ่ม โดยเฉพาะบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อบริหารสภาพคล่อง
- รมว.คลัง เปิดเผยว่า จะได้ข้อสรุปมาตรการแจกเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 เร็วๆ นี้ ซึ่งจะต้องใช้ฐาน
ข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม มาพิจารณาทั้งหมดว่า จะต้องช่วยเหลือแรงงานในกลุ่มใดบ้าง และรูปแบบการจ่ายเงินเยียวยาจะเป็นใน
ลักษณะเดียวกันมาตรการเราชนะ ที่โอนวงเงินผ่านแอพพลิเคชั่นเราชนะ แต่รายละเอียดกำลังหารือกันต่อ ซึ่งจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ส่วนการหารือหอการค้าไทยทราบว่า ขณะนี้ธรุกิจโรงแรมเริ่มมีปัญหาขาดสภาพคล่อง
-ตรุษจีนปีนี้ คนกรุงใช้จ่ายลดลง, ปรับพฤติกรรมหันซื้อออนไลน์แทน เลี่ยงโควิด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 64 พบว่า คนกรุงเทพฯ คาดว่าจะใช้จ่ายลดลงในทุกกิจกรรม โดยเฉพาะการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ทำบุญ และการแจกเงินแต๊ะเอีย แม้ว่าภาครัฐจะมีการผ่อนปรนมาตรการที่เกี่ยวกับโควิด-19 ระลอกใหม่ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบยาวนานและยังไม่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า ทำให้คาดว่า บรรยากาศของการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 64 นี้ อาจจะไม่คึกคัก และผู้บริโภคน่าจะมีการใช้จ่ายที่ค่อนข้างประหยัดกว่าปีก่อนๆ ซึ่งจากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า คนกรุงเทพฯ วางแผนที่จะใช้จ่ายลดลงในทุกกิจกรรม และบางกิจกรรม เช่น ท่องเที่ยว/ทำบุญ หรือให้เงินแต๊ะเอียก็ได้มีการงดหรือยกเลิกการทำกิจกรรมในปีนี้
-สรท.คาดส่งออกปี 64 ดีขึ้นหลังมีวัคซีน แต่ยังห่วงบาทแข็งค่า/ตู้สินค้าขาดแคลน
น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เผยภาวะการส่งออกของไทยในปี 63 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยหดตัวลดลงมาที่ -6.01% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวมากถึง -10% แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว และแนวโน้มน่าจะดีขึ้นหลังจากสามารถผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาใช้งานได้แล้วช่วยให้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย โดยการส่งออกของไทยมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
สำหรับการส่งออกเดือน ธ.ค.63 มีมูลค่า 20,082 ล้านเหรียญ ขยายตัว 4.71% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 19,119 ล้านเหรียญสรท.คาดส่งออกปี 64 ดีขึ้นหลังมีวัคซีน แต่ยังห่วงบาทแข็งค่า/ตู้สินค้าขาดแคลน ขยายตัว 3.62% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน (YoY) และการนำเข้าในรูปของเงินบาทมีมูลค่า 582,100 ล้านบาท ขยายตัว 3.85% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน (YoY) ส่งผลให้เกินดุลการค้า 963 ล้านเหรียญ
- ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดอีก 836 ราย ยอดสะสมทะลุ 2 หมื่นราย,ตายเพิ่มเป็น 79 ราย
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 836 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 109 ราย ในสมุทรสาคร 99 ราย นนทบุรี 1 ราย กรุงเทพฯ 7 ราย สมุทรสงคราม 2 ราย, จากค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 710 ราย ในสมุทรสาคร 688 ราย และกรุงเทพฯ 22 ราย จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 20,454 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 7,186 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 10,788 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,480 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 13,217 ราย เพิ่มขึ้น 703 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 79 ราย