· ตลาดหุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดประวัติการณ์ หวังวัคซีนช่วยฟื้นคืนสภาวะปกติ
ตลาดหุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์กันในวันนี้ ท่ามกลางหุ้นเอเชียที่ปรับขึ้นได้ต่อตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดแดนบวกในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ตลาดได้รับอานิสงส์จาก
- ความคืบหน้าในการกระจายวัคซีน หนุนความหวังเห็นเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัว เข้าสู่สภาวะปกติทั่วโลก
- รายงานผลประกอบการที่สดใส
- การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทีมบริหารนายไบเดน
- ข้อมูลตลาดแรงงานที่ออกมาดีขึ้นเกินคาด
- ตลาดหวังเห็นข้อมูลจ้างงานของภาครัฐบาลสหรัฐฯในคืนนี้ (20.30น.) ออการในทิศทางบวก
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปิด +0.6%
ดัชนีนิกเกอิปิด -1.5%
· BofA เผย นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯรายใหญ่ ก้าวสู่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ในขณะที่รายย่อยแห่เก็งกำไรใน GameStop
ขณะที่ข้อมูลรายสัปดาห์พบว่ากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่มีการเพิ่มเม็ดเงินในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่สูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 4.2 พันล้านเหรียญ โดยนักลงทุนรายใหญ่เลือกเข้าซื้อหุ้นกลุ่ม FAANMG (Facebook, Amazon, Apple, Netflix, Microsoft and Google-owner Alphabe)
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 1% ตามการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่สดใสและกระแสคาดการณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯขนาดใหญ่
ดัชนี Nikkei ปิด +1.54% ที่ระดับ 28,779.79 จุด ด้านดัชนี Topix +1.38% ที่ระดับ 1,890.95 จุด
ขณะที่ดัชนี The S&P 500 และ Nasdaq ปิดปรับตัวสูงขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้
· ภาพรวมรายสัปดาห์ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าความตึงเครียดระหว่างจีน - สหรัฐฯยังคงน่าเป็นกังวล
โดยดัชนี blue-chip CSI300 ปิด +0.2% ที่ระดับ 5,483.41 จุด ด้านดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.2% ที่ระดับ 3,496.33 จุด
สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนี CSI300 เพิ่มขึ้น 2.5% และดัชนี SSEC เพิ่มขึ้น 0.4%
· ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวผสมผสานกัน เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการเปิดตัววัคซีน ขณะที่ตลาดทั่วโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้นประมาณ 0.15% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวแตกต่างกัน ด้านหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและการพักผ่อนเพิ่มขึ้น 0.9% ขณะที่หุ้นเทเลคอมลดลง 0.5%
· Credit Suisse ชี้ ตลาดหุ้นอังกฤษถือเป็นโอกาสดีสำหรับการลงทุนของนักลงทุนในการสร้างทางเลือกที่หลากหลายจากเอเชีย
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ
- หุ้นไทยวันนี้ (5 ก.พ.) ปิดตลาดภาคเช้า +14.27 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,497 จุด มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 43,494 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ BBL PTT และ KBANK
การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (5 ก.พ.) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,497.25 จุด ปรับขึ้น +14.27 จุด หรือคิดเป็น +0.96% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 43,494 ล้านบาท เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1,488.73-1,497.79 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ BBL PTT และ KBANK
ดัชนี SET50 ล่าสุดปรับขึ้น +10.54 จุด คิดเป็น +1.14% อยู่ที่ 934.06 จุด มูลค่าซื้อขายรวม 25,345 ล้านบาท เทียบเป็นราว 58.27% ของการซื้อ-ขายทั้งหมด
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้คงประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยสำหรับปีนี้ที่ 2.8% โดยจะรอดูผลจากมาตรการและโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐทั้ง 3 โครงการที่นำมาใช้ในการเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด เบื้องต้นประเมินมาตรการทั้งหมดจะมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจประมาณ 303,000 ล้านบาท หรือกระตุ้นจีดีพีเพิ่มขึ้นประมาณ 1.7%
- รมว.คลังยืนยันประเทศไทยไม่ล้มละลาย ฐานะการคลังยังมั่นคง ขณะที่ระดับหนี้สาธารณะอยู่ที่ 50% ไม่เกินเกณฑ์ความมั่นคง ระบุกู้ 1 ล้านล้านเป็นสิ่งจำเป็นใช้ในการรับมือผลกระทบโควิด-19 สั่งปรับโครงสร้างภาษีหารายได้ชดเชยงบประมาณประเทศ
- 4 แบงก์ใหญ่ลั่นปี 64 รุกธุรกิจใหม่เสริมรายได้ พร้อมสร้างการเติบโตต่างประเทศควบคู่ ด้าน BBL คาดสินเชื่อขยายตัว 3-4% ขณะที่ตั้งเป้าหนี้เสียอยู่ที่ระดับ 4.5% สำรองราว 2.2 หมื่นล้าน
- ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 586 ราย ในปท.47-ตรวจเชิงรุก 526-ตปท.13
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 586 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 47 ราย ในสมุทรสาคร 26 ราย กรุงเทพมหานคร 18 ราย ตาก 3 ราย, จากค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 526 ราย โดย 522 ราย มาจากสมุรสาคร เพชรบุรี 3 ราย สระแก้ว 1 ราย, ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 13 ราย
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 22,644 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 7,302 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 12,824 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,518 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 15,331 ราย เพิ่มขึ้น 533 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมคงที่ 79 ราย