• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564

    10 กุมภาพันธ์ 2564 | Economic News
   


· ดอลลาร์อ่อนค่าทำต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ - Bitcoin ทรงตัวหลังพุ่งเหนือ 48,000 เหรียญ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ จากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ลดลง ท่ามกลางเทรดเดอร์ที่จับตาการฟื้นตัวจากวิกฤต Covid-19 ในปีนี้ และการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐิกจเพิ่มของสหรัฐฯ

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 90.509 จุด หลังวานี้ทำต่ำสุดเป็นครั้งแรกของเดือนนี้ที่ 90.427 จุด หลังปรับอ่อนค่าต่อเนื่อง 2 วันทำกาคร

Bitcoin สะสมพลังในกรอบ 46,500 เหรียญ หลังทำสูงสุดใหม่ที่ 48,216 เหรียญ

ค่าเงินเยนแข็งค่า 0.1% ที่ 104.68 เยน/ดอลลาร์ หลังดิ่งลงมาทำต่ำสุดที่ 104.5 เยน/ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกของเดือน

ยูโรอ่อนค่า 0.1% ที่ 1.21105 ดอลลาร์/ยูโร หลังแข็งค่าต่อเนื่อง 3 วันทำการ

เงินปอนด์ปรับ -0.1% ที่ 1.3803 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังวานนี้ทำแข็งค่ามากสุดรอบเกือบ 3 ปีที่ 1.382 ดอลลาร์/ปอนด์


· ตลาดจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ ท่ามกลาง "เยลเลน-เฟด" ลดความกังวลด้านเงินเฟ้อ


การระบาดของไวรัสโคโรนาดูจะเป็นตัวกดดันเงินเฟ้อ โดยหลายๆประเทศทั่วโลกก็ยังคงมีเงินเฟ้อต่ำกว่าศูนย์

ขณะที่คาดการณ์การจะเกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ของเฟดสหรัฐฯ ก็ดูจะเป็นตัว "หนุนให้เงินเฟ้อกลับมาสูงขึ้น" และจะเห็นได้ถึงการตอบรับของตลาดต่างๆ

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น

- หุ้นปรับขึ้น

โดยที่บรรดานักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มกลับมาเก็งกระแสเงินเฟ้อ แต่สภาพคล่องที่หนาแน่นในตลาดเวลานี้ก็ยังเป็นตัวหลักที่ช่วยหนุนเงินเฟ้อ


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ปรับขึ้นทำสูงสุดรอบ 11 เดือนในวันจันทร์ที่ผ่านมา

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 30 ปี ปรับข้นเหนือ 2% เป็นครั้งแรกในรอบปี


"ความกังวลด้านเงินเฟ้อ" ก็ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญอยู่ในเวลานี้ โดยมาตรวัดเงินเฟ้อสัปดาห์นี้มีแนวโน้มจะเห็นเงินเฟ้อสหรัฐฯปรับขึ้นได้ในรอบเกือบ 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2014 โดยมีโอกาสเหนือ 2.2%




มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนโอกาสเงินเฟ้อ

ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกเฟดหรือรัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ ก็ยังไม่แสดงความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้เท่าไหร่นัก

แต่ทั้งสองฝ่ายก็มีท่าทีที่พร้อมจะเดินหน้าสนับสนุนทางการเงินมากขึ้น "หากจำเป็น"

สมาชิกเฟดเรียกร้องให้สหรัฐฯมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในขณะที่เฟดมีการเข้าซื้อพันธบัตรต่อเนื่อง 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจตราบเท่าที่จำเป็น

ด้าน "นางเจเน็ต เยลเลน" อดีตประธานเฟดที่กลายมาเป็น รัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯคนปัจจุบัน ก็ได้กล่าวสนับสนุนให้มีค่าใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มโดย "ปราศจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ" เช่นกัน

ทั้ง "นายโพเวลล์" และ "นางเยลเลน" ดูเหมือนจะมีความเห็นพ้องหนุนเงินเฟ้อให้ปรับขึ้น และไม่ตีกรอบการจำกัดด้านเงินเฟ้อ พร้อมมองว่ามีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะยาว และทั้งสองยังไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในเวลานี้


CPI สหรัฐฯมีแนวโน้มทรงตัว แต่จะใช้เวลานานเท่าไหร่?

- มาตรวัดเงินเฟ้อสหรัฐฯค่อนข้างทรงตัวนับตั้งแต่ที่รีบาวน์ได้อย่างรวดเร็วจากการ Lockdown

- เงินเฟ้อสหรัฐฯยังมีความเสี่ยงอยู่

- Core CPI ทรงตัว 1.6% เมื่อเทียบรายปี

- เฟดพอใจที่ให้ดัชนี core PCE price index ปรับขึ้นมาที่ 1.45% ในเดือนธ.ค. เพราะมองว่าง่ายต่อการจะเห็นการเพิ่มขึ้นเหนือเป้าหมาย 2%

คาดการณ์เงินเฟ้อหรือดัชนี CPI ณ ปัจจุบันที่ 1.4% น่าจะขยายตัวได้จากราคาน้ำมันที่กลับมาเป็นขาขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในกลุ่มการบริการ

หากโครงการฉีดวัคซีนสหรัฐฯยังเดินหน้าต่อไปก็อาจทำให้กลุ่มค้าปลีก, การโรงแรม และการท่องเที่ยวกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง และจะยิ่งหนุนให้เงินเฟ้อยิ่งปรับขึ้น

ไม่เพียงแต่ภาคบริการที่เฟดมองว่ามีความเสี่ยง ด้านการผลิตก็มีความไม่แน่นอนจากอุปสรรคด้านอุปทานอันเนื่องจากการระบาดของไวรัส และมองว่าการจะถอนมาตรการคุมเข้มต่างๆก็อาจใช้วิธีค่อยๆทยอยถอนออกไป



ในระยะสั้นๆ เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มจะทรงตัว สะท้อนว่า "ไม่มีเหตุผลใดที่นายโพเวลล์และนางเยลเลนจะเปลี่ยนแนวคิดในเวลานี้"

คืนนี้ 20.30น. คาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐฯ ได้แก่

- CPI จะโตได้ 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และแตะ 1.5% เมื่อเทียบรายปี

- Core CPI คาดจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยและเห็นปรับลงมาแถว 1.5% เมื่อเทียบรายปี


เยน VS เงินเฟ้อ

หากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ "ออกมาดีกว่าคาด"

- หนุนมุมมองโอกาสเงินเฟ้อสูง

- ลดแรงเทขายที่เข้ามาในตลาดดอลลาร์

- ดอลลาร์เมื่อเทียบเยนเคลื่อนไหวจำกัดบริเวณ MA ราย 200 วัน

- หากเยนฝ่าเส้นค่าเฉลี่ย MA 200 วันได้จะมีระดับแนวต้านถัดไปที่ 105.54 เยน/ดอลาร์, 106 เยน/ดอลลาร์ และ 107 เยน/ดอลลาร์




หากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ "แย่กว่าคาด"

- ดอลลาร์จะกลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว

- ภาวะ Risk-On ดิ่งลง

- เยนแข็งค่าขึ้น มีโอกาสกลับมาเส้น MA ราย 50 วัน ที่ 103.91 เยน/ดอลลาร์

- หากเยนหลุด 103.91 เยน/ดอลลาร์ มีโอกาสกลับทดสอบแข็งค่ามากสุดรอบ 10 เดือนที่ 102.57 เยน/ดอลลาร์ที่ทำไว้ช่วงต้นม.ค.


· หากข้อมูล CPI ของสหรัฐฯออกมาแย่ลง เหล่าเทรดเดอร์จะให้ความสำคัญไปยัง "นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด" ที่มีกำหนดการกล่าวถ้อยแถลงเวลาตี 2 (ตามเวลาไทย) ณ ที่ประชุม Economic Club of New York โดยคาดว่าจะกล่าวถึงรายงานจ้างงานที่ออกมาอ่อนแอ และยังไม่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงมุมมองใดๆในเวลานี้


· แคลิฟอร์เนียแซงหน้านิวยอร์ค ในฐานะที่มียอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อ COVID-19 มากที่สุด

แคลิฟอร์เนียมียอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด 19 มากกว่า 45,000 รายในวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งมีประชากรมากที่สุดใน 50 รัฐ และเป็นรัฐที่มีการแพร่ระบาดหนักที่สุดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งที่นิวยอร์กเผชิญกับการระบาดอย่างหนักในช่วงแรกของฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา มีรายงานพบว่ามีผู้เสียชีวิต 44,693 ราย


· Brexit และ Covid ปัจจัยลบต่อภาคการเงินและการจัดการด้านภาษีของอังกฤษ


· รายงานจาก U.N. เผย การฟื้นตัวขอการค้าโลกชะลออีกครั้งในไตรมาสแรกของปี 2021

โดยได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ที่ส่งผลให้เกิดอุปสรรคต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ข้อมูลการค้าโลกหลังหดตัวลงไป -9% ในปีที่แล้ว โดยช่วงไตรมาสแรกปีที่แล้วหดตัวไป -15% ก่อนจะรีบาวน์ได้ในไตรมาสที่ 2 ประมาณ 8% ช่วงไตรมาสสุดท้าย


· ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PPI) จีน ปรับขึ้นในเดือนม.ค. แตะ 0.3% เป็นครั้งแรก (แต่น้อยกว่าคาด) ท่ามกลางข้อมูลการผลิตที่แข็งแกร่งท่ามกลางราคาในกลุ่มวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น


· นายโยชิฮิเดะ ซูกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแก่ประชาชน กลางเดือน ก.พ.นี้


· เกาหลีใต้ อนุมัติ วัคซีนโควิด AstraZeneca เป็นครั้งแรก และมีแผนจะฉีดแก่ผู้สูงอายุ

เกาหลีใต้ จะอนุมัติวัคซีนป้องกันโควิด AstraZeneca เป็นครั้งแรก และจะอนุญาตให้ใช้กับผู้สูงอายุ 65 ปี ขึ้่นไป ทั้งที่คณะที่ปรึกษาเตือนว่ายังขาดข้อมูลที่ชัดเจนสำหรับการใช้กับผู้สูงอายุ

ทั้งนี้รองรัฐมนตรีสาธารณสุข เผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลจะอนุมัติฉุกเฉินวัคซีน AstraZeneca ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัท จะต้องส่งผลการทดลองทางคลินิกฉบับเต็มและจะตัดสินใจอย่างระมัดระวังในการฉีดวัคซีนแก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

อย่างไรก็ตามหลายประเทศทางยุโรป เตือนว่า ควรให้การฉีดวัคซีนแก่ผู้ที่มีอายุ 18 ถึง 64 ปีเท่านั้น และเกรงว่าเกาหลีใต้จะจัดลำดับความสำคัญของผู้สูงอายุและบุคลากรทางการแพทย์ในการฉีดวัคซีนรอบแรกก่อน


· ผู้เชี่ยวชาญ U.N. ชี้ เกาหลีเหนือมีการขโมยข้อมูลไซเบอร์ คิดมูลค่าความเสียหาย 281 ล้านเหรียญ และมีแนวโน้มที่บริษัท KuCoin จะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป


· น้ำมันยังขึ้นได้ต่อหลังข้อมูลสต็อกน้ำมันเอกชนปรับตัวลง

ราคาน้ำมันดิบยังปรับขึ้นต่อเนื่องในวันนี้ เรียกได้ว่า เป็นสัปดาห์ที่ปรับขึ้นยาวนานที่สุด หลังจากที่ API เผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในสัปดาห์ก่อนลดลงเกินคาดกว่า 3.5 ล้านบาร์เรล ที่ระดับประมาณ 474.1 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่าจะเห็นอุปสงค์น้ำมันโลกฟื้นตัว

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 11 เซนต์ หรือ +0.2% ที่ 61.20 เหรียญ/บาร์เรล หลังวานนี้ปิดปรับขึ้นเกือบ 1% แตะสูงสุดรอบ 13 เดือน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 2 เซนต์ ที่ 58.28 เหรียญ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางส่วนในเวลานี้คาดการณ์ว่าอาจเห็นอุปทานน้ำปรับตัวลงในปี 2021 เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีน และการเริ่มต้นออกเดินทางและกลับมาทำงานตามปกติ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยบวกต่ออุปสงค์น้ำมัน


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com