MTS Help Center

ทองคำปิดบวกจากดอลลาร์อ่อนค่า ท่ามกลางตลาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

·         ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 4 วันทำการ ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่ยังเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่า ขณะที่นักลงทุนหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯจะสามารถผ่านสภาคองเกรสได้ และจะกลายมาเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ

·         ทองคำตลาดโลก +0.2% ปิดที่ระดับ 1,840.96 เหรียญ

·         สัญญาทองคำปิดปรับขึ้นประมาณ 0.4% ที่ระดับ 1,842.7 เหรียญ

·         นักวิเคราะห์จาก Quantitative Commodity Research กล่าวว่า ความกังวลว่าเงินเฟ้อจะปรับขึ้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในสหรัฐฯอันเป็นผลจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดูจะส่งผลให้เกิดความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ

·         กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ขายทองคำออก 1.75 ปัจจุบันถือครอง 1,146.59 ตัน โดยภาพรวมขายทองคำออกต่อเนื่อง 4 วัน รวมเป็น 13.25 ตัน

·         นักวิเคราะห์การตลาดจาก OANDA กล่าวว่า  ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯในเวลานี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญ และแนวโน้มที่จะเห็นเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ก็อาจทำให้ระยะสั้นๆเราเห็นดอลลาร์แข็งค่าก่อนและกดดันทองคำได้

·         รายงานการผลิตทองคำในประเทศแคนาดาปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงไตรมาสที่ 3/2020  โดยภาพรวมแตะ 1,500 กิโลออนซ์  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2/2020 ราว 29%

·         ราคาแพลทินัมปิดพุ่งทำสูงสุดตั้งแต่ก.พ. ปี 2015 ที่ระดับ 1,213.10 เหรียญ จากคาดการณ์อุปสงค์ฟื้นตัว  โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์

·         ราคาซิลเวอร์ปิด -0.4% ที่ระดับ 27.31 เหรียญ

·         ราคาพลาเดียมปิด +0.8% ที่ 2,337.16 เหรียญ

·         “โพเวลล์” ชี้ ดอกเบี้ยจะยังอยู่ระดับต่ำ - ภาคแรงงานไม่สดใส

นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด มีมุมมองที่ไม่สดใสต่อภาคการจ้างงานสหรัฐฯ จึงจะยังเดินหน้าใช้นโยบายสนับสนุนทางการเงินต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาคนว่างงานจำนวนมหาศาล

ทั้งนี้ เฟดจะอดทนต่อการใช่นโยบายผ่อนคลายต่อไป เนื่องจากการใช้นโยบายดอกเบี้ยระดับต่ำจะนำมาซึ่งการฟื้นตัวในตลาดแรงงาน เพราะหนทางการฟื้นเศรษฐกิจ “ยังอีกไกล” ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องสนับสนุนการจ้างงาน

 

·         ส.ส.พรรคเดโมแครต ทำการเปิดเผยรายละเอียดข้อเสนอแพ็คเกจ Covid-19 ดังกล่าว โดยจะรวมการจ่ายเช็คโดยตรง 1,400 เหรียญ ให้เร็วที่สุดเพื่อให้ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า

·         ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ (CPI) ทรงตัวในเดือนม.ค.

ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯออกมาทรงตัวในเดือนม.ค. ตอกย้ำถึงภาวะที่ยังไม่สดใสจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ยังดำเนินไปและเข้ากดดันตลาดแรงงานรวมทั้งภาคอุตสาหกรรมการบริการ

ดัชนี CPI ขยายตัวได้ 0.3% ตามคาด ขณะที่เดือนธ.ค. ปรับทบทวนมาโตได้ 0.2%  ขณะที่ CPI รายปีปรับขึ้นได้ 1.4% สูงกว่าเดือนธ.ค. ที่อยู่ที่ 1.3%

 

·         ยอดงบดุลบัญชีของรัฐบาลสหรัฐฯมีการขาดดุลมากสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.63 แสนล้านเหรียญในเดือนม.ค. ท่ามกลางการจ่ายเช็คช่วยเหลือประชาชนรอบใหม่ที่เพิ่งส่งออกไป

 

·         ข้อมูลการลงทะเบียนเริ่มดำเนินภาคธุรกิจใหม่ในสหรัฐฯปรับตัวขึ้นในเดือนม.ค. 42% c9t 492,133 แห่ง เริ่มสะท้อนถึงภาวะกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง แม้ว่าจะยังมีการระบาดของไวรัสโคโรนาอยู่ในเวลานี้

 

·         ข้อมูลสต็อกค้าปลีกสหรัฐฯกลับมาฟื้นตัวได้ในเดือนธ.ค. แม้จะเผชิญยอดขายที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.1%

 

·         USTR มุ่งแก้ปัญหาด้านการสนับสนุนสายการบินเพื่อต่อสู้กับสหภาพยุโรป

·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนาทั่วโลกพบยอดติดเชื้อสะสมเข้าใกล้ 108 ล้านราย โดยล่าสุดอยู่ที่ 107.81 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตรวมสะสมอยู่ที่ระดับ 2.36 ล้านราย

สหรัฐฯมียอดติดเชื้อสูงสุดล่าสุดสะสมที่ 27.88 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตทะลุ 482,728 ราย

 

อินเดียยอดติดเชื้อสะสมรวมใกล้ทะลุ 11 ล้านราย ล่าสุดอยู่ที่ 10.87 ล้านราย ทางด้านรัสเซียยอดติดเชื้อทะลุ 4 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย และอังกฤษยอดสะสมใกล้แตะ 4 ล้านราย ในขณะที่สเปนยอดติดเชื้อทะลุ 3 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย 

ด้านญี่ปุ่นยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 400,000 ราย และเกาหลีใต้มีแนวโน้มพุ่งเหนือ 82,000 รายในเร็วๆนี้

 

ภาพรวมประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดของวานนี้ยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้น 157 ราย ทั้งนี้มียอดติดเชื้อสะสมที่ 23,903 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้น 1 ราย รวมเป็น 80 รายในขณะนี้

จังหวัด สมุทรสาคร ล่าสุด  พบผู้ป่วยรายใหม่อีก 132 ราย ลดลงอย่างต่อเนื่องจากวันก่อนหน้านี้ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 159 ราย

·         เยอรมนีขยายเวลา Lockdown ถึง 14 มี.ค. จากความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

·         คนไข้ที่ฟื้นตัวในสเปนอาจต้องรออีก 6 เดือนถึงจะสามารถเข้ารับวัคซีน Covid-19 ได้

 

·         บริษัท AstraZeneca คาดวัคซีนของบริษัทจะได้รับอนุมัติใช้ฉุกเฉินของ WHO ในช่วงเดือนกลางเดือนก.พ. นี้

 

·         แอฟริกาใต้จะลดการใช้วัคซีน AstraZeneca และจะหันมาใช้วัคซีนของ J&J แทน

รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข แอฟริกาใต้ กล่าวว่า แอฟริกาใต้จะเริ่มให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขเริ่มต้นใช้วัคซีนของ Johnson&Johnson (J&J) ในสัปดาห์หน้า จากกระบวนการศึกษาถึงการป้องกัน Covid-19 โดยเฉพาะความสามารถในการต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้

และมีแผนจะยกเลิกการใช้วัคซีนของบริษัท AstraZeneca เนื่องจากไม่สามารถป้องกันความรุนแรงระดับปานกลางของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้

วัคซีนของ J&J จะถูกใช้ในเฟสแรกของโครงการฉีดวัคซีนชองแอฟริกาใต้ให้แก่เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพจำนวน 1.25 ล้านคน ตามมาด้วยโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนประมาณ 40 ล้านคนในประเทศได้จนถึงช่วงสิ้นปี

 

·         “ไบเดน” ให้ความสนใจและต้องการข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับจีนและต้นกำเนิดของไวรัสโคโรนา

·         “ไบเดน” เผย กระทรวงกลาโหมกำลังทำการปรับทบทวนการดำเนินกลยุทธ์กับจีนโดยให้ความสำคัญกับเรื่องของหน่วยข่าวกรอง, ข้อมูลเทคโนโลยี และข้อมูลทางทหารของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ จะยังมีการปรับทบทวนมาตรการอื่นๆ ตั้งแต่การส่งทหารไปตะวันออกกลางและนโยบายกับ NATO

 

·         “ไบเดน” เรียกร้องให้สภาสูงสหรัฐฯยึดหลักกฎหมาย Obamacare ในการกลับมาใช้ใหม่ภายใต้การบริหารงานของเขา หลังจากที่ถูกยกเลิกโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

·         ทำเนียบขาวมีกำหนดการพบกับบรรดา CEO สายการบินในวันพรุ่งนี้

 

·         กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ หวังว่า รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของตุรกีและสหรัฐฯจะพูดคุยกัน แต่จะยังคงนโยบายต่อ S-400

 

·         “ไบเดน” จะทำการคว่ำบาตรผู้นำทางการทหารพม่าต่อต้านการทำรัฐประหาร

 

·         รัฐบาลรัฐประหารพม่า ตอบโต้ หลัง “ไบเดน” อนุมัติคว่ำบาตรผู้นำทางทหารและภาคธุรกิจ

 

·         วุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกัน เร่งคดีการฟ้องร้อง "ทรัมป์” หลังจากเห็นวิดีโอใหม่ของการเหตุจลาจลที่รัฐสภา ในระหว่างการพิจารณาคดีฟ้องร้อง

 

·         อียูจะทำการยืนยันข้อตกลง Brexit ภายใน 30 เม.ย. นี้

·         ข้อมูลภาคอุตสาหกรรมฝรั่งเศสอ่อนตัวลงกว่าคาดในเดือนธ.ค.

·         ผลสำรวจชี้ รัสเซียจะเผชิญเหตุประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 1998

·         ผู้นำเกาหลีเหนือ เรียกร้องการเพิ่มแผนเศรษฐกิจในการหนุนเศรษฐกิจประเทศ

·         หุ้นออสเตรเลีย เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ในตลาดเอเชียปิดเนื่องจากวันหยุด

หุ้นออสเตรเลียในเช้าวันนี้ไม่ค่อยเคลื่อนไหวในตลาด

โดยการซื้อขายหุ้นออสเตรเลีย S&P/ASX 200 ยังคงทรงตัว

สำหรับตลาดจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ปิดทำการเนื่องจากวันหยุด

 

·         นักบริหารการเงิน ระบุว่า ตลาดการเงินอยู่ในช่วงปรับฐาน ยังเป็นแรงกดดันกับเงินบาทเช่น ส่วนระยะถัดติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเอเชียกับสหรัฐ จะทำให้เงินทุนเริ่มเคลื่อนย้ายรอบใหม่ หนุนให้สกุลเงินในประเทศแข็งค่าตาม พร้อมจับตาแรกซื้อขายหุ้นORเข้าเทรดวันแรก

พร้อมคาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 29.80-30.00 บาท/ดอลลาร์