• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจหนุนตลาดหุ้น-ดอกเบี้ยสัปดาห์นี้

    15 กุมภาพันธ์ 2564 | SET News
 

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจหนุนตลาดหุ้น-ดอกเบี้ยสัปดาห์นี้

 

รายงานจาก CNBC ระบุว่า ปัจจัยใหญ่ในสัปดาห์นี้ คือ แพ็คเกจค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจมาเป็นปัจจัยที่เข้าหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ   และสร้างแรงกดดันต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในสัปดาห์นี้

 

ขณะที่การประกาศผลประกอบการก็ดูจะค่อยๆลดลง แต่บริษัทรายใหญ่บางแห่งยังคงเดินหน้ารายงานผลต่อไป

 

2 ปัจจัยเด่นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ

"เงินเฟ้อ" และ "การปรับขึ้นดอกเบี้ย" เป็น 2 ปัจจัยเด่นสำหรับการลงทุนที่ดูจะกลายมาเป็นปัจจัยเพิ่มต่อตลาดในการอัพเดตมุมมองว่าจะมีการลงนามให้ร่างแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นกลายมาเป็นข้อกฎหมายด้วยวงเงินจำนวนเท่าไร

 

หัวหน้านักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดจาก Prudential Financial กล่าวว่า ตลาดการเงินกำลังรอว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงเงินจำนวนมากเท่าใด และนี่คือ "เรื่องสำคัญมาก" 

 

ตลาดบางแห่งก็คาดว่าน่าจะเห็นแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจจากสหรัฐฯได้เป็นจำนวน 1 ล้านล้านเหรียญ หรือน้อยกว่านั้น หากสามารถเจรจาตกลงกันได้ แต่ ณ ขณะนี้ ก็ยังไม่เห็นวี่แววใดๆ  ขณะที่นักกลยุทธ์บางส่วนเปลี่ยนมุมมองต่อข้อเสนอแพ็คเกจ 1.9 ล้านล้านเหรียญ

 

ทั้งนี้ นักกลยุทธ์คาดว่าร่างกฎหมายจะมีการโหวตเพื่อลงมติกันในวันที่ 22 ก.พ. นี้ ที่อาจสามารถผลักดันให้เป็นกฎหมายบังคับใช้ได้ประมาณช่วงต้นสัปดาห์แรกของเดือนม.ค.

 

สำหรับกลุ่มนักลงทุนน่าจะยังมุ่งเน้นไปยังความคืบหน้าของทางคองเกรส

 

ผู้เชี่ยวชาญในตลาดการเงิน คาดว่า แพ็คเกจค่าใช้จ่ายจำนวนมากอาจมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้นๆ และอาจช่วยทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น แต่ก็จะนำมาซึ่ง "ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ"

 

เงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น

ในสัปดาห์ที่แล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี มีการปรับตัวขึ้นได้แตะ 1.2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ในช่วงต้นตลาดสั้นๆ แต่ก็กลับมาเคลื่อนไหวแนวเดิมอีกครั้งช่วงปลายตลาด

 

การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีมุมมองจาก *การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ* แต่ก็มาควบคู่กับ "คาดการณ์เงินเฟ้อ" ที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย

 

นอกจากนี้ ตลาดเองยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจที่จะเติบโตได้อย่างร้อนแรงเกินไป  นับตั้งแต่ที่เกิดการกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินนโยบายของเฟด

 

ข้อมูลสถิติที่อยู่อาศัย

ข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯดูจะประกาศมาเพียงเล็กน้อยในช่วงวันหยุดประจำชาติ ขณะที่คืนวันพุธตลาดอาจจับตาไปยังดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ท่ี่จะเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่นของตลาดเกี่ยวกับยอดขายบ้านใหม่

 

และในวันพฤหัสบดีนี้ต้องติดตามข้อมูลจากรัฐบาลในเรื่องยอดขายบ้านที่รออนุมัติปิดการขาย และยอดขออนุมัติก่อสร้างบ้าน รวมไปถึงวันศุกร์ที่จะประกาศยอดขายบ้านมือสอง

 


GameStop และ Short Squeeze

ตลาดหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ควบคู่กับกลุ่มพลังงานเทคโนโลยี และการเงิน ที่มีการเคลื่อนไหวค่อนข้างดีที่สุดของตลาด โดยดัชนี S&P500 ปิดสัปดาห์ +1.2% ที่ระดับ 3,934 จุด

 

นอกจากนี้ ตลาดดูจะให้ความสนใจกับการพูดคุยกันในห้องกระทุ้งของ Reddit Trading ขณะที่วันพุธตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นต่อก่อนที่จะอ่อนตัวลงจากแรงเทขายทำกำไร

 

นักลงทุนให้ความสนใจว่าในคืนวันพฤหัสบดีนี้ ทางคณะกรรมาธิการกำกับดูแลบริการของภาคธนาคารในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจะมีมุมมองต่อบริษัท GameStop และหุ้นบริษัทอื่นๆอย่างไรที่ประสบภาวะ Short Squeeze

 

CEO ของบริษัท Robinhood คาดว่าจะมีการกล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับการจัดการใน Melvin Capital Management and Citadel.

 

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

15 ก.พ.

วันหยุดสหรัฐฯในวัน President Day

ตลาดส่วนใหญ่ปิดทำการ

 

16 ก.พ.

ผลประกอบการบริษัทต่างๆ อาทิ

CVS Health, Occidental Petroleum, AIG, Avis Budget,

Lattice Semiconductor, U.S. Foods, Advance Auto Parts, Vulcan Materials, Palantir และ Agilent, La-Z-Boy

- 20.30น. ดัชนีผู้จัดการผลิตสหรัฐฯ

- 23.10น. นายมิเชลล์ โบว์แมน สมาชิกบอร์ดของเฟด

- 00.30น. นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้

- 01.00น. นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส

- 04.00น. TIC เผยข้อมูลดัชนีธุรกรรมระยะยาวสุทธิของสหรัฐฯ

 

17 ก.พ.

รายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆ ได้แก่ Hilton Worldwide, Synopsys, Pioneer Natural Resources, Cheesecake Factory, Tanger Factory Outlets, Hyatt Hotels, Owens Corning, Baidu, CF Industries, Marathon Oil และ Analog Devices

20.30น. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ

20.30น. ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรฐัฐฯ (PPI)

21.15น. ผลผลิตภาคอุตสหากรรมสหรัฐฯ

22.00น. ถ้อยแถลงนายอีริค โรเซ็นเกร็น ประธานเฟดสาขาบอสตัน

02.00น. รายงานประชุมเฟดประจำเดือนม.ค.

 

18 ก.พ.

รายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆ ได้แก่  Applied Materials, Cabot Oil & Gas, Barrick Gold, Southern Co., Waste Management, Marriott, Dropbox, Trip Advisor, Consolidated Edison และ Credit Suisse,

20.00น. นางลาเอล เบรนาร์ด สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด

20.30น. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ

20.30น. ยอดอนุมัติก่อสร้างบ้านสหรัฐฯ

20.30น. ยอดการเริ่มต้นสร้างบ้าน

20.30น. ผลสำรวจความเชื่อมั่นของเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย

 

19 ก.พ.

รายงานผลประกอเบการบริษัทต่างๆ คือ  Deere, Eni และ Allianz

22.00น. ยอดขายบ้านมือสอง

23.00น. นายโรเบิร์ต โรเซ็นเกร็จ ประธานเฟดสาขาบอสตัน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com