• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564

    15 กุมภาพันธ์ 2564 | Economic News
   

· Bitcoin ไม่ผ่าน 50,000 เหรียญอ่อนตัวกลับลงมาอีกครั้งจากแรงขายทำกำไร

โดย Bitcoin ปรับตัวลดลงไปมากถึง 5.6% บริเวณ 45,914 เหรียญในตลาดเอเชีย หลังจากที่ไปทำสูงสุดรอบประวัติการณ์ที่ 49,714.66 เหรียญ

ทางด้าน Ether ร่วงลงกว่า 8% ในวันนี้


· สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันที่ตัดสินว่า "ทรัมป์" ผิด ณ ขณะนี้กำลังเผชิญกับเสียงต่อต้านภายในรัฐของตนเอง


· Kuaishou บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนเข้าจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงแทนที่จะเป็นสหรัฐฯ หลังจากที่เผชิญ Trade War ในยุคของทรัมป์


· ผู้อำนวยการ CDC ยังเตือน "เร็วเกินไปที่จะยกเลิกมาตรการสวมใส่หน้ากากอนามัย" แม้จะเห็นยอดติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศลดน้อยลงกว่าเท่าตัว


· อังกฤษมีรายงานการฉีดวัคซีนเป็นครั้งแรกสูงกว่า 15 ล้านคนใน 4 กลุ่มของเจ้าหน้าที่อาวุโส

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวที่เป็น "ความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา"

สถานการณ์ในสเปนและพื้นที่ในภูมิภาคกาตาลัน ทำให้ภาพรวมสถานการณ์มีความเป็นไปได้เพิ่มมากขึ้นสำหรับการเจราของทางอียูแลมาร็ตติ้ง

ด้านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังยูโรโซน จะทำการหารือกันในวันนี้เกี่ยวกับการฟื้นคืนเศษฐกิจของประเทศ


· นายแพทริก นิป รัฐมนตรีกระทรวงราชการพลเรือนของฮ่องกง ระบุว่า ฮ่องกงจะสามารถเริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาได้ในช่วงต้นเดือนมี.ค. หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน


· เจ้าหน้าที่ กล่าวว่า การจัดส่งวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาของบริษัท Pfizer/BioNTech ครั้งแรกมาถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในวันนี้

โดยนาย สก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ระบุว่า วัคซีนกว่า 142,000 โดสมาถึงสนามบินซิดนีย์เพื่อรับมือกับการระบาดไวรัสในประเทศ


· นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาด อินเดียจะกลายมาเป็นผู้ผลิตวัคซีน Covid-19 รายใหญ่ที่สุดลำดับ 2 รองจากสหรัฐฯ

เนื่องจากประเทศอินเดียมีทั้งเงินทุนในการผลิตทั้งจากประชากรของตัวเองรวมทั้งประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ

วัคซีนที่ทั่วโลกได้รับในเวลานี้ส่วนใหญ่ก็มาจากอินเดีย แม้ว่าก่อนเกิด Covid-19 ประเทศในแถบเอเชียใต้จะมีการผลิตวัคซีนได้มากที่สุดกว่ า 60% ของโลก และสามารถใช้ได้ในราคาต้นทุนต่ำ

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ระบุว่า อินเดียกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนอีกหนึ่งแห่งและอาจมีการปรับกลยุทธ์กับประเทศคู่ค้าทั่วโลกในการส่งต่อวัคซีนต้าน Covid-19

Deloitte สถาบันที่ปรึกษาแห่งหนึ่ง คาดว่า อินเดียจะเป็นประเทศผลิตวัคซีนรายใหญ่เป็นลำดับที่ 2 และคาดว่าน่าจะเห็นอินเดียมีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้ไวกว่า 3.5 พันล้านโดสภายในปี 2021 เมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐฯที่อยู่ราว 4 พันล้านโดส

อย่างไรก็ดี บริษัทต่างๆในอินเดีย ณ ปัจจุบันก็มีการเร่งการผลิตเพื่อให้เพียงต่อต่ออุปสงค์เวลานี้


· อิหร่านจะถอนสัญญาข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2015 หากไม่มีการปรับปรุงรายละเอียดใดๆ

ขณะที่ 21 ก.พ. ทีมนักกฎหมายจะบังคับให้รัฐบาลยุติอำนาจของ U.N. ในการกำกับดูแลเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ภายใต้ข้อตกลงฉบับปี 2015 และจำกัดการตรวจสอบในพื้นที่นิวเคลียร์


· การประท้วงในพม่ายังดำเนินต่อไป แม้รัฐบาลทหารพม่าจะขนกองกำลังทหารและรถหุ้มเกราะออกมาข่มขู่


· นางออง ซานซูจี ถูกคุมขังจนถึงวันพุธไม่ใช่วันจันทร์อย่างที่คาดคิด

ทางด้านกองกำลังความมั่นคงพม่าส่งสัญญาณการจำกัดการชุมนุมที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่น การนำรถถังและเจ้าหน้าที่มาประจำไว้ในสถานที่ต่างๆ ในหลายเมือง

ขณะที่ประชาชนหลายแสนคนออกเดินทางไปตามท้องถนนทั่วประเทศเป็นเวลา 10 วันเพื่อประณามการรัฐประหาร ซึ่งส่งผลให้ประเทศเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยและเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซูจี


· น้ำมันแตะระดับสูงสุดรอบ 13 เดือน ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน จากความกลัวว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางกระตุ้นให้เกิดการซื้อครั้งใหม่ ขณะที่ความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯและการผ่อนคลายการล็อกดาวน์จะช่วยหนุนอุปสงค์เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น


โดยน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 1.09 เหรียญ หรือ 1.8% ที่ระดับ 63.52 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 63.76 เหรียญ/บาร์เรล เมื่อวันที่22 ม.ค. ที่ผ่านมา

ด้านน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 1.28 เหรียญ หรือ 2.2% ที่ระดับ 60.75 เหรียญ/บาร์เรล แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ภาพรวมรายสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นราว 5%


· น้ำมันปรับขึ้นจากความกังวล "ตึงเครียดตะวันออกกลาง"

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นทำสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีวันนี้ หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรตะวันออกกลางนำโดยซาอุดิอาระเบียมีการต่อสู้กับกลุ่มกบฎฮูติในเยเมนด้วยการสกัดกั้นโดรนที่กลุ่มกบฎดังกล่าวยิงออกมาจากพื้นที่ของทางอิหร่าน



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com