MTS Help Center

ราคาทองคำปรับลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น

 

·         ราคาทองคำฟื้นตัวได้เล็กน้อย หลังจากปรับลดลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน แต่ยังคงอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ

 

·         ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลงมา 0.3% แถว 1,771.16 เหรียญ หลังร่วงลงไปทำต่ำสุดที่บริเวณ 1,759.29 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์นี้ร่วงลง 2.9%

 

·         สัญญาทองคำปรับลดลง 0.3% แถวระดับ 1,769.20 เหรียญโดยประมาณ

 

·         หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของ Geojit Financial Services กล่าวว่า ราคาดีดตัวขึ้นหลังจากแตะแนวรับทางเทคนิคที่ระดับ 1,760 เหรียญ  และนั่นคือเหตุผลที่เราเห็นการฟื้นตัวบางส่วน

 

·         อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำจะยังคงถูกกดดันต่อไปเนื่องจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ผลตอบแทนที่สูงขึ้นและค่าเงินดอลลาร์ที่มีเสถียรภาพ

 

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งปีในช่วงต้นสัปดาห์ โดยการที่อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นจะเพิ่มต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำแท่ง ซึ่งไม่เสียดอกเบี้ย

 

·         โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีการฟื้นตัวค่อนข้างมากในสัปดาห์ที่แล้ว และมีแนวโน้มจะขยายตัวต่อตามข่าวการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและจีน จากการใช้งานวัคซีนที่แพร่หลาย

 

·         ขณะที่การทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ Bitcoin ดูจะสร้างความผันผวนและความท้าทายให้แก่ทองคำสำหรับการถือครองของกลุ่มนักลงทุนมั่งคั่ง รวมทั้งการกระจายความเสี่ยงของสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุน

 

 

·         ทองคำเผชิญแรงเทขายกดดัน-อาจปิดต่ำกว่า 1,765 เหรียญ

รายงานจาก FXStreet ระบุว่า ราคาทองคำแม้จะดีดกลับจากระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือนบริเวณ 1,761 เหรียญได้เมื่อเช้า แต่ก็ยังอยู่ในแนวโน้มขาลง และต้องจับตาว่าภาวะขาลงในเวลานี้ จะกดดันให้ภาพรายวันของทองคำปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดในวันที่ 30 พ.ย. ที่ระดับ 1,765 เหรียญได้หรือไม่

 

***สิ่งที่ต้องจับตามอง***

- ราคาทองคำเผชิญแรงเทขายอย่างหนักอาจกลับมาปิดต่ำกว่าต่ำสุดเดิมเมื่อ 30 พ.ย. บริเวณ 1,765 เหรียญได้

- ภาวะคำสั่ง Stops ในตลาด อาจเป็นตัวกระตุ้นให้ทองคำยิ่งหลุดต่ำกว่าระดับดังกล่าวได้

- ทองคำอาจปรับตัวลดลงไปหาต่ำสุดเดิมเมื่อ มิ.ย. ปี 2020 บริเวณ 1,720 เหรียญ

- RSI ราย 14 วัน ยังคงเคลื่อนไหวเหนือ Oversold ส่งสัญญาณถึงภาวะ "ขาลง" มีโอกาสเกิดขึ้นต่อ

 

ดังนั้น หากทองคำจะกลับเป็นขาขึ้นต้องไม่หลุดระดับแนวรับสำคัญ เพื่อจะปิดให้ได้เหนือระดับดังกล่าว ที่อาจมาหนุนให้ทองคำกลับไปทดสอบต่ำสุดเดิมของเดือนม.ค.แถว 1,803 เหรียญ ที่ยังไม่สามารถฝ่ากลับขึ้นไปได้

 

·         "วอร์เร็น บัฟเฟต" ออกจากการลงทุนในทองคำ

รายงานจาก Berkshire Hathaway ชี้ว่า นายวอร์เร็น บัฟเฟต ประธานบริษัทได้ทำการตัดสินใจลดการถือครองหุ้นทองคำลง และมีการขายหุ้น Barrick Gold ในไตรมาสที่ 4/2020 หลังจากที่มีการเข้าซื้อหุ้นทองคำใน Barrick Gold มากถึง 21 ล้านหุ้นช่วงไตรมาสที่ 2/2020 จากนั้นก็ค่อยๆปรับสถานะมาเป็นผู้ขายตั้งแต่ไตรมาสที่ 3

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวได้สร้างความแปลกใจให้กับหลายๆคน ที่กำลังสะท้อนว่า นายบัฟเฟต กำลังมีมุมมองเชิงลบต่อราคาทองคำนั่นเอง

 

·         ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้ม "ขาขึ้น" แต่การขึ้นล่าสุดจะนานเท่าไรขึ้นอยู่ "จีน"

รายงานจาก CNBC เผยมุมมองนักเศรษฐศาสตร์ โดยระบุว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นแต่กรอบเวลาที่ว่าจะขึ้นได้นานเท่าไรสำหรับ Supercycle ในครั้งนีี้ จะขึ้นอยู่กับจีนเป็นหลัก

ทั้งนี้ Supercycle ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2000 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตทางการเงินทั่วโลก ก่อนจะพุ่งไปทำสูงสุดในปี 2008 เมื่อจีนกลายมาเป็นมหาอำนาจในสินค้าโภคภัณฑ์

นักเศรษฐศาสตร์จาก Commonwealth Bank of Australia ระบุว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ อย่างน้ำมัน ก็จะเห็นได้ว่ามีการรีบาวน์อย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ต.ค. ในปีที่แล้ว จากข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับวัคซีน Covid-19

อย่างไรก็ดี "จีน" มีสัดส่วนอุปสงค์ประมาณ 50% ถึง 60% ของความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนั้น การหารือเรื่อง Supercycle ครั้งนี้ จึงต้องดูว่าทิศทางสินค้าโภคภัณฑ์ในปี 2021 เป็นอย่างไร 

เพราะหาก "สังเกต" จะพบว่า ราคาสิค้าโภคภัณฑ์มีการปรับตัวขึ้นตั้งแต่ที่จีนเริ่มได้รับการสนับสนุนจากข้อกำหนดจีนในการกระตุ้นโครงสร้างพื้นฐานปี 2020 และต้องรอดูว่าจะมีความคืบหน้าเช่นไรในปี 2021 นี้

ดังนั้น "จีน" จึงเป็นหัวใจหลักสำหรับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และราต้องรอจนกว่าจะเห็น

- นโยบายสนับสนุนเพิ่มเติม

- แผนเศรษฐกิจ 5 ปีข้างหน้า (ที่ถือเป็นแผนพื้นฐานที่สอดคล้องกับสินค้าโภคภัณฑ์)

แต่ภาพรวมไม่คิดว่า Supercycle ในเวลานี้จะจบลง

สำหรับ JPMorgan และ Goldman Sachs ต่างก็มอง Supercycle ในสินค้าโภคภัณฑ์ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น

ขณะที่แนวโน้มของกลุ่มโลหะมีค่าเมื่อวานนี้ในตลาด LME มีการปรับตัวสูงขึ้น อาทิ ทองแดง +2.5% ที่ 8,606 เหรียญ/ตัน, อลูมิเนียม +1.23% ที่ 2,141 เหรียญ/ตัน และซิงค์ +2.17% บริเวณ 2,877 เหรียญ/ตัน

 

·         ราคาซิลเวอร์ปรับลงประมาณ 0.5% ที่ 26.87 เหรียญ ภาพรวมรายสัปดาห์ร่วงลง 1.8% ซึ่งเป็นระดับที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

 

·         ราคาแพลทินัมร่วงลง 1.3% ที่ระดับ 1,258.52 จุด หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์

 

·         ราคาพลาเดียมปรับลง 0.3% บริเวณ 2,345.07 เหรียญ

 

·         แพลทินัมช่วง 2 วันพุ่งขึ้นกว่า 5%

ในบรรดาสินทรัพย์โลหะมีค่า "แพลทินัม" ในตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า (Futures Markets) ดูเหมือนจะมีการปรับขึ้นได้ดีมากที่สุดต่อเนื่องตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยช่วง 3 สัปดาห์ก่อนแลพทินัมเปิดตลาดซื้อขายต่ำกว่า 1,100 เหรียญ หรือประมาณ 1,096 เหรียญ แต่ในวันนี้ราคาแพลทินัมปรับขึ้นได้กว่า 26.20 เหรียญ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่มากที่สุดตั้งแต่เม.ย. ปี 2021 และสัญญาซื้อขายในตลาด Comex ณ ปัจจุบันอยู่แถว 1,283.90 เหรียญ

เหตุผลที่เราเห็นราคาแพลทินัมปรับขึ้น

- แพลทินัมยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

- เหมืองแอฟริกาใต้มีการผลิตได้ราว 80% ของอุปทานทั่วโลก

- แพลทินัม เป็นสินทรัพย์เดียวในกลุ่มที่มีคุณสมบัติสามารถเปลี่ยนไฮโดรคาร์บอนที่ยังไม่ได้หลอมให้เป็นคาร์บอนไดออกไซด์และไอน้ำได้

- อุปสงค์ในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์เพิ่มขึ้น

- ความต้องการนำแพลทินัมมาใช้ในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดจ์ ระหว่าง การขับเคลื่อนด้วยก๊าซให้กลายมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า

- แพลทินัมกำลังถูกทดสอบว่าจะสามารถช่วยแบตเตอรี่และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีในกลุ่มขนส่งหรือไม่

- ความต้องการรถยนต์พลังงาน Engines เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศจีน