BITCOIN - ETHER พุ่งทำสูงสุดประวัติการณ์ใหม่
ในวันเสาร์ที่ผ่านมามีรายงานว่า
- Bitcoin ทะยานทำสูงสุดใหม่ และฟื้นตัวได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ท่ามกลางมูลค่าตลาดพุ่งแรงทะลุ 1 ล้านล้านเหรียญในช่วงต้นตลาดซื้อขาย
Bitcoin ทำสูงสุดครั้งประวัติการณ์ที่ระดับ 56,620 เหรียญ หนุนภาพรายสัปดาห์ปรับขึ้น 18% และปีนี้ขยับขึ้นแล้วกว่า 92%
ปัจจัยหนุนตลาด:
หลักฐานการยอมรับค่าเงินมากขึ้นของกลุ่มนักลงทุนและบริษัทชั้นนำต่างๆ เช่น Tesla, Mastercard และ BNY Mellon
Bitcoin ไปต่อเช้านี้พุ่งทะลุ 58,000 เหรียญครั้งแรก – อัตราผลตอบแทนรายปีสูงกว่า 98%
เช้านี้ Bitcoin พุ่งทะลุ 58,000 เหรียญ ทำสูงสุดครั้งประวัติการณ์รอบใหม่ที่ 58,332.36 เหรียญ ส่งผลให้ภาพรวมค่าเงินสกุล Cryptocurrency ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันทะยานเหนือ 100% ในเวลาเพียง 2 เดือนของปีนี้ ขณะที่ปีที่แล้ว Bitcoin ปรับขึ้นกว่า 305%
ทั้งนี้ หลังทำสูงสุด Bitcoin ก็เผชิญแรงขายทำกำไรตามมา แต่โดยรวมมีการปรับขึ้น 2.3% ที่ 58,148.31 เหรียญ ส่งผลให้ภาพรวมอัตราผลตอบแทนรายปี (YTD) ปรับขึ้นประมาณ 98%
หลายๆฝ่าย จับตาการปรับขึ้นของราคา Bitcoin ในครั้งนี้ โดยคาดว่า เป็นการปรับขึ้นจากกลุ่มผู้ซื้อที่ต้องการ “สินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ” จากแนวโน้มที่รัฐบาลต่างๆจะยังคงค่าใช้จ่าย และธนาคารกลางต่างๆยังคงมีการอัดฉีดเงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศตนเองในช่วงเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา
- Ether แม้จะมีมูลค่าสินทรัพย์และปริมาณซื้อขายเป็นที่นิยมรองจาก Bitcoin แต่ก็พุ่งทะยานทำสูงสุดครั้งประวัติการณ์ที่ 2,040.62 เหรียญ โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา +12%
ภาพรวม Ether และ Ethereum อาจมีการแลกเปลี่ยนกันได้ในระดับสากล จากการเป็นสกุลเงินที่เอื้อต่อการทำธุรกรรมด้วย Blockchain
นอกจากนี้ Ether Futures ยังก้าวสู่สัญญาซื้อขายสินค้าอนุพันธุ์ในตลาด CME แล้วเมื่อช่วงต้นเดือนก.พ. ที่ผ่านมา
มูลค่าตลาด Bitcoin ทะลุ 1 ล้านล้านเหรียญ ท่ามกลางค่าเงิน Cryptocurrency พุ่งขึ้นต่อเนื่อง
ราคา Bitcoin ยังคงทำสูงสุดต่อเนื่อง หนุนมูลค่าตลาดพุ่งทะลุ 1 ล้านล้านเหรียญ โดยคืนวันศุกร์เคลื่อนไหวต่ำกว่า 54,000 เหรียญ ก่อนจะทะยานเหนือ 55,000 เหรียญ และมีการปรับตัวสูงขึ้นระดับรายวันกว่า 6% ขณะที่ภาพรวม Bitcoin ปรับขึ้นกว่า 360%
นักลงทุนและภาคบริษัทเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ราคามีการปรับตัวสูงขึ้น Bank of New York Mellon เอง ซึ่งเป็นธนาคารเก่าแก่ของสหรัฐฯ ประกาศในช่วงต้นเดือนถึงการเคลื่อนไหวที่จะเข้าลงทุนในตลาด เช่นเดียวกับ Tesla ที่เลือกลงทุนตั้งแต่ช่วงปี พร้อมๆกับจะเริ่มยอมรับการใช้ค่าเงินสกุลดิจิทัลชำระค่าสินค้าและบริการ
ที่มา: Reuters, CNBC